self developmentโสดแต่ไม่เศร้า! เพราะเรามีความสุขได้โดยไม่ต้องง้อใคร

โสดแต่ไม่เศร้า! เพราะเรามีความสุขได้โดยไม่ต้องง้อใคร

“ก็โสดๆ อยู่ทางนี้…”

เมื่อเราพูดถึงคำว่า “โสด” หลายคนก็อาจมองว่าคนโสดนั้นจะต้องรู้สึกเศร้า เหงา ซึม และอยากมีใครสักคนข้างกายเป็นแน่ ใช่แล้ว แน่นอนว่าต้องมีคนแบบนั้นอยู่ คนที่หันไปทางไหนแล้วเห็นแต่คนมีแฟนก็รู้สึกเศร้า เหงา ซึมขึ้นมา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็ใช่ว่าทุกคนจะต้องรู้สึกเช่นนั้นเสมอไป

เพราะการมีความรักในบางครั้งนั้นบั่นทอนหัวใจ เพราะการมีคนข้างกายบางครั้งนั้นเศร้าเสียยิ่งกว่าการอยู่คนเดียว หลายคนจึงเรียนรู้วิธีเติมเต็มความสุขให้ตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่ถึงแม้ว่าการมีความสุขได้โดยไม่ต้องง้อใครดูเหมือนจะง่าย แท้จริงแล้วมันอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะบางคนเผลอผูกคุณค่าของตัวเองไว้กับคนอื่น ไว้กับการมีแฟน จนหลงลืมความสุขเล็กๆ ของตัวเองไป

แล้วคนโสดควรทำอย่างไรถึงจะมีความสุขด้วยตัวเองได้อย่างแท้จริง?

เป็นโสดแล้วมีความสุขจริงไหม?

ก่อนที่เราจะไปค้นหาเส้นทางสร้างความสุขด้วยตัวเอง เรามาสำรวจไปพร้อมๆ กันก่อนดีกว่าว่า แท้จริงแล้ว คนที่เป็นโสดมีความสุขจริงหรือไม่

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Personalization and Social Psychology Bulletin ได้พยายามหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ว่า
[ ] คนโสดมีความสุขจริงไหม?
[ ] ระดับความสุขจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาหรือเปล่า?
[ ] หากสมมติว่ามีความสุขจริง แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเหล่านั้นเกิดความรู้สึกเชิงบวกนี้ขึ้น เป็นเพราะพึงพอใจที่เป็นโสดหรือเป็นเพราะพึงพอใจกับชีวิตโดยทั่วไปกันแน่?

โดยงานวิจัยนี้ได้ทำการสำรวจความเป็นโสดและความพึงพอใจในชีวิตของชาวเยอรมัน 3,439 คน อายุ 14 ถึง 39 ปี ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่เคยแต่งงานมาก่อน ซึ่งผลลัพธ์จากงานวิจัยนี้ชี้ว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนโสดพึงพอใจกับทั้งชีวิตและความโสดของตัวเอง ดังนั้นแล้วคนโสดที่มีความสุขจึงมีอยู่จริง และมีอยู่มากด้วย

ซึ่งระดับความพึงพอใจนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยคนที่มีแนวโน้มจะมีความสุขกับความเป็นโสดมากกว่าคนอื่นคือ คนที่เป็นผู้หญิง อายุน้อย การศึกษาไม่ได้สูงมาก และมีสุขภาพที่ดีกว่าคนอื่นๆ

อย่างไรก็ดี เราไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัดเสียทีเดียวว่าการเป็นโสดนั้นทำให้เรามีความสุขและความพึงพอใจกับชีวิตแน่ๆ เพราะความสุขในชีวิตของเรานั้นขึ้นอยู่กับ “ตัวเราเอง” ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ชีวิตแบบไหน พึงพอใจกับชีวิต ณ ตอนนี้หรือไม่ อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่คาดเดาไม่ได้

สุขหรือไม่สุขขึ้นอยู่กับตัวเรา

หากเราใช้ชีวิตโสดๆ แบบวิ่งตามหาความรักความเมตตาจากคนอื่น แน่นอนว่าความสุขคงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเราเอง เพราะเรารอแต่คนอื่นมาหยิบยื่นความรักเล็กๆ น้อยๆ ให้

แต่หากเราใช้ชีวิตโสดๆ แบบโอบรับความโสด เข้าใจความเป็นไปของชีวิต ก็จะช่วยให้ค้นพบความสุขที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง เพราะ…

1) ความโสดช่วยให้เรามีพื้นที่ในการคิดไตร่ตรอง
หากเราคบกับใครสักคน เรามักจะนำเอาความสนใจทั้งหมดไปไว้กับคนรักของเรา แต่การเป็นโสดจะช่วยให้เราโฟกัสสิ่งที่เราต้องการได้อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องสนใจความคิดหรือความรู้สึกใคร เราจะมีเวลาคิดไตร่ตรองชีวิตของตัวเองมากขึ้น เราจะเยียวยาตัวเองเป็น ปล่อยวางอดีตลงได้ ไปพร้อมๆ กับได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทำความรู้จักตัวเอง

2) ความโสดช่วยให้เรามีเวลาดูแลตัวเอง
เชื่อไหมว่า คนโสดบางคนอาจมีสุขภาพที่ดีกว่าคนที่มีแฟน?

Bella DePaulo นักจิตวิทยาสังคมที่เขียนบทความให้กับ Psychology Today ชี้ว่า ผู้หญิงที่เป็นโสดมานานมีสุขภาพโดยรวมดีกว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว อีกทั้งยังลาป่วยน้อยกว่าและไปหาหมอน้อยกว่าด้วย

นอกจากนี้การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Social Science & Medicine ยังชี้ว่า คนโสดจาก 9 ประเทศในยุโรปมีค่าดัชนีมวลกายต่ำกว่าคนที่แต่งงานแล้ว และมีน้ำหนักโดยรวมน้อยกว่าประมาณ 5 ปอนด์ (ประมาณ 2.3 กิโลกรัม)

กล่าวโดยสรุปคือ คนโสดจะมีเวลาออกกำลังกายมากขึ้น ดังนั้นคนโสดบางคนจึงอาจมีสุขภาพที่ดีกว่าคนที่มีแฟนนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคลด้วย

3) ความโสดช่วยให้เรามีเวลาให้เพื่อน
“มีแฟนแล้วหายหน้าหายตา” เชื่อว่าไม่ใครก็ใครคงจะเคยโดนทักเช่นนี้เมื่อมีแฟน เพราะแบ่งเวลาไปให้แฟนหมด จนไม่มีเวลาออกไม่สังสรรค์กับเพื่อนอย่างที่เคย แต่สำหรับคนโสดแล้ว นอกจากจะมีเวลาให้ตัวเอง ก็ยังมีเวลาให้กับเพื่อนอีกด้วย ซึ่งการออกไปใช้ชีวิตกับเพื่อนบ่อยๆ จะทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเพื่อนฝูง และแน่นอนว่ามันจะช่วยให้เราต่อสู้กับความเหงาในระยะยาวได้

4) ความโสดช่วยให้ประหยัดเงินบางส่วน
แม้จะดูเหมือนว่าคนโสดมีข้อเสียเปรียบเรื่องการเงิน เนื่องจากต้องเจอกับปัญหาค่าครองชีพเพราะไม่มีใครให้หารค่าต่างๆ ด้วย แต่การเป็นโสดบางครั้งก็ทำให้มีข้อได้เปรียบทางการเงินเช่นกัน เพราะไม่ต้องใช้เงินไปกับคนอื่น ซึ่งข้อมูลจาก Debt.org ชี้ว่าคนโสดมีหนี้บัตรเครดิตน้อยกว่า โดยมีคนโสดที่มีหนี้บัตรเครดิต 21% ในขณะที่คู่แต่งงานที่ไม่มีลูก 27% และคู่แต่งงานที่มีลูก 36% ตามลำดับ จะเห็นได้ว่ายิ่งมีลูกค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงกว่า

นอกจากนี้ความโสดยังทำให้เราได้รับประโยชน์ด้านอื่นๆ อีก เช่น ช่วยให้เราพร้อมเปิดรับโอกาสในการทำงานใหม่ๆ เพราะไม่มีภาระต้องดูแล ทำให้ย้ายไปทำงานที่ไหนก็ได้ รวมถึงการไม่ต้องเครียดกับเรื่องความรักยังทำให้ทุ่มเททำงานได้ดีขึ้น และเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้นอีกด้วย

