ผลสำรวจชี้ เด็กจบใหม่หางานยาก เพราะไม่เตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งาน!

ล่าสุดมีผู้ใช้งานรายหนึ่งใน X (Twitter) ออกมาเล่าเรื่องราวถึงสถานการณ์ของเด็กจบใหม่ว่า ณ ตอนนี้เด็กจบใหม่ตกงานเยอะมาก ทำให้หลายคนเลือกทำงานฟรีแลนซ์ แต่เพราะงานฟรีแลนซ์ไม่ค่อยมีความมั่นคงนักจึงต้องกลับมาหางานประจำทำต่อ

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหา “เด็กจบใหม่หางานยาก” เป็นปัญหาที่เราพบเห็นกันได้ในทุกๆ ปี อย่างไรก็ดี ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทยเท่านั้น เด็กจบใหม่ในสหรัฐฯ เองก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่เช่นกัน

ซึ่งจะเห็นได้จากผลสำรวจผู้ว่าจ้าง 800 คนในเดือนธันวาคม ปี 2023 โดย Intelligent.com ที่พบว่า ผู้ว่าจ้าง 39% ชอบจ้างผู้ที่มีอายุมากกว่า เพราะ Gen Z ไม่ค่อยเข้าใจวิถีปฏิบัติในโลกการทำงาน อีกทั้งผู้ว่าจ้าง 60% ยังกล่าวว่า พวกเขายินดีที่จะเสนอสวัสดิการและเงินเดือนที่มากขึ้นให้กับคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเด็กจบใหม่

และด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ จึงทำให้ผู้ว่าจ้าง 48% เสนอตำแหน่งงานที่สามารถทำงานระยะไกลหรือแบบไฮบริดให้แก่พนักงานที่มีอายุมากกว่า และ 46% มีความยินดีที่จะจ้างผู้สมัครที่ Overqualified หรือมีคุณสมบัติเกินกว่าที่บริษัทกำหนดไว้

ทีนี้หากเรามาสำรวจมุมมองของผู้ว่าจ้างที่มีต่อเด็กจบใหม่พบว่า ผู้ว่าจ้าง 1 ใน 5 มองว่าเด็กจบใหม่มักไม่ค่อยมีการเตรียมพร้อมในการสัมภาษณ์งาน อีกทั้งมากกว่าครึ่งยังชี้ว่า ผู้สมัครงาน Gen Z นั้นยังมีปัญหาในการสบตาระหว่างสัมภาษณ์งานมากที่สุดอีกด้วย

นอกจากนี้ผู้ว่าจ้างยังมองว่า ผู้สมัครงาน Gen Z นั้นขอเงินเดือนแบบไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรนัก รวมทั้งยังแต่งกายไม่เหมาะสมกับการสัมภาษณ์งานอีกด้วย หรือแม้แต่การสัมภาษณ์งานออนไลน์ก็ยังเจอปัญหา โดยผู้ว่าจ้าง 21% ชี้ว่าผู้สมัครบางคนไม่ยอมเปิดกล้องในการสัมภาษณ์งาน ไม่เพียงแค่นั้น ผู้ว่าจ้างเกือบ 20% ยังชี้อีกว่าเด็กจบใหม่บางคนพาผู้ปกครองไปสัมภาษณ์งานด้วย

และเมื่อพูดถึงประสิทธิภาพการทำงานแล้ว ผู้ว่าจ้าง 2 ใน 3 เผยว่า พนักงาน Gen Z ไม่สามารถจัดการภาระงานของตัวเองได้ และ 60% กล่าวว่าพนักงาน Gen Z มักมาทำงานสายและไม่สามารถทำงานตามเดดไลน์ได้อยู่บ่อยครั้ง

หากพิจารณาถึงทักษะ ผู้ว่าจ้างหลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า พนักงานรุ่นใหม่ขาดความเป็นมืออาชีพ ไม่ค่อยปรับตัวตามฟีดแบ็ก มีทักษะในการสื่อสารที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก และโดยรวมแล้ว เด็กจบใหม่ไม่มีการเตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน

และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ผู้ว่าจ้างเกือบครึ่งหรือประมาณ 47% ชี้ว่า พวกเขาได้ไล่เด็กจบใหม่ออกไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง

อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เด็กจบใหม่หางานยากกว่าใครๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น
[ ] คณะที่จบมาหางานยากหรืออาจจะไม่ได้สนใจสายงานที่เกี่ยวข้องกับคณะที่ตนเองจบมา
[ ] การแข่งขันสูง เพราะมีคนจำนวนมากที่หางานพร้อมๆ กันหลังเรียนจบ
[ ] ไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน เนื่องจากหลายบริษัทมักมองข้ามเด็กจบใหม่ มองหาแต่ผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน จึงทำให้หางานยากขึ้น

ไม่ว่าเด็กจบใหม่จะหางานยากด้วยเหตุผลใดก็ตาม เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในจุดนี้ล้วนต้องเผชิญกับ “ความกดดัน” กันทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นเพื่อนรอบตัวค่อยๆ มีงานทำไปทีละคนๆ แต่ตัวเองกลับยังว่างงานอยู่ ความกดดันที่มีก็จะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นหากอยากก้าวข้ามความกดดันให้ได้ สิ่งสำคัญที่เด็กจบใหม่ควรทำก็คือ จะต้องรับมือกับการถูกปฏิเสธให้ได้ เช่น อย่ามัวแต่ชี้นิ้วโทษตัวเองเมื่อสัมภาษณ์งานไม่ผ่าน แต่ให้ลองพิจารณาดูว่าเราสามารถพัฒนาอะไรให้ดีขึ้นได้บ้าง บอกตัวเองว่าครั้งนี้ไม่ได้ไม่เป็นไร ครั้งหน้าค่อยลุกขึ้นมาสู้ใหม่ ด้วยตัวเราที่มี “ความพร้อม” มากกว่าเดิม


อ้างอิง
– Gen Z grads are tanking job interviews, struggling to find full time positions: study : New York Post – https://bit.ly/3U8S8PB
– 6 Reasons Why It’s So Hard to Get a Job After College (With Helpful Tips) : Indeed – https://bit.ly/3tTK6PV

#worklife
#freshgrad
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast