ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราอยู่ในยุคที่ติดต่อสื่อสารกันหรือติดตามชีวิตคนสนิทกันได้โดยง่าย เพราะปัจจุบันมีโซเชียลมีเดียเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, LINE และ Instagram แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับความนิยมมาเป็นระยะเวลาหลายปี แต่ถ้าเราลองสังเกตดูดีๆ จะเห็นได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากเมื่อก่อน
ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่าง Instagram เมื่อก่อนแพลตฟอร์มนี้เป็นเหมือนพื้นที่ในการติดตามความเป็นไปของเพื่อนสนิท ครอบครัว และทำให้เราได้เห็นโลกจริงๆ ผ่านคนที่ติดตามอยู่ แต่เมื่อ Instagram เติบโตขึ้น ทุกๆ อย่างก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ตอนนี้จะเห็นได้ว่า Instagram มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟิลเตอร์ แฮชแท็ก การตั้งคำถามและโพลล์ในสตอรี และอื่นๆ อีกมากมาย จึงทำให้จากเดิมที่ Instagram เป็นพื้นที่แห่งความสนุก ตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือนพื้นที่ที่เราจะต้องมีการคิดและพิจารณาอะไรหลายๆ อย่างก่อนที่จะโพสต์ลงไป
เชื่อว่าไม่ใครก็ใครต้องคิดเรื่องเหล่านี้บ้างเป็นแน่เมื่อต้องการจะโพสต์ใน Instagram เช่น เราควรเขียนแคปชันอย่างไรดี? ควรใช้อีโมจิไหมนะ? หรือลงไปเลยแบบไม่ต้องพิมพ์อะไรดี แล้วปล่อยให้ภาพเล่าเรื่องไปเอง?
คำถามที่เกิดขึ้นในใจระหว่างที่เราต้องการโพสต์ใน Instagram เหล่านี้อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่า “กว่าจะลงอะไรได้แต่ละที ทำไมมันถึงยุ่งยากขนาดนี้กันนะ” จนทำให้ใครบางคนรู้สึกท้อและล้มเลิกแผนการในการโพสต์ลง Instagram ไป
ไม่เพียงแค่นั้น นอกเหนือจากเรื่องขั้นตอนที่ดูเหมือนจะมากความสำหรับบางคนแล้ว ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Instagram ยังเป็นเหมือนตัวการสำคัญที่เข้ามาผลักผู้ใช้ทั่วไปให้ออกไปจากแพลตฟอร์มนี้ด้วย เช่น ตอนนี้ Instagram เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับวิดีโอ ไลฟ์สด และการช็อปปิงมากขึ้น ทำให้ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่ามีคนโพสต์ลง Instagram อยู่ แต่ก็จะเป็นโพสต์ที่มีเนื้อหาค่อนข้างที่จะเน้น “ความเป็นมืออาชีพ” มากขึ้น เช่น จะต้องมีทักษะการตัดต่อ หรือต้องใช้กล้องราคาแพงในการถ่ายภาพ
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ Instagram นั้นทำให้อาชีพหนึ่งเพิ่มขึ้น นั่นก็คือ “อินฟลูเอนเซอร์” ปัจจุบันแอปฯ นี้จึงกลายเป็นเหมือนแอปฯ บันเทิงที่พวง “ความทะยานอยาก” เข้ามาด้วย เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่เราสามารถช็อปปิง หาข้อมูล และหาแรงบันดาลใจได้ (และรวมถึงความรู้สึก Overwhelmed หรือท่วมท้นล้นเกินเมื่อเล่นแอปฯ นี้ด้วย)
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงอาจทำให้ใครหลายคนโพสต์โซเชียลมีเดียน้อยลงนั่นเอง
ดังที่ Hannah Stowe สาววัย 23 ปีจากนิวยอร์กที่ออกมาเล่าว่า แม้จะใช้ Instagram ทุกวัน แต่ก็ไม่ค่อยได้โพสต์อะไรมาก โดยเธอกล่าวว่า “เมื่อก่อนโพสต์ลง Instagram ทุกสัปดาห์หรือสองเดือนครั้ง แต่ตอนนี้โพสต์น้อยลงมาก เหลือเพียงแค่ 4-5 ครั้งต่อปีเอง แต่ถ้าพูดถึงสตอรีก็โพสต์แบบเร็วๆ ไม่ได้คิดอะไรมากขึ้น แต่โพสต์น้อยกว่าเมื่อก่อน ตอนนี้ก็คงประมาณสัปดาห์ละครั้ง”
อีกทั้งยังมีคนเล่าอีกว่า สาเหตุที่ตัวเองไม่ค่อยโพสต์โซเชียลก็เป็นเพราะว่าไม่ได้คิดว่าชีวิตตัวเองมีอะไรดีๆ ที่อยากจะแชร์ หรือไม่ได้คิดว่าตัวเองจะขายอะไรเหมือนอย่างที่ครีเอเตอร์หลายๆ คนทำ
นอกจากนี้ Adam Mosseri ผู้บริหารสูงสุดของ Instagram ได้กล่าวว่า ตอนนี้วัยรุ่นใช้เวลาไปกับ DM หรือการส่งข้อความส่วนตัวมากกว่าสตอรี และใช้เวลาไปกับสตอรีมากกว่าในฟีด ซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้เห็นว่าแพลตฟอร์มนี้ได้กลายมาเป็นเครื่องมือในการรับส่งข้อความแล้ว
นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามองว่า เจ้าของแพลตฟอร์มจะรับมือกับเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร แล้วจะมีแพลตฟอร์มหน้าใหม่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้ดีกว่านี้เข้ามาหรือไม่ อย่างเช่น แอปฯ ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ผู้คนสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องรู้สึกกดดันเรื่องผู้ติดตาม และสามารถเป็นตัวเองได้อย่างแท้จริง
อ้างอิง
– Social media is dead : Business Insider – https://bit.ly/45LAows
#trend
#socialmedia
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast