5 อุดมการณ์ฆ่าไม่ตายจาก “V for Vendetta” ภาพยนตร์แอ็กชัน ที่การเมืองมันยิ่งกว่าฉากต่อยตี

2475
Vforvendetta

V for Vendetta ภาพยนตร์แอ็กชันระทึกขวัญ กำกับโดยเจมส์ แม็กทีก เขียนบทโดยสองพี่น้อง ลิลลี่ และลาน่า วาชอว์สกี ผู้เคยสร้างชื่อไว้กับไตรภาค ‘The Matrix’

หนังบอกเล่าเหตุการณ์ในประเทศแห่งหนึ่ง ที่เกิดการต่อสู้ระหว่างพรรคแรงงาน ที่สนับสนุนแนวคิดเสรี กับฝ่ายอนุรักษนิยมที่เป็นรัฐบาลในขณะนั้น จนกระทั่ง ‘V’ ชายนิรนาม ผู้มาพร้อมหน้ากาก ‘กาย ฟอกส์’ ได้เข้ามาปลุกอุดมการณ์แห่งเสรีให้ตื่นขึ้น นำไปสู่กองทัพประชาชน เพื่อปลดแอกเสรีภาพ

หากพูดถึงภาพยนตร์ V for Vendetta เรื่องนี้ หลายคนอาจนึกถึงฉากแอ็กชันสุดมัน การแสดงใต้หน้ากากขั้นเทพของ “ฮิวโก วีฟวิง” แต่ที่โดดเด่นที่สุด ต้องยกให้กับความคมคายใน “ประเด็นการเมือง” ที่อัดแน่นมาทั้งเรื่อง และเป็นที่มาของอุดมการณ์อันทรงพลัง ที่เราจะขอหยิบมากระตุกจิตกระชากใจเพื่อนๆ สักหน่อย

1. เมื่อกฎหมายคือความอยุติธรรม เราจึงมีหน้าที่ต้องปลดแอก

รัฐบาลของพรรค Norsefire ได้อำนาจมาด้วยการสร้างสถานการณ์น่ากลัวก่อนการเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนรู้สึกหวาดระแวง จนเทคะแนนไปให้พรรคนี้แบบท่วมท้น

หลังชนะเลือกตั้ง ผู้นำพรรค (อดัม ซัทเลอร์) ได้ออกประกาศว่า จะเร่งคืนความสงบให้ประเทศอย่างเร็วที่สุด พร้อมทิ้งท้ายเป็นคำขวัญว่า “ประเทศอังกฤษต้องชนะ”
ซึ่งก็มีนักเคลื่อนไหวฝ่ายเสรีที่ออกมาต่อต้านเช่นเดียวกัน แต่ก็ถูกรัฐอุ้มหายไปทีละคน จนประเทศสงบจริงๆ เพราะไม่เหลือคนที่เห็นต่างอีกต่อไปแล้ว

ภายใต้การปกครองด้วยความกลัว รัฐออกกฎหลายอย่างที่เป็นการริดรอนเสรีภาพ ทั้งห้ามวิจารณ์ผู้นำ ห้ามออกจากบ้านตอนกลางคืน โดยมีสื่อเป็นเครื่องมือหลอกให้ผู้คนเชื่อตลอดเวลาว่าทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อผู้มีอำนาจ ใช้ “กฎหมาย” ที่ไม่ชอบธรรม ออกโดยคนกลุ่มหนึ่ง แต่ใช้เพื่อกดขี่ประชาชน กฎหมายจึงไม่ใช่ความถูกต้องอีกต่อไป การต่อสู้กับกฎหมาย ก็เลยกลายเป็นการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมที่แท้จริง

2. การเพิกเฉยต่อปัญหา คือสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าอะไร

ภายใต้การปกครองของรัฐ ประชาชนในประเทศนี้ถูกปิดหูปิดตา กล่อมให้เชื่องด้วยโฆษณาจากสื่อ หลายคนไม่รู้เลยว่า อำนาจชั่วจากรัฐได้กดขี่พวกเขาอย่างไร พวกเขารู้แค่ว่า ประเทศนี้ช่างสงบดีเหลือเกิน แต่ความจริงคือมีคนอีกมากที่ถูกอุ้มหาย เพราะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง ในประเทศที่ถูกแช่แข็ง คนต้องใช้ชีวิตอย่างเกรงกลัว โดยมีอำนาจรัฐเป็นเพดานที่กดทับอยู่

Advertisements

แต่เพดานความกลัว ได้ถูกทำลายลงด้วยการปรากฏตัวของ ‘V’ ต่อสายตาของประชาชน ผ่านการถ่ายทอดสดทั่วประเทศไว้ว่า

“ถ้าคุณมองไม่เห็นถึงความเลวร้ายของรัฐ คุณจะปล่อยสิ่งที่ผมพูดผ่านไปก็ได้ แต่ถ้าคุณเห็นอย่างที่ผมเห็น รู้สึกแบบที่ผมรู้สึก และหากเราต้องการสิ่งเดียวกัน งั้นเราต้องออกมาช่วยกันแสดงพลังให้พวกมันเห็น”

