Advertisements

INSPIRATION

เรื่องการเงินที่ถูกหลอกมาทั้งชีวิตไม่ใช่แค่ครั้งเดียว…แต่ผมถูกหลอกถึง 2 ครั้งซ้อน

การที่ผมเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ทำงานประจำและรับราชการมาโดยตลอด ผมถูกสอนมาตลอดว่า “การลงทุนหรือการซื้อหุ้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงสูง” ให้เราหมั่นขยันทำงาน คอยเก็บและออมเงินไว้อย่างเดียว อย่าไปสนใจ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทำให้ตั้งแต่ผมเริ่มทำงาน ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินและพยายามหาวิธีการฝากประจำที่จะให้ดอกเบี้ยได้สูงที่สุดมาโดยตลอด ถึงแม้จะเคยเริ่มลองเล่นหุ้นดูบ้าง ได้เคยซื้อหุ้นตามคำแนะนำเพื่อน ได้เคยซื้อหุ้นตามกระแส แต่สุดท้ายก็จบด้วยการ “ขาดทุน” และการสูญเสียเงินที่เราใช้น้ำพักน้ำแรงหามาก็ทำให้เรารู้สึก “เข็ด” กับหุ้นและการลงทุนมาโดยตลอด และคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยาก แต่ต่อมา... เมื่อโอกาสนำพาให้เราได้มีโอกาสทำงานในสายการเงิน ได้เข้าใจเรื่องของกลไกของตลาดทุนมากขึ้น มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า เรื่องลงทุนนั้นอาจจะไม่ได้ยากหรือไกลตัวไปสำหรับเราเลย ถึงแม้เราจะไม่ชอบความเสี่ยง...

12 เช็กลิสต์ ทบทวนตัวเองว่ายังมีความสุขกับงานที่ทำอยู่หรือเปล่า?

งานที่ทำ เงินเดือนที่ได้ สภาพแวดล้อมในที่ทำงาน ยังทำคุณรู้สึกอยากตื่นไปทำงานอยู่หรือเปล่า? แพชชันและจุดมุ่งหมายที่วาดไว้ ยังเป็นเหมือนเดิมอยู่หรือไม่?คำถามเหล่านี้เป็นเพียงคำถามเบื้องต้น ที่เราอาจจะเคยได้ยินจากปากของคนรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทก็ตาม แต่เราก็คงตอบไปได้สั้นๆ ว่า “ก็ดี” หรือ “ไม่ค่อยดี” ทว่า คำตอบเหล่านี้ไม่ได้เป็นคำตอบที่ดีสักเท่าใดนัก เพราะมันกว้างเกินกว่าที่จะเจาะจงได้ว่าจริงๆ แล้ว เราชอบงานนี้หรือไม่ หรืองานนี้มันไม่เหมาะกับเราอย่างไรเราต่างใช้เวลาหนึ่งในสามของชีวิตไปกับการทำงาน ซึ่งถ้านับดีๆ สำหรับบางคนที่ทำงานหนัก เวลาที่ถูกลงแรงไปอาจจะมากกว่าหนึ่งในสามด้วยซ้ำ ดังนั้น การหานิยาม...

ทำความเข้าใจหลักการเงิน “Impossible Trinity” สามนโยบาย ที่เลือกได้แค่สอง 

“Impossible Trinity” หรือสามเหลี่ยมที่เป็นไปไม่ได้ เป็นหนึ่งทฤษฎีในการเงินสำคัญของโลกที่มีผลโดยตรงกับอัตราแลกเปลี่ยน “หยวนแข็งค่า-ธนาคารกลางจีนเข้าแทรกแซง!” “เยนอ่อนค่า-ธนาคารกลางญี่ปุ่นเข้าแทรกแซง!” เมื่อค่าเงินแข็ง-อ่อน ทำไมธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ ต้องเข้าแทรกแซง? หลายๆ คนน่าจะเกิดคำถามเมื่อเห็นพาดหัวข่าวเหล่านี้ เราลองมาหาคำตอบจากทฤษฎี “Impossible Trinity” กัน Impossible Trinity นโยบายการเงินสามทาง ที่เลือกได้แค่สอง Impossible Trinity หรือสามเหลี่ยมที่เป็นไปไม่ได้ เป็นทฤษฎีที่เอาไว้กำหนดกรอบการออกนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่คีย์สำคัญคือ Impossible Trinity...

