- ประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของโลกนั้นใช้ชีวิตอยู่ในเมือง แต่เมืองในปัจจุบันนั้นเผชิญกับปัญหารถติดเป็นอย่างมาก
- อูเบอร์เป็นธุรกิจที่สร้างขึ้นมาจากแนวคิดแก้ปัญหาให้เมือง และเป็นที่มาของธุรกิจอูเบอร์คาร์พูล ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีคนใช้จำนวนมาก และมีราคาถูกกว่าการเป็นเจ้าของรถ แต่ทั้งหมดนี้อาจไม่ได้แก้ปัญหาเมืองได้ทั้งหมด
- การแก้ปัญหาอนาคตของเมืองที่อูเบอร์คิดคือธุรกิจไรด์แชร์ริ่งบนท้องฟ้าที่ราคาไม่แพง ไม่ปล่อยมลภาวะเหมือนกับเฮลิคอปเตอร์ และใช้เวลาเพียงหลักนาทีเท่านั้น
ณ ปัจจุบันมีประชากรโลกประมาณ 50% อาศัยอยู่ในเมือง
UN คาดการณ์ว่าภายในปี 2045 ประชากรโลกกว่า 6 พันล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของประชากรโลกทั้งหมดจะใช้ชีวิตอยู่ในเมือง
แต่เมืองของเรากำลังมีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองอย่างเม็กซิโก ใช้เวลาราว 5 สัปดาห์ต่อปีไปกับรถติด
เมืองอย่างลอสแอนเจลิสใช้พื้นที่กว่า 14% ไปกับการทำที่จอดรถ ไม่ต้องพูดถึงเมืองอย่างกรุงเทพที่ปัญหารถติดแทบจะเป็นปัญหาใหญ่เกือบจะที่สุดของเมืองแล้ว
อูเบอร์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ถูกสร้างขึ้นมาจากแนวคิดที่จะแก้ปัญหาให้กับเมือง ทุกวันนี้ทั่วโลก อูเบอร์มีทริปประมาณ 10 ล้านทริปต่อวัน โดย 1,000 ล้านทริปแรกนั้นอูเบอร์ใช้เวลา 6.5 ปี 1,000 ล้านทริปต่อมา อูเบอร์ใช้เวลา 6 เดือน และตอนนี้ให้บริการการเดินทางไปทั้งหมด 5,000 ล้านทริปแล้ว!!
โดยเริ่มต้นธุรกิจจาก ไรด์แชร์ริ่ง (ride sharing) พอทำไปนานเข้าข้อมูลต่างๆแสดงให้เห็นว่ามีการเดินทางจำนวนมากที่เริ่มและจบในที่เดียวกัน ในเวลาเดียวกันด้วย ซึ่งเป็นที่มาของ uberPOOL (อูเบอร์คาร์พูล) ที่ทำการยกระดับไอเดียของการคาร์พูลไปอีกขั้นนึง
ตอนนี้ uberPOOL อยู่ในโหมดของการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก หรือที่เราเรียกว่า Hypergrowth ในเมืองที่เปิดให้บริการแล้วจะมีคนใช้บริการประมาณ 20% และสูงสุดถึง 50% ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ของจำนวนทริปทั้งหมดของอูเบอร์
และแน่นอน รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ (Self Driving Car) ของอูเบอร์ก็กำลังจะเริ่มให้บริการ
เมื่อรวมรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติกับ uberPOOL เข้าด้วยกัน การใช้รถอูเบอร์จะถูกกว่าการเป็นเจ้าของรถอย่างมาก จนส่วนต่างจะทำให้คนต้องคิดหนักขึ้นที่จะซื้อรถ
โดยอูเบอร์เชื่อว่านี่คือจุดเริ่มต้นของจุดสิ้นสุดของการเป็นเจ้าของรถยนต์ ในอนาคต คนจะไม่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์อีกต่อไป นอกจากจะเป็นเจ้าของเพื่อการสะสมหรืองานอดิเรกเท่านั้น
แต่ถามว่าทั้งหมดนี้จะแก้ปัญหาของเมืองได้หรือเปล่า?