แน่นอนว่ามีหลายคนที่รู้สึกถึงความเลวของรัฐเช่นเดียวกับเขา แต่ไม่เคยมีใครในประวัติศาสตร์ยุคนี้ ที่กล้าท้าทายอำนาจรัฐมาก่อน ในตอนแรกอาจจะยากที่จะกล้าออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านความชั่วร้าย แต่เมื่อเรากล้า และยืนหยัดร่วมกัน ต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม เมื่อนั้นปาฏิหาริย์ของพลังมวลชนก็เกิดขึ้นได้จริงๆ

3. ประชาชนไม่ควรที่จะกลัวรัฐ แต่รัฐต่างหากที่ควรจะเกรงกลัวประชาชน

ประโยคอมตะของ ‘V’ ที่หลายคนจำได้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ กับคำถามที่ว่า ทำไมประชาชนถึงจะต้องกลัวรัฐ ในเมื่อรัฐต่างหากต้องกลัวประชาชน เมื่อรัฐบาล Norsefire ที่ทำอะไรไม่เป็นนอกจากข่มขู่ ควบคุม ใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง เหลือเครื่องมือเดียวที่ใช้ควบคุมฝูงชนได้ ซึ่งก็คือ “ความกลัว”

แต่ในเมื่อประชาชนไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว ทุกคนมีอุดมการณ์ที่อยากเปลี่ยนแปลง รัฐของ Norsefire จึงต้องพบกับจุดจบจากพลังของเสรีภาพ ไม่ใช่พลังจากปลายกระบอกปืนอย่างที่พวกเขาใช้ปกครอง (ถึงจะใช้ระเบิดเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการต่อต้านก็เถอะ)

4. ภายใต้หน้ากากนี้มีอุดมการณ์ และอุดมการณ์จะไม่มีวันตาย

ฉากแอ็กชันสุดเท่ ที่มาพร้อมกับประโยคเด็ดทรงพลัง เมื่อ ‘V’ ต้องเผชิญกับฝ่ายรัฐที่เต็มไปด้วยอาวุธครบมือ ปืน มีด ระเบิด เสื้อเกราะ ในขณะที่เขามีแค่มีดเล่มจิ๋ว
ในความเป็นจริงคงไม่มีทางที่จะชนะ เหมือนกับที่ ‘Mr. Creedy’ (หัวหน้าตัวร้าย) ได้กล่าวไว้ว่า

“เรามีปืน แกล่ะมีอะไร มีดกับสกิลคาราเต้งั้นเหรอ?”

Advertisements

แต่สรุปสุดท้าย ‘V’ เป็นฝ่ายชนะได้จริง แม้จะถูกยิงด้วยกระสุนเป็นร้อยนัดก็ตาม ซึ่งเขาไม่ตาย ได้ยังไง? โดยที่ตัวร้ายก็ถามเหมือนกับผมเลยว่า

“ทำไมแกถึงไม่ตาย?”

“ภายใต้หน้ากากนี้มีมากกว่าเลือดเนื้อ มันมีอุดมการณ์ และอุดมการณ์จะไม่มีวันตาย”

คำตอบของ ‘V’ แสดงให้เห็นว่า เป็นเพราะอุดมการณ์ของเขาที่เชื่อในเสรีภาพทำให้ปืนทำอะไรเขาไม่ได้ จริงอยู่ที่ชีวิตคนอาจจะตายได้ด้วยกระสุนปืน แต่อุดมการณ์ที่หนักแน่นจะไม่ตายตามไป ฉากนี้จึงทั้งมัน ทั้งทรงพลัง ด้วยคมคายในการเปรียบการต่อสู้ระหว่างลูกปืน กับอุดมการณ์ ออกมาเป็นฉากบู๊แบบถึงใจ

5. อย่ายึดติดที่ตัวบุคคล แต่จงยึดมั่นในอุดมการณ์

“เราถูกบอกให้จดจำที่ตัวอุดมการณ์ ไม่ใช่บุคคล เพราะคนสามารถล้มเหลว เขาอาจถูกจับ ถูกฆ่าและถูกลืมเลือน แต่อุดมการณ์จะยังคงอยู่กับโลกนี้ต่อไป”

ประโยคที่นางเอกใช้พูดเปิดเรื่อง V for Vendetta นี้ ที่ผมจะขอนำมาปิดบทความนี้ว่า

“ในการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ เราไม่ควรที่จะยึดติดกับตัวบุคคล เพราะมนุษย์มีโอกาสที่จะทำผิดพลาด วันหนึ่งเขาอาจเปลี่ยนไป หรือเขาอาจถูกจับ ถูกฆ่า พอเวลาผ่านไปเราก็จะลืมไปว่าเคยต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ เราจึงควรยึดมั่นในสิ่งที่เชื่อ เป้าหมายที่มี เพราะเมื่อมันเป็นอิสระไม่ถูกยึดเกี่ยวไว้กับใครคนใดคนหนึ่ง เราจะไม่ลืมว่าอะไรที่เรากำลังต่อสู้เพื่อมันอยู่ และมันจะคงอยู่ไปตลอดกาล”



#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#society
#vforvendetta

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/online-content/

Advertisements