Advertisements
Advertisements

อยากสุขแบบโสดๆ ต้องละทิ้งพฤติกรรมเหล่านี้

การอยู่คนเดียวไม่ได้หมายความว่าเราต้องเหงา และการเรียนรู้ที่จะใช้เวลากับตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมันจะช่วยให้เรายืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ไม่ต้องร้องขอความรักจากใคร ไม่ต้องรอใครหยิบยื่นความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ มาให้ หากเป็นเช่นนั้นได้เราจะมีความสุขกับความโสดของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราสามารถฝึกฝนสร้างความสุขให้ตัวเองได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

อย่างแรกคือ เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ตอนนี้เราอยู่ในโลกที่เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เปิดโซเชียลไปก็เห็นคู่รักที่มีความสุขมากมาย ซึ่งบางครั้งเราก็อาจเผลอเปรียบเทียบชีวิตโสดของเรากับชีวิตคู่ของคนอื่นได้ แต่อย่าลืมว่าความสุขบนโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่การมีแฟน การอยู่คนเดียวก็สร้างความสุขให้ชีวิตเราได้ เพียงแค่เราต้องหาพื้นที่ความสุขของเราให้เจอ อย่าเสียเวลานำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะมันมีแต่จะทำให้เรารู้สึกแย่

อย่างที่สองคือ อย่าละเลยการดูแลตัวเอง บางคนอาจละเลยเรื่องนี้ไป จนทำให้สุขภาพกายและใจของตัวเองแย่ลง แต่จริงๆ แล้วเราควรดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ โดยการดูแลตัวเองนั้นหมายถึงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการนอนหลับให้เหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรามีความเครียดที่น้อยลง มีความสุขและมีมุมมองต่อตัวเองที่ดีขึ้น

อีกอย่างหนึ่งคือ อย่านำเอาคำพูดของคนอื่นมาใส่ใจมาก บางครั้งเราอาจถูกกดดันจากสังคมรอบข้าง เช่น มีคนถามว่าเมื่อไรจะแต่งงานมีลูกสักที ซึ่งแน่นอนว่าพอเราฟังคำพูดเช่นนี้บ่อยๆ เข้าก็อาจรู้สึกแย่กับตัวเองว่า “หรือตัวเราเองนั้นไม่ดี เพราะยังไม่มีแฟนสักที” แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ เวลาไหนควรมีแฟน แต่งงาน หรือมีลูก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับบรรทัดฐานและการตัดสินใจของคนอื่น แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและการตัดสินใจของเรา เพราะฉะนั้นอย่าเก็บคำพูดของคนอื่นมาใส่ใจ

และอย่างสุดท้ายคือ อย่ากลัวความเหงา เพราะความเหงาเป็นสภาวะจิตใจที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งกับคนที่มีแฟน ฉะนั้นปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเหงาบ้าง แต่อย่าพยายามดึงใครเข้ามาในช่วงเวลานี้เพียงแค่เพราะเหงา เพราะสุดท้ายแล้วมันอาจทำให้เราตัดสินใจเลือกคบคนผิดได้ สิ่งสำคัญเมื่อรู้สึกเหงาขึ้นมาคือให้ลองหาสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข เรียนรู้ที่จะมีความสุขกับการอยู่กับตัวเอง สุดท้ายแล้วความเหงาในใจมันก็จะค่อยๆ หายไปเอง

เส้นทางความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนอื่นมีความสุขกับการมีแฟน ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความสุขกับการอยู่คนเดียวไม่ได้ การเป็นโสดนั้นจะช่วยให้เราได้รับความสุขในเส้นทางที่แตกต่าง อยู่ที่ว่าเราเจอเส้นทางนั้นหรือยัง หากยังไม่เจอก็เพียงแค่ค้นหาและเรียนรู้ที่จะมีความสุขด้วยตัวเองโดยไม่ต้องง้อใคร

อ้างอิง
– Are Single People Happy? : Arash Emamzadeh, Psychology Today – https://bit.ly/48Sd6X1
– 7 science-backed reasons why you may be better off being single : Lindsay Dodgson, Business Insider – https://bit.ly/48TVVnN
– If you want to be happy single, say goodbye to these 9 behaviors : Lachlan Brown, Hack Spirit – https://bit.ly/48CGd0S

#selfdevelopment
#selflove
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า