เมื่อพูดถึงพัฒนาการของโลกแห่งการทำงานในปัจจุบันนั้น เรามักจะได้เห็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ โผล่ออกมาแบบวันเว้นวัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในรูปแบบของเครื่องมือที่บอกว่าจะมาช่วยให้คนทำงานมีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น แพลตฟอร์มต่างๆ ที่เข้ามาดิสรัปรูปแบบแนวคิดของคนทำงานใหม่ ไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่กำลังจะเข้ามาแทนที่คนทำงานอย่าง A.I. ต่างๆ จนทำให้เหล่าคนทำงานในปัจจุบันนั้นเริ่มมีอาการหวั่นเกรงและรู้สึกว่าเทคโนโลยีนั้นกำลังค่อยๆ เข้ามาคุกคามความมั่นคงในอาชีพของพวกเขา
การเข้ามาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีต่างๆ นี้ก็เป็นการทำให้คนทำงานหลายคนต้องปรับตัว ซึ่งในช่วงเวลาปรับตัวนั้นก็เป็นเรื่องปกติธรรมสำหรับเหล่าคนมีอายุหลายคนที่ไม่ค่อยคุ้นชินกับเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเกิดอาการงง ไม่เข้าใจ มีข้อสงสัย และต้องการคำปรึกษาจากผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญมาคอยแนะนำรวมถึงแก้ไขปัญหาให้
โดยปกติแล้วหน้าที่การแก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยีนี้ควรจะเป็นหน้าที่ของแผนกไอที แต่สำหรับในบริษัทเล็กๆ ที่ไม่ได้มีแผนกไอทีโดยเฉพาะนั้น คนกลุ่มแรกที่พี่ๆ ส่วนใหญ่มักจะหันหน้าไปขอความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีก็คงหนีไม่พ้นเหล่าน้องๆ คนรุ่นใหม่ชาว Gen Z อายุน้อย ที่ได้ชื่อว่าเป็น “Digital Native” หรือ ชาวดิจิทัลโดยกำเนิด
แต่ที่แท้จริงแล้ว น้องชาว Gen Z เองก็มีความลับอย่างหนึ่งที่พวกเขาไม่อยากบอกเท่าไหร่นัก ซึ่งความลับนั้นก็คือ พวกเขาหลายคนเองก็ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เหมือนที่พี่ๆ ในออฟฟิศเข้าใจหรอกนะ
Tech Shame ความอับอายของชาว Gen Z เมื่อความเก่งกาจทางเทคโนโลยีถูกแปะป้ายมาพร้อมกับคำว่า “คนรุ่นใหม่”
แน่นอนว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่นั้นอาจเติบโตมาพร้อมกับการเข้าถึงข้อมูลในทันทีด้วยโลกอินเทอร์เน็ตและความสนใจในอุปกรณ์แกดเจ็ตที่กลุ่มคนรุ่นเก่านั้นอาจจะไม่เคยรู้จักเท่าไรนัก แต่นั่นก็เป็นเพียงการทึกทักกันเอาเองว่าเด็กๆ ชาว Gen Z นั้นจะต้องเป็น ‘เซียน’ ทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ โดยกำเนิด แต่ที่แท้จริงแล้วเหล่าคนรุ่นใหม่หลายคนเองก็ไม่ได้มีความเก่งกาจเรื่องเทคโนโลยีมากกว่าคนอื่นๆ แต่อย่างใด และการที่พวกเขากำลังถูกเข้าใจผิดอย่างนี้นั้น มันกำลังก่อตัวกลายเป็นปัญหาภายในใจเงียบๆ ของเหล่าเด็กอายุน้อยในที่ทำงานเช่นกัน
จากการสำรวจวิจัยของ HP เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปี 2022 ที่ผ่านมานั้น ชาว Gen Z ที่อยู่ในวัยทำงานส่วนใหญ่นั้นกำลังพบกับปัญหาที่มีชื่อว่า Tech Shame หรือ “ความอับอายทางเทคโนโลยี” ซึ่งเป็นการนิยามความอับอายของชาว Gen Z เวลาที่พวกเขากำลังประสบปัญหาทางเทคโนโลยีในที่ทำงาน เช่น ต่อไวไฟไม่ติด ทำโปรแกรมค้าง หรือแม้กระทั่งไม่สามารถช่วยพี่ที่ทำงานแก้ไขปัญหาเชิงเทคนิคต่างๆ ได้นั้น พวกเขาจะรู้สึกอับอายขายขี้หน้ามากกว่าคนอื่นถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
อีกทั้งยังมีการทำแบบสำรวจในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรที่ได้ทำแบบสอบถามพนักงานออฟฟิศ 10,000 คนใน 10 ตลาดแรงงั้นนั้นพบว่า 1 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสำรวจที่มีอายุ 18-29 ปีบอกว่า พวกเขารู้สึกว่าตนเองกำลังถูกตัดสินเมื่อประสบปัญหาทางเทคโนโลยี ซึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป มีเพียง 1 ใน 25 เท่านั้นที่รู้สึกอับอาย
นอกจากนี้ 25% ของกลุ่มคนอายุ 18-29 ปีนั้นเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมการประชุม ถ้าหากพวกเขาคิดว่าเครื่องมือทางเทคโนโลยีสำหรับการทำงานเช่น คอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตของพวกเขาอาจทำให้การประชุมเกิดการขัดข้องได้
