AI ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งมีไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา แต่มีพื้นที่อยู่ในสื่อประเภท Sci-fi อย่างหนังสือการ์ตูน นิยาย และภาพยนตร์มาตั้งแต่ช่วง 1950s แล้ว
เราคุ้นเคยกับ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์เหล่านั้นในรูปแบบของเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่สามารถประมวลผลและตอบโต้ต่อบทกับตัวละครได้อย่างว่องไวราวกับมีความคิดเป็นของตัวเอง หรืออาจเป็นหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรที่มีคาแร็กเตอร์ชัดเจนไม่ต่างจากมนุษย์ก็ได้
เมื่อเวลาล่วงเลยมากว่า 70 ปีแล้ว AI ได้รับการพัฒนาจนเป็นรูปเป็นร่าง และกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ส่งอิทธิพลต่อมนุษยชาติไม่น้อยเลยทีเดียว
จากหุ่นยนต์ที่เป็นเพียงผู้ช่วยและเครื่องทุ่นแรงในอุตสาหกรรม สู่ “แชทบอท” ที่โต้ตอบมนุษย์ได้
จากแชทบอทตอบข้อความอัตโนมัติ สู่ “ดีปบลู” ที่ท้าทายความสามารถของมนุษย์ และเอาชนะแชมป์หมากรุกโลกอย่างแกร์รี คาสปารอฟได้
ความสามารถของ AI ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะมันสามารถทำปกนิตยสารแทนมนุษย์ได้ ภายในเวลาเพียง 20 วินาที! กองบรรณาธิการ Cosmopolitan ร่วมกับผู้นำด้าน AI ระดับโลก OpenAI และศิลปินดิจิทัลอาร์ต คาเรน เอ็กซ์. เจิ้ง (Karen X. Cheng) สร้างภาพปกนิตยสาร Cosmopolitant ด้วย AI ที่ชื่อว่า DALL-E 2
DALL-E 2 ประตูสู่โลกใหม่ในวงการนิตยสาร
DALL-E 2 เป็น AI ของ OpenAI ซึ่งสามารถสร้างรูปภาพใหม่ที่เป็นภาพต้นฉบับและสมจริงได้จากการป้อนข้อความเข้าไป ยิ่งผู้ใช้งานป้อนข้อความและมีรายละเอียดประกอบมากขึ้นเท่าไร ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานภาพได้อย่างมีสไตล์เฉพาะตัวมากขึ้น
กองบก. Cosmo บุกเบิกวงการศิลปะด้วย AI โดยป้อนข้อความลงไปว่า “ภาพถ่ายมุมกว้างจากด้านล่างของนักบินอวกาศหญิงที่เผยให้เห็นรูปร่างได้สัดส่วน กำลังเดินไปทางกล้องบนดาวอังคารในจักรวาลที่ไม่สิ้นสุด” หลังจากนั้น DALL-E 2 ก็ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีสร้างภาพปกนิตยสารฉบับปี 2022 โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินส่งช่างถ่ายภาพกับนางแบบไปถึงดาวอังคาร และไม่จำเป็นต้องง้อสตูดิโอเลยด้วยซ้ำ
ทาง Cosmo ยังคงพยายามใช้ DALL-E 2 บุกเบิกวงการนิตยสารอย่างต่อเนื่อง พวกเขาทดลองป้อนคำสั่ง ก่อนจะค่อยๆ เติมรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงลงไป เพื่อให้ AI ได้เรียนรู้มากขึ้น เช่น สไตล์สีน้ำ สไตล์แวนโก๊ะ ผลปรากฏว่าเมื่อใส่คีย์เวิร์ดเพิ่มเติมลงไป ทำให้ AI สามารถประมวลผลได้รูปที่ใหม่และไม่ซ้ำใคร และเมื่อลองป้อนว่า “ดาร์ธ เวเดอร์และลิปสติกสี Hot Pink บนปก Cosmopolitant” ก็ได้ผลลัพธ์เป็นภาพที่แตกต่างกันถึง 6 แบบ
ในช่วงแรก DALL-E 2 ยังมีข้อจำกัดเรื่องการเรียนรู้ความหลากหลายของโลกแห่งความจริง ถึงแม้ว่า AI จะสร้างรูปภาพจากคำป้อนเพียงแค่ 1 ประโยคได้กี่รูปก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นปัญหาอยู่ดีเพราะภาพนางแบบนายแบบทั้งหมดยังคงยึดตามแบบฉบับของคนขาว ทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์สังคมที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง จึงกลายเป็นความท้าทายของ OpenAI ที่จะต้องพัฒนา AI ให้รอบรู้มากกว่านี้
หลังจากนั้นไม่นานในปี 2023 ก็ได้เกิดกระแส AI เขย่าวงการศิลปะและสื่อสิ่งพิมพ์อีกครั้งเมื่อ Glamour เผยภาพปกนิตยสารของลิซา โอปี้ (Lisa Opie) ที่ถ่ายขึ้นด้วย AI ซึ่งผลงานครั้งนี้ลิซาร่วมมือกับ Fran H ศิลปินสายแฟชั่น AI ถ่ายภาพเซ็ตพิงค์ บาร์บี้ลงนิตยสาร Glamour
ลิซาให้สัมภาษณ์ว่าการถ่ายนิตยสารแต่ละครั้งใช้ทั้งเงิน เวลา และทรัพยากรมหาศาลมาก ยังไม่นับการเดินทางด้วยเครื่องบินเมื่อต้องไปถ่ายที่ต่างประเทศ และเสื้อผ้าสำหรับถ่ายแบบแฟชันสร้างมลภาวะและขยะให้กับโลกมากกว่าที่เราคิด เพราะเมื่อถ่ายเสร็จแล้วทั้งเสื้อผ้า แบ็กดรอป เครื่องประดับ อุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ เหล่านั้นก็จะกลายเป็นขยะไร้ประโยชน์ คิดเป็น 85% ของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าทั้งหมด และมันยังย่อยสลายได้ยากอีกด้วย
ลิซาและทีมงานจึงเลือกใช้ AI แทน โดยส่งรูปภาพถ่ายใบหน้าในแต่ละมุมของเธอให้กับ Fran H แล้วใช้ AI นำใบหน้าของเธอผสานเข้ากับคำสั่งที่ป้อนเพิ่มเข้าไป ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพถ่ายกว่า 50 รูปในเวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น!
ยิ่งไปกว่านั้นคือภาพถ่ายจาก AI บนปกนิตยสาร Glamour ฉบับปี 2023 เป็นภาพที่สมบูรณ์ เอาชนะความท้าทายเรื่องความสมจริง ความหลากหลายของมนุษย์ และความสามารถของตัว AI เองในการสร้างผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนใครได้ต่างกันมากขึ้นหลายเท่า ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวไปนี้ AI ใช้เวลาเรียนรู้และพัฒนาไม่กี่เดือนเท่านั้น
แต่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ AI กลับสร้างความกังวลให้กับผู้คนไม่น้อยว่าเป็นไปได้ไหมที่ AI จะแย่งคนทำงาน และ AI จะทำลายความหมายและคุณค่าของศิลปะไปจนหมดจริงหรือ?
คู่มือเพิ่ม Productivity ด้วย AI ของสายผลิต
การสร้างรูปภาพของ AI ทำได้ด้วยการป้อนคำอธิบาย (Prompt Ideas) ลงไป แล้ว AI ก็จะจับคู่ข้อความที่ตรวจจับได้กับภาพเข้าด้วยกัน ดังนั้นหากคำสั่งที่เราป้อนลงไปอธิบายได้ไม่ละเอียดพอก็จะไม่สามารถสร้างภาพที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้
อีกประเด็นหนึ่งคือปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อผู้ใช้งานป้อนคำสั่งที่เป็นผลงานของศิลปินคนอื่นลงไป เช่น กบเคอร์มิตที่วาดโดยเอ็ดเวิร์ด มุงก์ ผลที่ได้ก็คือภาพกบสีเขียวตัวดังตัวเดิมในลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเอ็ดเวิร์ด มุงก์ ราวกับว่าเจ้าตัวเป็นคนวาดขึ้นมาเอง ทั้งๆ ที่กบเคอร์มิตเป็นหุ่นมือผู้ดำเนินรายการ The Muppet Show และตัวละครนี้สร้างขึ้นโดยจิม เฮนสัน
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ AI ไม่สามารถประมวลผลเป็นรูปภาพใหม่ได้ จึงใช้รูปวาดของนักวาดที่เคยลงผลงานในอินเทอร์เน็ตแทน ซึ่งผู้ใช้งานที่ไม่รู้ที่มาของภาพดังกล่าวก็อาจจะนำรูปที่ได้ไปใช้งานต่อ ทำให้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของศิลปินคนอื่นโดยไม่รู้ตัว
ส่วนประเด็นที่คนกลัวว่า AI จะมาทำลายคุณค่าของศิลปะไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไม่ว่าแขนงไหนก็ตามขึ้นมาสักหนึ่งชิ้น ศิลปินจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในศาสตร์นั้นเป็นอย่างดี และต้องสื่อสารข้อความ หรืออารมณ์ความรู้สึกบางอย่างให้แก่ผู้ชมได้ด้วย ซึ่งความสามารถในการสื่อสารทางอารมณ์เป็นคุณสมบัติพิเศษที่มีในสิ่งมีชีวิตเท่านั้น
ต่อให้ AI จะประมวลผลได้เก่ง และทำงานได้เร็วแค่ไหน แต่การสร้างคุณค่าบางประการ การสื่อสารข้อความที่มีความหมายแฝง และการส่งอารมณ์ของ AI ก็ยังไม่อาจเทียบกับความสามารถในการสร้าง สื่อสาร และรับรู้ความหมายทางสังคมอันซับซ้อนของมนุษย์ได้อยู่ดี
ดังนั้น AI จะยังคงเป็นผู้ช่วยที่ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ของเรา ในปัจจุบันนี้ก็มีหลายบริษัทที่ใช้ AI สร้างจุดขายให้กับตัวเองมากขึ้น เช่น Canva Photoshop หน้าที่ของมนุษย์สาย Productive ก็ต้องหมั่นทำความรู้จัก พัฒนาไอเดียไปพร้อมกับเทคโนโลยี และเลือกใช้โปรแกรม AI ที่เชื่อถือได้
ผู้ช่วยอีกหนึ่งตัวเลือกก็คือ Shutterstock ที่คิดค้นและพัฒนา AI มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานผ่านคลังดาต้า ทั้งภาพ 4K ภาพข่าว ภาพทิวทัศน์ ภาพ 3D วิดีโอ เพลง เอฟเฟกต์ กว่า 750 ล้านเนื้อหา โดยใช้เวลาน้อยลง แต่ได้งานที่มีประสิทธิภาพ
เพิ่ม Productivity ให้กับสายผลิตด้วย Shutterstock AI ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน AI-powered search ตรวจจับคียเวิร์ดคำค้นหา และช่วยคุณจัดวางเลย์เอาต์ของงานได้หลากหลาย มีฟังก์ชัน Predict จัดเรียงลำดับความเหมาะสมของภาพกับวัตถุประสงค์การใช้งาน ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น รวมถึงเทรนโปรแกรมให้เรียนรู้และจัดการเซ็ตข้อมูล แยกแยะภาพตามหมวดหมู่ได้อย่างฉลาดด้วยฟังก์ชัน Computer Vision ซัพพอร์ตงานงานครีเอทีฟในทุกระดับแบบครบวงจรในที่เดียว
Shutterstock ร่วมมือกับ OpenAI ให้ความคุ้มครองแก่ Contributor และลูกค้าผู้ใช้งานระดับองค์กรอย่างถูกต้องด้วย Generative AI ซึ่งดึงมาจากคลังภาพของ Shutterstock เท่านั้น ไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของศิลปิน และเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวที่ลูกค้าสามารถนำงานไปใช้เชิงพาณิชย์ได้ 100%
หากคุณเป็นคนที่มีไอเดีย แต่ไม่รู้จะประกอบร่างมันอย่างไร ลองใช้ Shutterstock AI มาทำให้ไอเดียในหัวของคุณเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นสายผลิตแบบไหนก็ตาม จะเป็นนักการตลาด ครีเอทีฟ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ โปรดักชันเฮาส์ ฯลฯ Shutterstock พร้อมสนับสนุนทุกจินตนาการของคุณให้เป็นจริง
ติดต่อใช้บริการเนื้อหาจาก นัมเบอร์ 24 x ชัตเตอร์สต็อก ด้วยทีมสนับสนุนช่วยเหลือด้านลิขสิทธิ์การใช้งานโดยทีมงานคนไทย พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าในประเทศไทยได้ที่
Website : number24.co.th
LINE : @number24
อ้างอิง
– The World’s Smartest Artificial Intelligence Just Made Its First Magazine Cover : Gloria Liu, COSMOPOLITAN – https://bit.ly/3KzWzgK
– AI-generated image graces magazine cover for the first time : AI Business – https://bit.ly/45mKd3c
– Glamour Bulgaria cover model uses AI to create Barbie-inspired photoshoot : Alyssa Guzman, New York Post – https://bit.ly/3DQIJCE
#Number24xShutterstock
#ShutterstockThailand
#ชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย
#missiontothemoon