เจฟฟ์ โฮลเดน (Jeff Holden) ซีพีโอของอูเบอร์พูดบนเวที web summit 2017 ว่า ที่กล่าวมาทั้งหมด อาจจะยังไม่สามารถแก้ปัญหาอนาคตของเมืองได้
ถ้าไม่ได้แล้วอย่างไร? ไม่ได้เราก็ยังเหลือท้องฟ้าให้เดินทางกันอีก อูเบอร์เชื่อว่าการเดินทางแบบไรด์แชร์ริ่งบนท้องฟ้าสามารถแก้ปัญหาของเมืองใหญ่ได้ๆ
หลักการข้อแรก
เจฟฟ์กล่าวว่า “พวกเราคือองค์กรที่ยึดถือหลักการข้อแรก” (first thinking) คือเราไม่ได้มองหาวิธีการแก้ปัญหาจากการปรับปรุงสิ่งเดิมๆที่คนอื่นทำอยู่แล้ว แต่เราต้องการมองเข้าไปที่ปัญหาอย่างลึกซึ้งที่สุด
ผมฟังคำว่า first thinking (การมองให้ลึกถึงรากของความจริง) แล้วรู้สึกขนลุกทุกที เพราะ นักนวัตกรรม หลายคนใช้วิธีคิดแบบนี้เลยสร้างอะไรที่ล้ำๆออกมาได้อย่างเช่น อีลอน มักส์ เป็นต้น พอพูดถึงไรด์แชร์ริ่งบนท้องฟ้า หลายคนอาจจะนึกถึงเฮลิคอปเตอร์
แต่อูเบอร์เคยคิดแล้วว่ามันเสียงดังเกินไป รวมถึงยังใช้เครื่องยนต์แบบที่ปล่อยมลภาวะมากเกินไป และมันแพงเกินไป รวมๆกันแล้วเฮลิคอปเตอร์จึงไม่เหมาะกับการทำ ไรด์แชร์ริ่ง ในปริมาณที่อูเบอร์ต้องการจะทำ
อูเบอร์เลยคิดสิ่งที่เป็นการบินในเมือง (urban aviation) สำหรับที่เรียกว่า VTOL Aircraft (Vertical takeoff and landing) เบื้องหลัง VTOL มีเทคโนโลยีสำคัญที่เรียกว่า DEP ซึ่งทำให้มันไม่ปล่อยไอเสียออกมาเลย (100 % emission free) และมันยังเงียบมากอีกด้วยเมื่อเทียบกับเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากมันใช้พลังงานไฟฟ้า
โดยการชาร์จหนึ่งครั้งใช้เวลา 3-4 นาที และเดินทางได้ราว 100 กิโล (ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการเดินทางในเมืองเพราะเดินทางในอากาศเป็นเส้นตรงๆไม่เหมือนถนน)
UberAIR ด้วยความเร็วเฉลี่ย 240 – 320 กม/ชม
ส่วนด้านความปลอดภัย อากาศยานลำนี้ไม่ใช้ระบบชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนเดียว (single part criticality) จึงถึงว่าค่อนข้างปลอดภัยใช้ได้ (ใครสนใจรายละเอียดการทำงานของ VTOL มากกว่านี้สามารถไปดาวน์โหลด whitepaper เรื่องนี้ที่มีควายาว 97 หน้ามาอ่านได้นะครับ อธิบายไว้ละเอียดมาก)
เวลาในการเดินทางผ่านเมืองที่รถติดที่เคยใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง จะลดลงเหลือหลักนาทีเท่านั้น นี่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการเดินทางในเมืองไปแบบที่ยังนึกผลกระทบแบบลูกโซ่ต่อธุรกิจต่างๆไม่ออก
อูเบอร์ได้ทำกับเซ็นสัญญาการจัดการพื้นที่ทางอากาศ กับนาซ่าเพื่อบริหารจัดการน่านฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ UberAIR จะเพิ่มปริมาณอากาศยานบนท้องฟ้าในสเกลที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
แล้วราคาล่ะ คนธรรมดาจะเข้าถึงได้ไหม? หรือนี่คือบริการสำหรับคนรวยอย่างเดียวหรือเปล่า?
เจฟฟ์บอกว่าเป้าหมายของอูเบอร์คือ UberAIR จะต้องถูกกว่าการขับรถยนต์ของคุณเอง
ราคาของการใช้จะอยู่ที่ประมาณราคาของ UberX ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้! โอเค ฟังดูดีมากเลย แต่ว่าชาตินี้เราจะได้ใช่ไหม เพราะเราเคยเห็นอะไรพวกนี้แต่ในภาพยนตร์นี่หน่า ?
จริงครับ
ในภาพยนตร์ เบลดรันเนอร์ (Blade Runner) ฉบับดั้งเดิมมีรถยนต์บินได้อยู่ในฉากด้วย และเนื้อเรื่องเล่าว่านี่คือโลกในอนาคตของเมืองลอสแองเจิลลิสในปี 2019 (ภาพยนต์ออกฉายปี 1982)
เจฟฟ์ โฮลเดน บอกว่าภาพยนต์ เบลดรันเนอร์ ทำการทำนายอนาคตได้เยี่ยมทีเดียว เพราะ UberAIR จะเริ่มบินในแอลเอในปี (ลองนึกคำตอบเล่นๆ ก่อนเลื่อนลงไปอ่านครับ)
2020 ครับ
ผิดจากที่หนังพยากรณ์ไปนิดนึง แต่ผมพิมพ์ปีไม่ผิดครับ
เขียนเรื่องนี้จบแล้วผมนึกถึงสองเรื่องครับว่า
- เรื่องแรก ต้องกลับไปฝึก first principle thinking (หลักคิดในการหารากของความจริง) แล้วเอาไปใช้ทำงานเยอะๆ
- เรื่องที่สอง “มันใกล้กว่าที่เราคิดจริงๆ”
ใครที่คิดว่าโลกรอบตัวยังไม่เปลี่ยน เรายังไม่ต้องปรับตัวก็ได้
ลองคิดดูใหม่นะครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.uber.com/us/en/elevate/uberair/