ทักษะการจัดการอารมณ์คือทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 21 เพราะไม่มีใครอยากร่วมงานกับคนอารมณ์ร้ายอย่างไร้เหตุผล ลองเช็กดูว่า คุณมีพฤติกรรมที่เข้าขั้นการมีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ หรือการเป็นคนเจ้าอารมณ์แล้วหรือยัง ถ้าเข้าข่ายเมื่อไหร่ให้รีบเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยด่วน!
คนเจ้าอารมณ์จะไม่พัฒนาความสัมพันธ์ที่มีความหมาย
คนทั่วไปมักแสวงหาความสัมพันธ์ที่มั่นคงและ ‘มีความหมาย’ อย่างการสร้างมิตรแท้ที่พร้อมจะแบ่งปันทุกข์สุขร่วมกัน แต่คนเจ้าอารมณ์มักเลือกจะใช้ชีวิตเพียงลำพัง เพราะการสร้างมิตรภาพเป็นเรื่องยากเกินไป
ถ้าคุณกำลังเดินตามเส้นทางอันเดียวดาย ลองเริ่มต้นในการทำความรู้จักกับผู้คนให้มากขึ้น อย่าลืมควบคุมจุดเดือดของตัวเองในยามที่พูดคุยกับคนอื่นๆ เพื่อเปิดใจรับฟังพวกเขามากกว่าที่ผ่านมา
คนเจ้าอารมณ์มักขาดการตระหนักรู้ในตัวเอง
การใช้อารมณ์เป็นตัวนำมักจะทำให้เราหลงลืมตัวเองไป เพราะมัวแต่สนใจความโกรธเกรี้ยว จนไม่ได้ย้อนคิดไปถึงว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ หรือต้นเหตุที่แท้จริงของความโกรธนั้นคืออะไร
จริงๆ แล้วเรามีสิทธิ์โกรธ แต่คุณต้องควบคุมมัน ไม่ใช่ปล่อยให้มันควบคุมคุณ สิ่งที่พอจะแก้ไขได้คือการหมั่นทบทวนตัวเองอยู่เสมอ ตระหนักรู้ว่าเราคือใคร และกำลังจะทำอะไร เพื่อจะได้ไม่หลงทางไปในกระแสความโกรธนั้น
คนเจ้าอารมณ์คือคนที่เอาตัวเองเป็นใหญ่
คนที่หงุดหงิดง่ายกับทุกๆ เรื่องมักเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น คนประเภทนี้มักจะโชว์เหนือในวงสนทนา ถ้าเขาได้เริ่มคุยกับใคร เราจะแทบไม่ได้ยินคำถามที่ขอความคิดเห็น ส่วนใหญ่จะกลายเป็นประโยคคุยโวเรียกความสนใจจากคนฟังเสียมากกว่า
เมื่อไรที่เริ่มรู้ตัวว่าคนฟังมีท่าทีอึดอัด และไม่มีการตอบรับบทสนทนาของเรา ให้พิจารณาดูว่าเรากำลังพูดโดยเอาตัวเองเป็นใหญ่อยู่หรือเปล่า ลองเงียบเพื่อฟังคนอื่นบ้าง
คนเจ้าอารมณ์จะมองไม่เห็นความผิดของตัวเอง
เมื่อไรที่มีการโต้แย้ง เขาจะตั้งต้นด้วยความรู้สึกว่า ความคิดของเขาถูกเสมอ และคนอื่นควรต้องยอมรับ และทุกๆ ครั้งที่คนอื่นพูด คนเจ้าอารมณ์คนนี้จะฟังเพื่อตอบโต้ ไม่ได้ฟังเพื่อเข้าใจ :ซึ่งตลอดการสนทนานั้นเราจะไม่ได้อะไร นอกจากความโกรธเกรี้ยวที่ไร้จุดจบ
จริงๆ แล้วการยอมรับว่าตัวเองผิดพลาดไม่ใช่เรื่องเสียหน้า ตรงกันข้าม นี่คือการแสดงความเคารพตัวเองที่ดีที่สุด เพื่อจะได้เรียนรู้และแก้ไขให้ดีขึ้น
อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นพิษกับคนรอบข้าง ลองปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ใจเย็นขึ้น รับฟังมากขึ้น ให้น้ำหนักกับเหตุผลมากขึ้น และมองเห็นคนอื่นมากขึ้น เพราะคนที่จะได้ประโยชน์ไม่ใช่ใคร นอกจากตัวของคุณเอง
อ้างอิง
Advertisements