มีงานอดิเรกกี่อย่างดี? ชีวิตถึงจะมีทั้ง “ความสุข” และ “ความหมาย”

“งานอดิเรก” สิ่งที่เราเกือบทุกคนเคยมีในตอนเด็กที่เรายังมีเวลาว่างมากกว่านี้ เราใช้มันไปกับการวาดรูป เล่นกีฬา เล่นดนตรี เต้น หรือแม้กระทั่งสะสมสิ่งของต่างๆ แถมเรายังบอกเล่าให้เพื่อนๆ ในชั้นเรียนฟังได้อย่างภาคภูมิใจแต่เมื่อเราโตขึ้น งานอดิเรกก็หล่นหายไปตามกาลเวลาพอโตเป็นผู้ใหญ่ เราใช้เวลาส่วนมากไปกับการทำงาน ส่วนเวลาที่เหลือก็พยายามรักษาให้มี Work-Life Balance ส่วนงานอดิเรกน่ะหรือ? ลืมไปได้เลย ชีวิตผู้ใหญ่อันแสนวุ่นวายไม่ได้มีพื้นที่ว่างพอขนาดนั้นแต่รู้ไหมว่างานอดิเรกที่เรามองข้ามนั้น “มีประโยชน์” ต่อตัวเรามากกว่าที่คิด และอาจเป็นเหมือน “แสงสว่าง” ท่ามกลางชีวิตผู้ใหญ่อันแสนห่อเหี่ยวเลยก็ว่าได้ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับข้อดีและวิธีหาเวลาว่างให้งานอดิเรก พร้อมกับตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่า “มีงานอดิเรกกี่อย่างถึงจะดี”...

จิบสักนิดแล้วงีบสักหน่อย Nappuchio ดื่มกาแฟอย่างไร ให้โปรดักทีฟตลอดทั้งวัน

เชื่อว่าสำหรับเหล่าพนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่หรือใครก็ตามที่กำลังทำงานประจำแบบมนุษย์เงินเดือน มักจะมีเครื่องดื่มหนึ่งที่เป็นตัวช่วย “ปลุก” ให้เรานั้นเกิดความสดชื่น พร้อมมีกำลังในการทำงาน ซึ่งเครื่องดื่มที่ว่านี้ก็คือ “กาแฟ” นั่นเองสำหรับชีวิตของคนทำงานหลายคน เชื่อว่าจะต้องมีกาแฟสอดแทรกอยู่ในกิจวัตรยามเช้าของตัวเองอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดริปจากเอธิโอเปียที่เต็มไปด้วยโปรไฟล์รสชาติแบบผลไม้ ไปจนถึงเอสเปรสโซช็อตแบบเข้มข้นที่ทำให้นัยน์ตาเบิกโพลงอย่างรวดเร็ว โดยพฤติกรรมการดื่มกาแฟของแต่ละคนนั้นก็แตกต่างกันออกไป สำหรับบางคน การดื่มกาแฟแบบค่อยๆ จิบไปอย่างช้าๆ ตั้งแต่เช้าถึงสายก็เพียงพอแล้วกับการที่จะทำให้พวกเขามีแรงทำงานไปตลอดทั้งวัน แต่สำหรับใครหลายคน การดื่มกาแฟแค่แก้วเดียวนั้นไม่เคยพอ ต้องมีแก้วที่สองในตอนบ่าย หรือเผลอๆ ต้องมีแก้วที่สามเป็นการปิดท้ายวันก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง จนเกิดเป็นคำถามว่าทำไมไม่ว่าจะดื่มเท่าไหร่ ก็ยังไม่หายง่วงเสียทีไม่แน่นะ เราอาจจะกำลังดื่มกาแฟผิดวิธีอยู่ก็เป็นได้ แล้วทำไมบางคนดื่มกาแฟแล้วไม่ง่วง? บางคนกินกาแฟแล้วตาสว่าง...

รู้จักเทรนด์ “FatFIRE”เมื่อคนไม่อยากทำงานที่รักแต่อยากทำงานที่รวย

รู้จักเทรนด์ “FatFIRE”เมื่อคนไม่อยากทำงานที่รักแต่อยากทำงานที่รวย ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นเทรนด์และนิยามการทำงานรูปแบบใหม่ๆ มากมาย ที่ต่างก็ได้รับการถกเถียงจนกลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Job Hopper, Quiet Firing, หรือ Hybrid Working . แต่ท่ามกลางเทรนด์การทำงานทั้งหมดนั้น มี 2 เทรนด์ ที่เรียกว่าเรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนบนโลกออนไลน์ และมีเสียงตอบรับที่ดูจากกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมาก นั่นก็คือ วิธีการทำงานเก็บเงินแบบสุดโต่งเพื่อเกษียณตัวเองอย่างรวดเร็วและมีความสุขที่มีชื่อว่า “F.I.R.E.” และ วิธีการทำงานแบบเรียบง่าย ไม่ต้องพยายามทำงานหนัก เพียงแค่รับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองก็พอแล้วอย่าง “Quiet Quitting” . เทรนด์การทำงานทั้ง 2 อย่างนี้ เป็นการนิยามการทำงานที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว โดยเทรนด์ F.I.R.E นั้นเป็นเทรนด์การทำงานที่ทุ่มเทให้กับการทำงานหารายได้ เพื่อปลดปล่อยตัวเองสู่อิสรภาพทางการเงินอย่างรวดเร็วโดยไม่สนถึง Work-Life Balnce หรือความสุขของตัวเองเลยแม้แต่น้อย สวนทางกับ Quiet Quitting ที่ต้องการหันมาให้ความสำคัญของ Work-Life Balance และความสุขในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง . ด้วยเหตุนี้ จึงได้เกิดเทรนด์การทำงานแบบใหม่เกิดขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นลูกผสมระหว่าง F.I.R.E. และ Quiet Quitting ที่เหมาะสำหรับคนที่ยังอยากทำงานอย่างมีความสุขในปัจจุบันแต่ก็ยังสามารถเกษียณตัวเองจากการทำงานแบบมีอิสรภาพทางการเงินตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่เช่นเดียวกัน โดยเทรนด์การทำงานนี้ มีชื่อว่า “FatFIRE”

9 แนวคิด พาชีวิตก้าวกระโดดสู่ความสำเร็จ

9 แนวคิด พาชีวิตก้าวกระโดดสู่ความสำเร็จ (tricks to success) ทุกคนล้วนต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านิยาม “ความสำเร็จ” ของละคนนั้นแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะอยากมีครอบครัว บางคนอาจจะอยากมีชื่อเสียง บางคนอาจจะยังมีทรัพย์สินจำนวนมาก หรือบางคนก็อาจจะส่งต่อความรู้และประสบการณ์ที่ตัวเองสั่งสมมา ให้คนอื่นๆ . แต่ขึ้นชื่อว่า “ประสบความสำเร็จ” นั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการที่เราจะไปถึงจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น เราอาจจะต้องการแนวคิดอะไรบางอย่าง ที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ที่จะทำให้เรานั้น ‘ก้าวกระโดด’ สู่ความสำเร็จ ในแบบที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย

อย่าใจร้ายกับตัวเองนักเลย ขอบคุณตัวเองดีกว่า ที่ยังเดินหน้าต่อได้ในทุกๆ วัน

พอโตขึ้นการเยียวยาจิตใจกลับกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยากและถูกละเลยมากขึ้นทุกที แล้วเมื่อไหร่กันนะ!? ที่เราควรเริ่มหันมาสนใจและเยียวยาจิตใจตัวเอง?

6 วิธีสร้างเช้าที่สดใส เพิ่มความสำเร็จระหว่างวัน

ในทุกๆ ปี นิตยสาร Time Magazine จะมีการจัดอันดับ 100 ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก โดยคัดเลือกบุคคลในแต่ละสาขาอาชีพที่มีผลงานโดดเด่นด้วยกันหลายหมวดหมู่ ทั้งนักแสดง ศิลปิน ผู้กำกับ ผู้บริหาร และอื่นๆ ซึ่งสำหรับ 100 ผู้ทรงอิทธิพลปี 2022 นี้ ก็พอจะมีชื่อที่เราคุ้นๆ กันอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น Tim Cook ซีอีโอของ Apple หรือจะเป็นพิธีกรสาวและนักธุรกิจชื่อดังอย่าง Oprah Winfrey . ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง หากเราเคยได้อ่านประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จ ก็จะพบว่าพวกเขาเหล่านี้มีนิสัยตื่นเช้าเป็นประจำ เพื่อที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลดีต่อตัวเอง

PODCAST

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า