ในช่วงแรกของความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก เป็นธรรมดาที่คนส่วนใหญ่มักจะเผยนิสัยด้านดีออกมาให้คู่ของตนเองเห็น มากกว่าการแสดงออกถึงนิสัยแท้จริง จึงเกิดเป็นคำเรียกติดปากคนของสมัยใหม่ว่า “ช่วงโปรโมชัน”
แต่เมื่อผ่านไปสัก 4-5 เดือน นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของคนจะเริ่มแสดงออกมา ถ้าใครเจอคนที่ดีก็ถือว่าเป็นสิ่งที่โชคดีในความสัมพันธ์ไป แต่นั่นไม่ใช่กับทุกคน เพราะมีหลายคนที่ได้เจอกับบุคคลที่มีความไม่สมบูรณ์ทางอารมณ์หรือเรียกง่ายๆ ว่านิสัยยังไม่โต
ศาสตราจารย์ Berit Brogaard ได้นิยามความไม่สมบูรณ์ทางอารมณ์ไว้ว่า ‘เป็นลักษณะของบุคคลที่มีความคิดยังไม่บรรลุนิติภาวะถึงแม้ว่าจะมีอายุมากแล้วก็ตาม’ นอกจากนี้ ในบทความของ Healthline ยังได้กล่าวไว้ว่า คนที่มีความคิดยังไม่โต จะไม่มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง รวมถึงยังไม่มีความฉลาดในการสื่อสารกับผู้อื่นเท่าที่ควร และข้อบกพร่องเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ในเวลาต่อมา
นอกจากนี้นักจิตวิทยา Jennice Vilhauer ได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า อาการหึงหวงไร้เหตุผลก็ถือเป็นนิสัยหนึ่งของความไม่สมบูรณ์เช่นกัน และนิสัยนี้จะทำลายความไว้วางใจ และความเชื่อใจของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย
นี่คือ 6 สัญญาณของคนที่มีความไม่สมบูรณ์ทางอารมณ์ ซึ่งถือเป็นพิษร้าย (Toxic) ในความสัมพันธ์ ที่คุณควรสังเกตและหาทางรับมือให้ถูกวิธี
1.ตำหนิทุกพฤติกรรมของคุณ
เมื่อเกิดสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งขึ้นมา คนที่มีนิสัยไม่โตมักจะหลีกเลี่ยงความผิดโดยการนำเรื่องในอดีตเล็กๆ น้อยๆ ของคุณมาพูดเพื่อเป็นการโยนความผิดให้คุณ ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายผิดในเรื่องนี้ก็ตาม
คนที่มีลักษณะของความเป็น Toxic จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ให้คุณเป็นฝ่ายผิดและทำให้คุณเกิดความรู้สึกแย่ รวมถึงเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้น คนเหล่านี้มักจะไม่รับฟังความคิดเห็นของคุณเลย จะคิดแค่ว่าต้องการเอาชนะอย่างเดียว
คนที่มีลักษณะของความเป็น Toxic จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ให้คุณเป็นฝ่ายผิดและทำให้คุณเกิดความรู้สึกแย่ รวมถึงเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้น คนเหล่านี้มักจะไม่รับฟังความคิดเห็นของคุณเลย จะคิดแค่ว่าต้องการเอาชนะอย่างเดียว
2. ตั้งใจทำลายความรู้สึก แต่กลับทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่อง
คนบางคนมักจะใช้การสื่อสารแบบ Passive-Aggressive ซึ่งก็คือ การทำพฤติกรรมบางอย่างให้อีกฝ่ายเกิดความรู้สึกไม่ดี เช่น โมโห หงุดหงิด ด้วยความตั้งใจ แต่กลับทำตัวเหมือนปกติ ไม่รับรู้ว่าสิ่งนั้นได้ทำให้คุณไม่พอใจ
เช่น เมื่อคุณนัดแฟนของคุณไปงานปาร์ตี้เพื่อนในคืนวันเสาร์แล้วเขาก็ตอบตกลงแล้ว แต่พอถึงเวลาจะไปแฟนของคุณบอกว่า ไม่ไปแล้วเพราะรู้สึกเหนื่อย แต่คุณได้ตอบตกลงกับเพื่อนไปแล้ว และทุกอย่างในงานปาร์ตี้ได้ถูกจัดเตรียมขึ้นเพื่อรองรับคนจำนวนแบบพอดี ถ้าไม่ไปก็เหมือนเป็นการผิดคำพูด แต่แฟนของคุณก็ใช้ข้ออ้างเพื่อขอความเห็นใจเพราะวันเสาร์เป็นวันเดียวที่เขาจะได้พักผ่อน
Passive-Aggressive มักจะถูกใช้โดยการหาข้ออ้างบางอย่าง เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดของตัวเอง อย่างเช่น เวลาที่ต้องผิดคำพูด เพื่อทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่ผิดในสถานการณ์นี้
เช่น เมื่อคุณนัดแฟนของคุณไปงานปาร์ตี้เพื่อนในคืนวันเสาร์แล้วเขาก็ตอบตกลงแล้ว แต่พอถึงเวลาจะไปแฟนของคุณบอกว่า ไม่ไปแล้วเพราะรู้สึกเหนื่อย แต่คุณได้ตอบตกลงกับเพื่อนไปแล้ว และทุกอย่างในงานปาร์ตี้ได้ถูกจัดเตรียมขึ้นเพื่อรองรับคนจำนวนแบบพอดี ถ้าไม่ไปก็เหมือนเป็นการผิดคำพูด แต่แฟนของคุณก็ใช้ข้ออ้างเพื่อขอความเห็นใจเพราะวันเสาร์เป็นวันเดียวที่เขาจะได้พักผ่อน
Passive-Aggressive มักจะถูกใช้โดยการหาข้ออ้างบางอย่าง เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดของตัวเอง อย่างเช่น เวลาที่ต้องผิดคำพูด เพื่อทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่ผิดในสถานการณ์นี้
3.ใช้คำพูดเป็นอาวุธในการทำร้ายคนอื่น
บทความ Psychology Today ได้อธิบายว่า ความรู้สึกโกรธของคน สามารถสร้างอาวุธที่เรียกว่า “คำพูด” ขึ้นมาเพื่อใช้ทำร้ายฝ่ายตรงข้ามให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดภายในได้ เพราะคนที่มีนิสัยไม่โตมักจะจัดการกับอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ เลยเลือกที่จะใช้คำพูดที่ไม่ดีออกมาให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น ซึ่งนิสัยของคนที่โตแล้วจะไม่ใช้คำพูดเพื่อเป็นอาวุธทำร้ายคนอื่น แต่จะหาทางสื่อสารเพื่อปรับความเข้าใจกันมากกว่า
4. ควบคุมคนอื่นเหมือนเป็นเจ้าชีวิต
บุคคลที่มีนิสัยยังไม่โตจะพยายามให้คุณเปิดเผยชีวิตประจำวันกับเขาเสมอ หรือชอบแสดงพฤติกรรมความเป็นเจ้าของมากเกินไป เช่น บังคับให้คุณถ่ายรูปรายงานตลอดว่าอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร หรือมักจะห้ามเวลาคุณจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้าม
5. หึงหวงเกินความจำเป็น
นิสัยหึงหวงแบบไม่มีเหตุผล อย่างเช่น เมื่อคุณทักทายเพื่อนร่วมงานเป็นปกติ แต่พอแฟนของคุณเห็นก็เกิดคำถามขึ้นมาว่ารู้จักกันได้อย่างไร? สนิทกันมากแค่ไหน? โดยการกระทำเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณหนึ่งของคนที่มีนิสัยไม่โต และเมื่อคุณเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ เข้า จะส่งผลให้คุณเกิดความรู้สึกกังวลและไม่มั่นใจที่จะสร้างมิตรภาพกับเพื่อนเพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหากับแฟนของตัวเอง
6.ทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
การให้ความสำคัญกับคู่ตัวเองถือว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่คนเป็นคู่รักควรทำ แต่ถ้าเกิดการเรียกร้องที่มากเกินความจำเป็น ย่อมส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ในภายหลัง บุคคลิกของคนที่มีนิสัยไม่โตมักจะแสดงนิสัยเอาแต่ใจมากเกินไปอย่างเช่น เรียกร้องให้ใช้เวลาอยู่กับเขาและมักจะน้อยใจเมื่อคุณใช้เวลาอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัว หรือจะแสดงพฤติกรรมเอาแต่ใจโดยไม่ถามความรู้สึกและความคิดของคุณเลย
บทความของ Psychology Today บอกว่า การเว้นระยะห่างในบางครั้งถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยลดความตึงเครียดในความสัมพันธ์และจะได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น
สุดท้ายนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา บางครั้งเราเองก็อาจจะแสดงนิสัยไม่ดีกับคู่ของเราแบบไม่รู้ตัวได้ แต่สิ่งสำคัญคือ เราควรตระหนักรับรู้ในการกระทำของตัวเองและพยายามปรับแก้ไขสิ่งที่เป็นอยู่ ให้เกียรติซึ่งกันและกันทั้งการพูดและการกระทำ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว
บทความของ Psychology Today บอกว่า การเว้นระยะห่างในบางครั้งถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยลดความตึงเครียดในความสัมพันธ์และจะได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น
สุดท้ายนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา บางครั้งเราเองก็อาจจะแสดงนิสัยไม่ดีกับคู่ของเราแบบไม่รู้ตัวได้ แต่สิ่งสำคัญคือ เราควรตระหนักรับรู้ในการกระทำของตัวเองและพยายามปรับแก้ไขสิ่งที่เป็นอยู่ ให้เกียรติซึ่งกันและกันทั้งการพูดและการกระทำ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว
Advertisements
