สำนักข่าว The Verge รายงานว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ใช้งาน Apple หลายรายถูกติดตามตัวโดยไม่ได้รับความยินยอม ผ่านอุปกรณ์อย่าง AirTag หลังจากทราบปัญหาดังกล่าว Apple ได้เปิดให้ผู้ใช้งานได้ทำการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS เป็นเวอร์ชัน 15.4
โดยในการอัปเดตเวอร์ชันของ Apple ในครั้งนี้ จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยป้องกัน “การสะกดรอยตาม” จากบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมได้ ทั้งนี้ระบบจะทำการส่งคำแจ้งเตือน เมื่อเกิดการสะกดรอยตามที่ไม่ผ่านการยินยอมของผู้ใช้งานก่อน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังสามารถขอตรวจสอบการใช้งาน AirTag ของบุคคลที่สามจากผู้ถูกติดตามได้ผ่านการเชื่อมต่อไปยัง Apple ID ของบุคคลนั้นๆ โดยทาง Apple ระบุว่า ขณะนี้ได้มีการดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อตามรอยการใช้งาน AirTag กลับไปยังผู้ใช้งานที่มีความผิดปกติ และเป็นที่น่าสงสัย
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังพบปัญหากับการเชื่อมต่อ AirTag กับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple อีกด้วย อย่างการตรวจพบอุปกรณ์ของบุคคลอื่น เช่น Airpods ซึ่งสร้างความสับสนให้แก่ผู้ใช้งานอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม Apple กล่าวว่าเมื่อผู้ใช้งานอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 15.4 ก็จะสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแยกแยะอุปกรณ์ Apple ของตนเองได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Apple ยังระบุอีกว่าการใช้งานฟีเจอร์ป้องกันการสะกดรอยตามนั้น จะมีการระงับการสะกดรอยตามจากผู้ใช้งานที่ไม่รู้จักได้แม่นยำมากกว่าเดิม และจะมีการลดระยะเวลาการแจ้งเตือนผู้ใช้งานจากเดิม ที่จะไม่ส่งเสียงแจ้งเตือนเป็นเวลา 3 วัน ให้เหลือเพียง 8 ถึง 24 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รู้ว่ามีการติดตามที่มาจากการใช้ AirTag อยู่ และลดเวลาในการที่เหยื่อจะถูกติดตามและตกอยู่ในอันตรายได้
นอกจากฟีเจอร์ป้องกันการตามรอยแล้ว ในระบบปฏิบัติการ iOS 15.4 ยังมีการพัฒนาคำสั่งเสียงอย่าง Siri หรือการสแกนหน้าผ่าน Face ID ในขณะที่กำลังสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งคาดว่าระบบปฏิบัติการ iOS 15.4 จะปล่อยให้ผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดในเดือนมีนาคม 2022 ที่จะถึงนี้
อ้างอิง:
https://bit.ly/3vdpakV
https://engt.co/3haFo67
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#technology
