PODCASTMISSION TO THE MOONถ้าไม่รักก็ไม่ทำแบบนี้หรอก! เมื่ออีกฝ่ายหวังดีมากเกินไป จนทำให้เราอึดอัดใจไม่รู้ตัว

ถ้าไม่รักก็ไม่ทำแบบนี้หรอก! เมื่ออีกฝ่ายหวังดีมากเกินไป จนทำให้เราอึดอัดใจไม่รู้ตัว

“ถ้าไม่รัก ไม่หวังดี ก็ไม่ทำแบบนี้หรอก!”

เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเจอคำพูดในรูปแบบคล้ายกันนี้จากคนที่รักกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงาน ซึ่งคนที่ใช้คำพูดนี้มักจะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเราเอง เช่น พ่อแม่บังคับให้ลูกเลือกเส้นทางชีวิตตามที่เขากำหนดไว้ หรือแฟนที่ชอบมาบงการชีวิต ด้วยเหตุผลว่า เป็นห่วงและหวังดี

แต่ในบางครั้งความหวังดีที่มีมากจนเกินไป กลับกลายเป็นหอกที่ทิ่มแทงเรา โดยที่ผู้กระทำไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำมันสร้างความเจ็บปวดให้กับตัวเราและในบางครั้งสิ่งที่อยู่ในใจของผู้ที่ถูกกระทำก็อาจระเบิดออกมาในสักวันหนึ่ง จนสุดท้ายก็กลายเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์อันดีลง เพราะถึงแม้จะเข้าใจว่าอีกฝ่ายหวังดี แต่แน่นอนว่าใจของเราไม่สามารถทานทนต่อความอึดอัดนี้ได้ตลอดไป

การกำหนด “ขอบเขต” จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากไม่มีขอบเขต เราก็อาจเสียสมดุลระหว่างความต้องการของตัวเองและความต้องการของคนอื่น จนก่อเกิดเป็นความทุกข์ในใจได้ การขีดเส้นรอบตัวให้ชัดเจนจะช่วยให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองควรทำอะไรและทำได้มากแค่ไหน และแน่นอนว่าเมื่อความสัมพันธ์ในชีวิตของเรามีหลายรูปแบบ ดังนั้นแล้วขอบเขตก็มีหลายประเภทเช่นกัน

ก่อนอื่นเรามาเริ่มเรียนรู้กันว่า การมีขอบเขตความสัมพันธ์ที่ดีมีหน้าตาเป็นแบบไหน

ขอบเขตที่ดีคือการมีพื้นที่ให้กัน

ถ้าถามว่าการมีขอบเขตที่ดีสำคัญอย่างไร ก็คงต้องบอกว่ามันจะช่วยสร้างความเคารพซึ่งกันและกัน เพราะการกำหนดขอบเขตช่วยให้เราและอีกฝ่ายรู้ว่า แต่ละคนคาดหวังอะไรในความสัมพันธ์นี้ ซึ่งอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าในแต่ละความสัมพันธ์จะมีการกำหนดขอบเขตที่แตกต่างกันออกไป เพราะโดยปกติแล้วเรามักจะปฏิบัติและมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และคนรัก แตกต่างกันออกไปอยู่แล้ว เช่น เราอาจจะแยกบัญชีใช้จ่ายกับแฟน แต่กับพ่อแม่ไม่ใช่ เป็นต้น

นอกจากนี้ ในเรื่องการแสดงอารมณ์ก็ยังแตกต่างกันออกไป เช่น เรามักจะแสดงอารมณ์หลายๆ อย่างกับคนในครอบครัว แต่กับเพื่อนร่วมงานเราจะระงับอารมณ์บางอย่างไว้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหายุ่งยากในอนาคต แต่ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์รูปแบบไหน เราก็ต้องเคารพขอบเขตที่มีอยู่ ต่างคนต่างต้องให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน

ตัวอย่างของการมีขอบเขตความสัมพันธ์ที่ดีเช่น
[  ] ถามความเห็นชอบกันเสมอ
[  ] แสดงความรู้สึกขอบคุณให้กัน
[  ] คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
[  ] ให้พื้นที่อิสระและไม่พึ่งพาอาศัยกันมากเกินไป
[  ] เคารพในความแตกต่างทางความคิด มุมมอง และความรู้สึก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการกำหนดขอบเขตจะสำคัญ แต่เราก็ต้องรู้จัก “ความพอดี” เพราะถ้าเราตั้งขอบเขตแบบเข้มงวดเกินไป ก็อาจทำให้คนรอบข้างรู้สึกว่าเราเข้าถึงยากและค่อยๆ ห่างกันออกไปก็ได้ เช่น การใช้ความเข้มงวดของตัวเองเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายพูดความต้องการและความรู้สึกของตัวเองออกมา หรือบางคนก็อาจจะตั้งขอบเขตไว้แบบหลวมๆ เกินไป จนบางครั้งก็ทำให้ลำบากตัวเอง เช่น ไม่กล้าปฏิเสธอีกฝ่ายทั้งๆ ที่ใจก็ไม่ได้อยากทำตามที่เขาต้องการ

2 วิธีสร้างขอบเขตความสุขให้ตัวเอง

เมื่อเราเริ่มรู้สึกแล้วว่ามีคนหวังดีมากเกินไปจนกลายเป็นล้ำเส้นและทำให้เราอึดอัด ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องตีกรอบและขีดเส้นรอบตัวให้ชัด มาดูกันว่าเราจะสร้างขอบเขตในความสัมพันธ์ได้อย่างไร

1. ทำความเข้าใจว่าเราต้องการอะไรในความสัมพันธ์นั้นๆ

ถ้าเราไม่รู้ตัวว่าตัวเองต้องการอะไร ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะให้คนอื่นมาเข้าใจและตอบสนองความต้องการของเรา เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่เราควรทำคือ ให้ลองคิดและพิจารณาดูว่าอะไรคือค่านิยมและความเชื่อของเรา โดยเราสามารถทำได้ด้วยการพูดคุยกับตัวเองเยอะๆ เช่น ถามคำถามตัวเองว่า ชอบคนนิสัยแบบไหนในแต่ละความสัมพันธ์ พฤติกรรมแบบไหนที่รู้สึกว่ากวนใจตัวเอง และอะไรที่ทำให้รู้สึกเติมเต็ม

พอเราเข้าใจความต้องการของตัวเองมากขึ้นแล้ว เราก็จะเริ่มรู้ว่าอยากให้แต่ละความสัมพันธ์มีขอบเขตแบบไหน สมมติว่าเราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวสูง เราก็อาจจะกำหนดขอบเขตกับแฟน พ่อแม่ หรือเพื่อนร่วมงาน ในเรื่องพื้นที่ส่วนตัว

Advertisements

2. พูดคุยกับอีกฝ่ายตรงๆ ว่าเราต้องการอะไร

เมื่อเรารู้ความต้องการของตัวเองแล้ว เราก็ต้องทำความเข้าใจความต้องการของคนอื่นด้วย แล้วค่อยๆ ช่วยกันหาจุดตรงกลางระหว่างสองคน ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้เราต้องมีการพูดคุยสื่อสารกันและจะต้องเป็นการพูดคุยที่มีความสุขภาพ ไม่เร่งรีบ และไม่คลุมเครือ ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายอาจจะไม่เข้าใจและไม่เคารพกฎเกณฑ์ที่เราตั้งขึ้น โดยเราสามารถเริ่มลงมือทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
[  ] เตรียมตัว : หากกังวลและไม่รู้ว่าควรเริ่มพูดกับอีกฝ่ายเรื่องใดก่อนดี ให้ลองเขียนประเด็นที่เราอยากพูดออกมาเป็นข้อๆ เพื่อจัดเรียงความคิดให้เป็นระเบียบและมีความชัดเจน
[  ] ใช้คำพูดที่เป็นมิตรกับอีกฝ่าย : ใช้ I Statement หรือการพูดโดยอิงความรู้สึกผู้พูดเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการขึ้นต้นประโยคด้วยคำว่า เธอ คุณ หรือคำเรียกอื่นๆ ในเชิงคล้ายกัน เพราะมันอาจทำให้ดูเหมือนว่าเรากำลังกล่าวหาอีกฝ่ายอยู่ ให้ขึ้นต้นประโยคด้วยคำที่สื่อถึงตัวเราแทน เช่น ผมรู้สึกว่าตอนนี้เราไม่มีพื้นที่ตรงกลางให้กันเลย
[  ] มีความชัดเจน : เมื่อพูดคำขออะไรสักอย่าง อย่าพูดแบบคลุมเครือ เช่น อย่าบอกแค่ว่าต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากกว่านี้ แต่ให้บอกออกไปเลยว่าเรื่องไหนที่ทำให้ไม่สบายใจและต้องการให้เขาแก้ไขอย่างไร

เมื่อเรามีขอบเขตระหว่างกัน ก็เป็นไปได้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถปฏิบัติตามสิ่งที่เราตั้งไว้ได้ตลอดเวลา เมื่อเป็นเช่นนั้นเราก็ต้องย้ำถึงความต้องการของเราอีกครั้ง เพราะอีกฝ่ายอาจจะแค่ลืม เราต้องใจเย็น มีความหนักแน่น และชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว คนรัก เพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่นๆ เมื่อเราต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งของชีวิตร่วมกัน เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเคารพขอบเขตของคนอื่นและให้พื้นที่ตรงกลางแก่กันบ้าง เพราะสุดท้ายแล้วมันจะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

อ้างอิง
– Setting Healthy Boundaries in Relationships : Sheldon Reid, HelpGuide.org – https://bit.ly/3LRrK6Z
– How building healthy boundaries is the key to work relationships : Shonna Waters, PhD, BetterUp – https://bit.ly/3LUoDLF
– How to Set Boundaries in Your Relationships : PsychCentral – https://bit.ly/3LMzas8

#selfdevelopment
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า