Debbie Irish หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ที่ HP ได้บอกว่า พวกเขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่พบว่าคนทำงานรุ่นใหม่รู้สึก Tech Shame มากกว่าคนทำงานที่มีอายุมากกว่า ซึ่งสาเหตุของปัญหานี้อาจจะมาจากต้นตอหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประสบการณ์ ความมั่นใจ หรือแม้กระทั่งรายได้ที่ยังไม่เพียงพอสำหรับเอาไปซื้ออุปกรณ์ทำงานที่มีคุณภาพ
โดย Debbie Irish ได้กล่าวต่อเพิ่มเติมว่า กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่บางคนเข้าสู่โลกของการเป็นครั้งแรกในรูปแบบของการทำงานออนไลน์ 100% จึงทำให้พวกเขามีความคุ้นเคยกับการทำงานในออฟฟิศน้อยกว่าคนรุ่นอื่นๆ รวมถึงยังไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากพนักงานรุ่นพี่ ที่ปรึกษา หรือแม้แต่เจ้านายของพวกเขาเองได้เท่าไรนัก
คนรุ่นใหม่ก็ต้องการ Training เหมือนกัน
คนส่วนใหญ่มักมีภาพจำว่าคนรุ่นใหม่นั้นมีความสามารถในการหาความรู้และข้อมูลต่างๆ มากมายได้ด้วยตัวเองตลอดเวลาแบบไม่พึ่งใคร แต่ในโลกของการทำงาน องค์กรต่างๆ จึงควรที่จะเพิ่มโปรแกรมการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับกลุ่มพนักงานคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าไปพร้อมๆ กัน เพราะแม้ว่ารุ่นใหม่อาจคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมดิจิทัลและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากขึ้น แต่ความรู้เหล่านั้นอาจจะไม่ได้ถูกนำไปใช้กับเครื่องมือการทำงานในระดับมืออาชีพเสมอไปอย่างเช่น Microsoft Teams, Lark, Slack, หรือ Microsoft Office ก็ตาม
นอกจากนี้ แบบสำรวจอนาคตของการทำงานของ Salesforce ซึ่งเผยแพร่เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็ได้ระบุเอาไว้อีกว่า พนักงานในสหราชอาณาจักรได้จัดอันดับ “ทักษะด้านดิจิทัล” ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับสถานที่ทำงานในปัจจุบันและในอนาคต แต่กลับพบว่ายังมีเหล่าคนทำงานถึง 27% ที่ไม่มั่นใจในความสามารถด้านดิจิทัลของตน
Cassidy Speller นักเขียนหลักสูตรการศึกษาวัย 25 ปีที่ทำงานอยู่ในบริษัทด้านการศึกษาหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์และแสดงความคิดเห็นต่อ Tech Shame เอาไว้ว่า “ฉันคงจะไม่พูดว่าฉันเป็นคนที่เซียนด้านเทคฯ เท่าไรนัก ฉันรู้วิธีการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ฉันต้องการ แต่ฉันยังไม่ได้พัฒนาทักษะนั้นมากพอที่จะมีความเข้าใจหรือมั่นใจมากพอมาใช้ในที่ทำงาน เช่น วิธีเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับปรินเตอร์เครื่องใหม่หรือสร้างสูตรใน Excel รวมถึงเรื่องอื่นๆ นอกจากการทำงานเหมือนกัน ฉันยังตัดคลิปบน TikTok ไม่เป็นเลย”
ปัญหาที่กลุ่มคน Gen Z กำลังเผชิญอยู่นี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีที่เพียงพอสำหรับคนทำงานยุคนี้ และในขณะเดียวกัน คนรุ่นก่อนๆ ก็ควรที่จะตระหนักได้มากขึ้นว่าการที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ได้ชื่อว่าเป็น Digital Native นั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเสมอไปนั่นเอง
ที่มา:
– ‘Tech shame’ is hitting young colleagues the hardest as they try to fix older colleagues’ technical issues and their own: Jordan Hart, Businessinsider – http://bit.ly/3wFeWcC
– When It Comes To Tech, Gen Z Workers Have Issues: Laura LeBleu, Forbes – http://bit.ly/3DtZ2pr
– Gen Z workers are not tech-savvy in the workplace – and it’s a growing problem: Oliver Pickup, Worklife – http://bit.ly/3kUoCgK
– Gen Z workers want managers to stop assuming they know it all when it comes to tech: Cloey Callahan, Worklife – http://bit.ly/3jiMxWS
– Gen Z is overwhelmed by ‘tech shame’ at work—and it’s keeping them quiet in meetings: Chloe Berger, Fortune – http://bit.ly/3XPClUL
#worklife
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
