INSPIRATIONช้าลงบ้างก็สุขได้! ถึงเวลาบอกลาชีวิตเร่งรีบ ด้วยการทำชีวิตให้ Slow Down

ช้าลงบ้างก็สุขได้! ถึงเวลาบอกลาชีวิตเร่งรีบ ด้วยการทำชีวิตให้ Slow Down

“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง”

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนให้มนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ทั้งเหนื่อยและอ่อนเพลีย เพราะเพิ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ต้องรีบลืมตาตื่นเพื่อรีบเดินทางไปทำงานอีกครั้ง อยากนอนต่ออีกสัก 5 นาทีก็ทำไม่ได้ เพราะขืนออกจากบ้านช้าหรือผิดเวลาไปนิดเดียวอาจทำให้การเดินทางไปทำงานในตอนเช้าเปลี่ยนไปทันที

พอตกบ่าย… แม้จะเหนื่อยแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถหยุดพักได้ ต้องรีบทำงานที่อยู่ตรงหน้า รีบหาเวลาไปกินข้าว และรีบกลับมาทำงานให้ทันตามตารางที่แน่นในแต่ละวันที่ให้เสร็จ พอถึงเวลาเลิกงานก็ยังกลับไม่ได้ เพราะยังมีงานที่ต้องรีบปั่นให้เสร็จ และเมื่อวันที่เร่งรีบและวุ่นวายจบลงไปอีกวัน กลับรู้สึกว่ายัง Productive ไม่พอ เราน่าจะทำอะไรให้ได้มากกว่านี้ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่คนเก่งๆ ทั้งนั้น

นี่ซินะ… “ชีวิตของมนุษย์เงินเดือน” บนโลกที่วุ่นวายและสังคมที่มีแต่ความเร่งรีบนั้นหล่อหลอมให้เรากลมกลืนไปกับ “Hustle Culture” หรือ “วัฒนธรรมการทำงานที่เร่งรีบ” ทำให้กลายเป็น “คนบ้างาน” แบบไม่รู้ตัว จนไม่มีเวลาให้ตัวเอง ไม่ได้เจอหน้าครอบครัว ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนฝูง

ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้คนคนหนึ่งได้รับความกดดันนับไม่ถ้วน ทั้งจากตัวเอง คนรอบข้าง และสังคม ที่ส่งสัญญาณมาว่าต้องทำให้เยอะขึ้น ต้องรู้ให้มาก ต้องมีมาตรฐานที่สูง และต้องตามทุกอย่างให้ทัน ซึ่งส่งผลให้ชีวิตในแต่ละวันมีแต่ความเร่งรีบและเร่งด่วน ครั้นจะพักก็ทำไม่ได้ สุดท้ายก็จบลงที่ความเครียด ความกดดัน ส่งผลต่อสุขภาพกายและใจ และทำให้จัดลำดับความสำคัญได้ไม่ดีอีกด้วย

แล้วชีวิตแบบนี้คือชีวิตที่เราต้องการจริงหรือ?

Mission To The Moon จึงอยากชวนทุกคนบอกลาชีวิตที่เร่งรีบและวุ่นวาย แล้วมาลองทำชีวิตให้ Slow Down ด้วยการใช้ชีวิตให้ช้าลง โฟกัสแค่เรื่องที่จำเป็น และอนุญาตให้ตัวเองได้ค้นพบความสมบูรณ์และความสุขเล็กๆ ของชีวิตที่เคยหล่นหายไปให้กลับมาอีกครั้ง ด้วย

5 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ใช้ชีวิตแบบค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้สังคมที่เร่งและกดดันอยู่ตลอด มาติดตามกันว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง

1. ไม่ตามกระแสไปทุกอย่าง

ในปัจจุบันโซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตและการทำงานอย่างมาก แม้จะช่วยให้เรารับรู้ข่าวสาร ความเคลื่อนไหว หรือเทรนด์ใหม่ๆ รอบโลกที่เป็นกระแสได้อย่างเรียลไทม์ แต่หากมีข้อมูลที่มากเกินความจำเป็นหรือรับข้อมูลที่หนักเกินไป อาจทำให้ขาดสมาธิ เครียด กดดัน และเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ ซึ่งเราสามารถวางแผนชีวิตและมีความสุขได้โดยไม่ต้องยึดติดกับเทรนด์หรือกระแสสังคมที่เกิดขึ้นใหม่ตลอด หรือที่เรียกว่า “JOMO” (Joy of Missing Out)

เมื่อเราเลือกโฟกัสเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ก็จะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น ไม่ต้องคอยกังวลหรือเครียดว่าตามเทรนด์ใหม่ๆ ไม่ทัน เพราะสิ่งเหล่านั้นอาจไม่ได้สำคัญและส่งเสริมชีวิตให้ดีขึ้นก็เป็นได้

Advertisements

2. เขียน “To-Not-Do List”

หากพูดถึง “To-Do List” เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกันบ้างแล้ว เพราะสามารถใช้ได้ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการจดสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน การจดสิ่งที่อยากทำ หรือการจดรายการสิ่งของที่ต้องซื้อ แต่หากพูดถึง “To-Not-Do List” อาจทำให้หลายคนสงสัยว่าคือการจดอะไร ซึ่งก็ตรงตามชื่อเลย คือ การจดถึงสิ่งที่ไม่ต้องทำ

โดยการเขียน To-Not-Do List จะช่วยให้เราพิจารณาถึงนิสัยหรือกิจกรรมที่ไม่มีความจำเป็น หรือทำแล้วไม่ได้อะไรมีแต่เสียเวลาและพลังมากขึ้น ซึ่งหากเขียนสิ่งที่ต้องทำและไม่ต้องทำควบคู่กันไป อาจช่วยให้จัดระเบียบความคิดและบริหารจัดการเวลาในแต่ละวันได้ดียิ่งขึ้น

Advertisements

3. ไม่ทำอะไรที่ฝืนธรรมชาติ

ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างธุรกิจ การพัฒนาตัวเอง การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือแม้แต่การเข้างานใหม่ ทุกอย่างต้องเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ต้องใช้เวลาในการพัฒนาและเรียนรู้ เพราะความสำเร็จไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีตั้งแต่เริ่มลงมือทำ ซึ่งเหมือนกับการปลูกต้นไม้สักต้น ตั้งแต่ที่เราเริ่มหยอดเมล็ดพันธุ์ พรวนดิน และรดน้ำต้นไม้ทุกๆ วัน เราจะพบว่าต้นไม้ที่ปลูกนั้นไม่ได้เติบโตแบบชั่วพริบตา แต่ทุกอย่างมีขั้นตอนไปตามกระบวนการของธรรมชาติ

ดังนั้น ไม่ว่าจะลงมือทำอะไรก็ตาม เราไม่ควรไปรีบเร่งหรือฝืนให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วและทันใจ ปล่อยให้ค่อยๆ พัฒนา เรียนรู้ และสักวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมชีวิตก็จะผลิบานเหมือนกับต้นไม้

4. ไม่ต้องเก็บทุกอย่างมาคิด

มีใครเคยนับบ้างไหมว่าในแต่ละวันมีความคิดอะไรบ้างที่แล่นเข้ามาในหัวของเรา หากต้องลิสต์ 5 ประเด็นที่เพิ่งคิดไปเมื่อ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังจำกันได้ไหมว่าคิดเรื่องอะไรกันบ้าง? ทุกวันนี้เราต่างคิดเยอะและคิดมากจนเกินไป โดยเฉพาะเรื่องที่ผ่านมาแล้วและเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เช่น “เมื่อวานน่าจะทำให้ดีกว่านี้” หรือ “พรุ่งนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ” จนทำให้สมาธิหลุด ไม่สามารถโฟกัสกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ดี

ลองปรับมุมมอง คิดให้น้อยลง และลงมือทำให้มากขึ้น โดยการอยู่กับปัจจุบันและทำตอนนี้ให้ดีที่สุด ปล่อยให้เรื่องที่ผ่านไปแล้วล่องลอยไป ส่วนเรื่องที่ยังมาไม่ถึงก็ช่างมันไว้ก่อน เพราะการกระทำในปัจจุบันจะกำหนดอนาคตเอง

5. ลดการใช้โทรศัพท์

สิ่งแรกที่ทำหลังจากตื่นนอนตอนเช้าคืออะไร?
แล้วสิ่งสุดท้ายที่ทำก่อนจะเข้านอนคืออะไร?

เชื่อว่า “การเล่นโทรศัพท์” และ “การไถโซเชียลมีเดีย” คงเป็นคำตอบอันดับต้นๆ ของใครหลายคน แล้วเคยสังเกตกันไหมว่าทำไมตอนใช้โทรศัพท์เวลาถึงได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว ซึ่งผิดกับทำงานหรือเวลาอ่านหนังสือที่รู้สึกว่าเวลามันช่างเดินช้าเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเวลาก็เดินเท่ากัน

แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีสำคัญและมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตและการทำงานในปัจจุบันมาก แต่หากนำมาใช้แบบผิดๆ และมากเกินจำเป็น อาจทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ และขาดปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างอีกด้วย ค่อยๆ เริ่มต้นเปลี่ยนตัวเองทีละนิด ด้วยการจำกัดเวลาใช้โทรศัพท์ เวลาไปเที่ยวหรืออยู่กับคนอื่นควรโฟกัสกับคนตรงหน้ามากกว่าหน้าจอ

หากใครกำลังรู้สึกว่าชีวิตในช่วงนี้มีแต่ความวุ่นวายและเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา จนรู้สึกเครียด กดดัน พลังงานในแต่ละวันหมดเร็ว ขาดสมาธิ และจัดลำดับความสำคัญไม่ได้ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าได้เวลาบอกลาความเร่งรีบ แล้วมาทำชีวิตให้ Slow Down แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสามารถใส่ใจตัวเองและโฟกัสกับสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วสุดท้ายก็จะพบความสุขเล็กๆ ในชีวิต


เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
เลิกคิดมากแบบง่ายๆ ด้วยเทคนิค Brain Dump Exercise!
ไหวหรือเปล่า? เมื่อความเครียดมาทักทายในวันที่การ Reskill มาถึง

อ้างอิง:
https://bit.ly/3tMiCsu
https://bit.ly/3tOZYQy

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า