อดีต HR จาก Microsoft ชี้ 4 สัญญาณองค์กร Toxic ที่สังเกตได้ตั้งแต่สัมภาษณ์งาน

“Toxic” เป็นคำที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นคำที่ค่อนข้างแรงและคงไม่มีบริษัทไหนอยากให้พนักงานของตัวเองนิยามวัฒนธรรมองค์กรด้วยคำนี้ แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีองค์กรจำนวนไม่น้อยที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ Toxic หรือเป็นพิษ

จากการศึกษาโดย MIT Sloan พบว่า วัฒนธรรมการทำงานที่เป็นพิษเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนลาออก ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ใครหลายๆ คนกล้าลาออกจากงานมากขึ้นก็เป็นเพราะพนักงานมีทางเลือกมากกว่าสมัยก่อน จนไม่จำเป็นจะต้องทนอยู่ในที่ที่สร้างความทุกข์ใจให้กับตนเอง เราจึงเห็นหลายคน Job-hopping หรือย้ายงานบ่อยภายในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนเจน Z

อย่างไรก็ดี หากพูดถึงวัฒนธรรมองค์กรเป็นพิษ แน่นอนว่าไม่มีใครชอบ แต่การจะจับสัญญาณของความเป็นพิษขององค์กรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่ได้เข้าไปสัมผัสโดยตรง ทำให้บางครั้งเราก็ไม่อาจเลี่ยงองค์กรเช่นนี้ได้พ้น

แต่เมื่อไม่นานมานี้ Chris Williams อดีตรองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Microsoft ได้ออกมาแนะนำว่า จริงๆ แล้วเราสามารถจับสัญญาณเตือนได้ตั้งแต่กระบวนการจ้างงานของบริษัทนั้นๆ

แน่นอนว่าการจ้างงานคือการที่บริษัทต้องการให้คนที่ทำงานเก่งๆ มาร่วมงานด้วย ดังนั้นฝ่ายสรรหาบุคคลจึงพยายามนำเสนอเพียงแต่ด้านที่ดีของบริษัทให้เราได้เห็น แต่บางครั้งบางสิ่งบางอย่างก็ไม่อาจปิดมิดหรือรอดพ้นสายตาเราไปได้ หากองค์กรนั้นมีวัฒนธรรมการทำงานที่ไม่ดีจริงๆ

ซึ่ง Chris Williams ก็ได้แนะนำว่า 4 เรื่องนี้คือสัญญาณที่อาจบ่งบอกได้ว่าองค์กรนั้นมีวัฒนธรรมการทำงานที่เป็นพิษ โดยเราสามารถสังเกตได้ตั้งแต่กระบวนการจ้างงาน มาสำรวจไปพร้อมๆ กันว่ามีอะไรบ้าง

1. ความสับสนวุ่นวาย
ปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดคือ ความสับสนวุ่นวาย เช่น มีกระบวนการที่ไม่ชัดเจน ผิดนัด มีการจัดกำหนดการแบบงงๆ หรือสื่อสารแบบคุ้มดีคุ้มร้าย เอาแน่เอานอนไม่ได้ ความวุ่นวายลักษณะนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัย อย่างเช่น บริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับฝ่ายสรรหาบุคคล ฝ่ายสรรหาบุคคลอาจเป็นพนักงานสัญญาจ้างทั้งหมด หรือบางทีพนักงานฝ่ายนี้อาจเป็นฝ่ายที่ไม่ค่อยมีความเป็นระเบียบ

แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกเราได้ว่า แค่สมัครงานยังสับสนวุ่นวายขนาดนี้ แล้วถ้าเข้าไปทำงานล่ะ จะขนาดไหนกัน?

2. ความเป็นระบบราชการ
อีกสิ่งหนึ่งที่เราสามารถสังเกตได้คือ ความเป็นทางการหรือระบบราชการที่เข้มงวดมากจนเกินไป เช่น ต้องอัปโหลดข้อมูลหลายระบบ หรือต้องข้ามผ่านหลายด่านกว่าจะไปถึงขั้น Phone Screen หรือการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลผู้สมัครเบื้องต้น

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและไม่ปรับตัวตามยุคตามสมัย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็หมายความว่าถ้าเราต้องเข้าไปทำงาน เราก็คงต้องมานั่งปวดหัวกับความเป็นระบบราชการขององค์กรต่อไปเรื่อยๆ

3. มีลับลมคมใน
มีความคลุมเครือเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ หรือสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับบริษัท พูดถึงแต่ภารกิจใหญ่ๆ แต่ไม่ยอมตอบคำถามในหลายๆ เรื่องที่ถามไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าตอบแทนหรือข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร ก็อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขากำลังซ่อนสภาพการทำงานที่ย่ำแย่เอาไว้อยู่ก็เป็นได้

4. ความทะนงตน
การบอกเล่าเรื่องราวดีๆ หรือเรื่องราวที่ได้เปรียบขององค์กรนั้นถือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นบริษัทที่เด่นด้านเทคโนโลยี แต่บางครั้งการพูดว่าบริษัทจ้างเฉพาะคนที่ดีที่สุดและบอกเราว่าเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้รับพิจารณาในครั้งนี้ หรือแสดงท่าทีในลักษณะที่คล้ายๆ กันนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกตินัก

เพราะมันแสดงให้เห็นว่าบริษัทหรือคนเหล่านี้มีความทะนงตนมากไป หากพวกเขาไม่ปฏิบัติต่อเราเหมือนเป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งหรือไม่เห็นคุณค่าของเรา หากเราเข้าไปทำงานก็เป็นไปได้ว่าอาจถูกกดขี่เข้าสักวัน

นี่คือ 4 สัญญาณเตือนที่เราควรจับตามองให้ดี หากพบว่าก้าวขาข้างแรกไปแล้วรู้สึกว่าบริษัทแห่งนี้ไม่น่าจะใช่ที่ที่เหมาะกับตัวเอง เราก็สามารถก้าวขาข้างนั้นหนีได้ทัน ดีกว่าหลงเข้าไปทำงานแล้วทำให้สุขภาพจิตแย่ลง จำไว้ว่าบริษัทมีสิทธิ์เลือกคนเข้าทำงาน เราก็มีสิทธิ์เลือกบริษัทที่เหมาะกับเราเช่นกัน

อ้างอิง
– Ex-Microsoft VP of HR: If the application process is bad, the job will probably be worse. Beware of these red flags when interviewing. : CHRIS WILLIAMS, Business Insider – https://bit.ly/48VajvT
– Toxic Work Culture Is The #1 Factor Driving People To Resign : Forbes – https://bit.ly/3IIcSXn

#trend
#jobinterviewing
#toxicculture
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast