ชีวิตดีตลอดวันได้ ถ้าทำให้ “ชั่วโมงแรก” ของวันดีที่สุด

4369
ชั่วโมงแรก

ตื่นนอนต้องตื่นแต่เช้ามืด..

ตื่นแล้วห้ามเล่นโทรศัพท์..

ควรออกกำลังตอนเช้าหลังตื่นนอน..

Advertisements

หลายๆ คนเชื่อแบบนี้เพราะเคยได้ยินบ่อยๆ ว่าหากเราตื่นเช้า เราจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น ถึงกับมีคำพูดที่ว่า ‘นกที่ตื่นเช้าย่อมจับหนอนได้ก่อน’ 

ความคิดเช่นนี้ทำให้หลายๆ คนกดดันตัวเองกันจนไม่รู้ตัว แม้นอนดึกแค่ไหนก็ต้องฝืนตื่นเช้าเพราะไม่อยากรู้สึกแย่กับตัวเอง หรือบางครั้ง ถ้าเผลอตื่นสายจริงๆ ก็จะรู้สึกผิดจนนอยด์ไปทั้งวัน เราผูกนิยามของการตื่นเช้าไว้กับ ‘ความขยัน’ และในขณะเดียวกันเราก็ตราหน้าการตื่นสายว่าเป็นการกระทำของ ‘คนขี้เกียจ’

ทั้งๆ ที่จริงแล้วชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป!

คนเราเกิดมาแตกต่าง มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตารางงาน สุขภาพ และภาระหน้าที่ในชีวิตต่างกันออกไป เราไม่จำเป็นต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อมาเล่นโยคะ ออกไปวิ่ง และอ่านหนังสือ เพื่อที่จะมีความสุขและประสบความสำเร็จเสมอไป

เพราะจริงๆ แล้วการตื่นนอน ‘เมื่อไหร่’ ไม่สำคัญเท่าเรา ‘ทำอะไร’ หลังตื่นนอน 

ชั่วโมงแรกของวันสำคัญอย่างไร

เคยสังเกตไหมว่า ถ้าเราเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความหงุดหงิด มักจะมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับเราทั้งวัน ทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด ราวกับโชคเลือกที่จะไม่เข้าข้างเราในวันนั้น ในภาษาอังกฤษมีวลีที่อธิบายเหตุการณ์นี้ว่า “Get up on the wrong side of the bed” ซึ่งก็คืออาการที่ทุกอย่างผิดที่ผิดทางตลอดทั้งวัน ราวกับว่ามันผิดตั้งแต่เราตื่นนอนมาผิดด้านแล้ว

จริงๆ แล้วอารมณ์หลังจากตื่นนอนนั้นส่งผลมากกว่าที่เราคิด งานวิจัยพบว่า หากเราเริ่มวันใหม่ด้วยอารมณ์บวก โอกาสที่วันๆ นั้นจะดีทั้งวันก็เพิ่มขึ้นตาม ราวกับการตั้งค่าอารมณ์ของวันนั้นว่าช่วงเวลาที่เหลือของวันจะเป็นเช่นไร 

จะเห็นได้ว่าการเริ่มวันใหม่ให้ดีเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเรามาเปลี่ยน “กิจวัตรยามเช้า” (Morning Routine) ของเราให้ดีกว่าเดิมไหม การมีกิจวัตรยามเช้านอกจากจะช่วยให้เรารู้สึกมั่นคงแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดทั้งพลังงานสมองและเวลาของเราได้ หากเราตื่นมาแล้วรู้ว่าเรามีอะไรให้ทำบ้าง เราจะได้รีบลุกออกจากเตียงและเริ่มวันใหม่โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลานอนคิด (จนหลับไปอีกรอบ) ว่าทำอะไรดี

แน่นอนว่า กิจวัตรหลังตื่นนอนของเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเป๊ะๆ ตามตารางเสมอไป ลองออกแบบตามไลฟ์สไตล์และพลังงานของตัวเองในแต่ละวันดู โดยอาจจะเลือก 2-3 สิ่งในลิสต์ที่เราเลือกมาให้นี้ดูก็ได้

แค่ทำชั่วโมงแรกของวันให้ดีที่สุดโดยการสละเวลามาลองทำกิจวัตรยามเช้าเหล่านี้ เราอาจค้นพบก็ได้ว่าเราก็มีวันที่ดีได้โดยไม่ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่! มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. เปิดม่านรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง

การศึกษาพบว่าแสงส่งผลต่อนาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) และระดับเมลาโทนินในร่างกาย ซึ่งคอยควบคุมเรื่องการนอนของเรา แสงอาทิตย์จะช่วยสับสวิตช์สมองและแจ้งเตือนร่างกายว่าถึงเวลาตื่นนอนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ใครที่ชอบตื่นเช้า มีงานวิจัยพบว่าการออกไปรับแสงอ่อนๆ ยามเช้าอย่างน้อยสัก 10 นาทีจะช่วยลดความเครียดและช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้น

2. ดื่มน้ำ

อาการขาดน้ำอาจเป็นสาเหตุให้เราตื่นมาปวดหัว ง่วงมากเป็นพิเศษ และตั้งสมาธิยาก การดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอนจะช่วยเติมน้ำคืนให้แก่ร่างกาย แถมยังช่วยให้ผิวกายชุ่มชื้นอีกด้วยนะ

3. ฝึก Personal Gratitude 

“คิดถึง 5 สิ่งที่เรารู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน เช่น การขอบคุณที่ตัวเองเป็นคนจิตใจดี ขอบคุณที่ทำสปาเกตตีให้ตัวเองทาน หรือขอบคุณที่ตัวเองเป็นคนมีระเบียบ เป็นต้น” Stacy Kaiser นักเขียนและนักจิตบำบัดชื่อดังกล่าว

Advertisements

การศึกษาพบว่าคนที่ขอบคุณสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตตัวเองนั้น มักจะมองโลกในแง่ดีกว่าและมีความสุขกับชีวิตตัวเองมากกว่า ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือคนเหล่านี้พบแพทย์น้อยกว่าคนทั่วๆ ไปด้วย แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างด้านสุขภาพจิตและสุขภาพกายส่งผลต่อกันจริง

4. เขียน Morning Pages

ในตอนเช้าๆ บางครั้งสมองของเราก็เต็มไปด้วยความคิดต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือปัญหาด้านอื่นๆ ในชีวิต การเขียนระบายทุกอย่างลงไปในกระดาษยังช่วยให้เรารู้สึกโล่ง ผ่อนคลาย และความคิดมีระเบียบมากขึ้นด้วย

5. วางแผน

ตั้งแต่งานใหญ่ๆ อย่างการเตรียมนำเสนอโปรเจกต์สำคัญ หรือภารกิจส่วนตัวเล็กๆ เช่นการทำดีกับคนรอบตัว การศึกษาพบว่าขอแค่เรามีการตั้งเป้าหมายแบบจริงจัง โดยการจดบันทึกเป้าหมายดังกล่าวลงในสิ่งที่ต้องทำของเรานั้น ช่วยให้เราโฟกัสและรู้สึกดีมากขึ้น

6. แบ่งปันความสุขแก่ผู้อื่น

ก่อนจะเริ่มวันหนักๆ ลองแบ่งปันความสุขยามเช้าให้ผู้อื่นบ้าง เช่น โทรหาเพื่อน หรือส่งข้อความหาคนในครอบครัว สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คนอื่นๆ รู้สึกดี แต่ยังช่วยให้เราเริ่มวันใหม่อย่างสดใสได้ด้วย

งานวิจัยพบว่าแค่คิดถึงคนที่เรารักหรือคนสำคัญก็ช่วยให้เรารู้สึกลดความเจ็บปวดและความเครียดแล้ว ดังนั้นมาคิดถึงคนสำคัญของเราและแสดงออกให้พวกเขารับรู้ในทุกๆ เช้ากันนะ

7. ยืดเส้นยืดสาย

ไม่ถึงกับต้องตื่นออกไปวิ่งหรือเข้ายิม แค่ยืดเส้นยืดสายบนเตียงสักไม่กี่นาที สารในสมองที่ชื่อ โดพามีนก็หลั่งออกมาได้ ส่งผลให้เรามีความสุข มั่นใจ และมีพลังงานมากขึ้น ที่สำคัญขณะยืดเส้นยืดสายเราจะได้ฝึกหายใจไปในตัวด้วย ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่เริ่มวัน

8. ทำ ‘อะไรก็ได้’ ที่ทำให้เรากระปรี้กระเปร่า

บทความหนึ่งของ The New York Times ได้สัมภาษณ์คนที่ประสบความสำเร็จกว่า 300 คนเกี่ยวกับเรื่องกิจวัตรยามเช้า ผู้เขียนบทความพบว่าหลังจากตื่นนอน คนเหล่านี้จะแบ่งเวลามาทำสิ่งที่พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกตื่นตัว หรือรู้สึกมีแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยง หรืออ่านหนังสือ

ยกตัวอย่างเช่น Marie Kondo นักเขียนหนังสือเกี่ยวกับการดูแลบ้านชื่อดัง เพราะการจัดบ้านเป็นสิ่งที่เธอรัก เธอจึงเริ่มวันใหม่ด้วยการดูแลบ้านเสมอ โดยการเปิดหน้าต่างให้อากาศสดชื่นเข้ามาในบ้านและจุดเครื่องหอม สิ่งเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้เธอมีพลังในการออกไปใช้ชีวิตมากขึ้น

9. นอนต่อ

ถ้านอนไม่พอจริงๆ ก็นอนต่อดีกว่า เพราะคุณภาพการนอนของเรานั้นส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์และประสิทธิภาพในการทำงาน  หากเราตื่นเช้าแต่ต้องมานั่งซึมทั้งวันเพราะจริงๆ นอนไม่พอ วันทั้งวันของเราคงไม่มีความสุข

การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อโรคเรื้อรังหลายอย่าง อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันลดลงด้วย ดังนั้นกิจวัตรยามเช้าอาจไม่มีความหมายอะไรเลยหากเรานอนไม่พอ

ตื่นสายเท่าไหร่ก็เริ่มวันใหม่ให้ดีได้ ถ้าสละเวลามาทำสิ่งเล็กๆ เหล่านี้เพียงไม่กี่นาที ทั้งอารมณ์ ประสิทธิภาพในการทำงาน และความสุขโดยรวมของเราจะเพิ่มขึ้น

อ้างอิง
https://bit.ly/3jV2PlE
https://bit.ly/3nIMIbZ
https://nyti.ms/2ZOjlNv
https://bit.ly/3nIMvFY

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#selfimprovement

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements