เรื่องการเงินเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการบริหารองค์กร ยิ่งในช่วงเวลาที่ดอกเบี้ยขาขึ้นและต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น ความระมัดระวังเรื่องการเงินก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับคนที่ทำธุรกิจ SMEs ความเข้าใจเรื่องงบกำไรขาดทุน งบดุล และงบกระแสเงินสด เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะนี่คือหัวใจในการเข้าใจสุขภาพของธุรกิจที่แท้จริง
โดยปกติเรื่องที่เราไม่ถนัด เราสามารถจ้างคนอื่นมาทำแทนได้ แต่เรื่องของการเงินสำหรับกิจการนั้น ผมคิดว่าแม้จะมีคนทำแทนให้ แต่อย่างไรผู้บริหารก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้เสมอ เพราะความไม่เข้าใจเรื่องนี้ สามารถส่งผลร้ายแรงต่ออนาคตของกิจการได้ทีเดียว
ประเด็นที่เราควรจะติดตามมีดังต่อไปนี้ครับ
1. กระเป๋าซ้าย-ขวา และ บัญชีสองเล่ม
เจ้าของธุรกิจต้องแยก “เงินกิจการ” กับ “เงินส่วนตัว” ออกจากกันให้ชัดเจน โดยหลักคิดง่ายๆ คือเงินของกิจการให้มีการเข้าออกตามการใช้งานจริงของกิจการเท่านั้น ส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น ซึ่งในกรณีนี้มักเป็นเจ้าของหรือครอบครัว ให้แบ่งออกเป็นสองลักษณะคือเงินเดือนสำหรับคนที่ทำงาน และเงินปันผลสำหรับคนที่เป็นเพียงผู้ถือหุ้น
ส่วนกิจการใดที่ทำบัญชีสองเล่ม ต้องรีบปรับมาเป็นบัญชีเล่มเดียว เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหากับสรรพากรแล้ว การมีบัญชีสองเล่มยังทำให้เราไม่รู้ถึงกำไรที่แท้จริงอีกด้วย
2. ดอกเบี้ย
Cost of Fund หรือต้นทุนทางการเงินนั้นสำคัญต่อธุรกิจมาก ในโลกที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นตาม ดังนั้นเราจึงต้องบริหารจัดการเรื่องนี้อย่างดีที่สุด
ต้นทุนด้านดอกเบี้ยของ SMEs นั้นมักไม่ถูกอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการเข้าไปพูดคุยกับธนาคารถึงประเภทของสินเชื่อที่เหมาะกับการใช้งาน อย่าใช้สินเชื่อผิดประเภท เช่น สินเชื่อระยะสั้นก็เหมาะกับการใช้งานระยะสั้น การเอาสินเชื่อระยะสั้นไปใช้ระยะยาวก็จะทำให้เรามีความเสี่ยงหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มโดยไม่จำเป็น ในเรื่องนี้การทำงานใกล้ชิดกับธนาคารหรือผู้ให้สินเชื่อของเราจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ
3. สถานะทางการเงิน
เราควรสามารถปิดบัญชีรายเดือนให้ได้ทุกเดือนภายในสัปดาห์แรกของเดือนถัดไป เพื่อให้ทราบสถานการณ์ทางการเงินที่แท้จริง อีกทั้งสถานะทางการเงินในแต่ละเดือนยังเป็นเหมือนสัญญาณเตือนว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เราควรระมัดระวัง
4. ภาษี
การศึกษาเรื่องภาษีอย่างละเอียดจะทำให้เราเสียภาษีอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงเรื่องการมีปัญหาด้านภาษีกับสรรพากรด้วย ในเรื่องภาษีนั้นหากทำอะไรผิดพลาดจะมีค่าปรับเป็นจำนวนมาก แต่ของพวกนี้ป้องกันได้เกือบ 100% ถ้าเราใส่ใจศึกษาข้อมูลมากพอ
5. ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
ปีนี้เป็นปีที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนสูงเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นการป้องกันความเสี่ยงโดยการใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น Forward จึงมีความจำเป็นอย่างมาก SMEs อย่างเราไม่ควรเพิ่มความเสี่ยงโดยการเก็งค่าเงินเพราะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เราควรโฟกัสกับการขายและประกันความเสี่ยงด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่มีให้เราใช้มากมายอยู่แล้ว
6. กระแสเงินสด
บริษัทขาดทุนเป็น 10 ปีก็สามารถดำเนินกิจการได้ แต่บริษัทที่ขาดเงินสดดำเนินกิจการไม่ได้แน่นอน ดังนั้นต้องคอยเตรียมการเรื่องนี้ให้ดี นอกจากควรมีเงินสดในกิจการอย่างเพียงพอแล้ว ในสถานการณ์ที่ผันผวนแบบนี้เรายังต้องมี “แหล่งเงินสดสำรอง” ที่เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นวงเงินจากธนาคารหรือแม้แต่เงินสดจากคนรอบตัว ที่สำคัญคือต้องคิดไว้แต่เนิ่นๆ เพราะมาคิดเอาใกล้ๆ จะอันตราย
7. การควบคุม Budget
เรื่องงบประมาณเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เราควรมีการควบคุมอย่างใกล้ชิด โดยต้องมีการวางระบบที่ใช้งานง่าย ไม่กินทรัพยากรมากเกินไป และเป็นระบบส่วนกลางที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มอย่าง Kissflow ที่ศรีจันทร์เองก็ใช้เพื่อควบคุมเรื่องนี้ การที่เรารู้เรื่องเกี่ยวกับงบประมาณโดยละเอียดจะทำให้ไม่มีรายจ่ายที่น่าตกใจโผล่มา
8. รู้ต้นทุนที่แท้จริงของสินค้า
การรู้ต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าแต่ละตัวโดยละเอียดจะทำให้เราสามารถบอกได้ว่า สินค้าตัวนี้ควรเลิกขายเพราะยิ่งขายยิ่งขาดทุน หรือ สินค้าตัวนี้ควรเพิ่มงบการตลาดให้ เพราะเป็นสินค้าที่ Margin ดีมากๆ
การจะตัดสินใจเรื่องนี้ได้อย่างแม่นยำนั้น ต้นทุนของเราก็ต้องแม่นยำด้วย เพราะสินค้าแต่ละตัวมีโครงสร้างต้นทุนที่อาจจะแตกต่างกันออกไป บางตัวเหมือนจะต้นทุนไม่เยอะ แต่ต้นทุนแฝงเยอะมากก็มี เช่น สินค้าที่ต้องทำโปรโมชันบ่อยๆ เป็นต้น
9. Theme ของการใช้เงินต้องชัดเจน
Theme ของการใช้เงินเปรียบเสมือนนโยบายคร่าวๆ ที่ให้ผู้บริหารตัดสินใจได้ว่า เราควรทำหรือไม่ควรทำอะไร
และนี่ก็คือ 9 เช็กลิสต์เรื่องการงานที่ SMEs ต้องรู้ เรื่องการเงินคือหัวใจของกิจการจริงๆ ดังนั้นเจ้าของกิจการต้องใส่ใจให้มากๆ นะครับ
#inspireproject
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast