หรือจะต้องปิดประเทศกันอีกครั้ง? เมื่อ Omicron ส่อภัยคุกคามต่อการเปิดประเทศทั่วโลก

148
เปิดประเทศ

สำนักข่าว CNN รายงาน ถึงภัยคุกคามของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนว่า มีความเสี่ยงต่อแผนของการเปิดประเทศทั่วโลก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังมีข้อมูลที่ไม่แน่ชัดเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ดูเหมือนจะเป็นภัยคุกคามสูงสุดต่อแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกคาดการณ์ว่าจะต้องใช้เวลากว่า 2-4 สัปดาห์ โลกถึงจะได้รับรู้ข้อมูลที่แน่ชัดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่รัฐบาลของหลายประเทศเริ่มที่จะออกมาตรการปิดประเทศเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ตาม ยังมีบางประเทศที่ยังคงเปิดพรมแดนรับนักเดินทางจากต่างประเทศพร้อมกับการเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

Renu Singh ผู้เชี่ยวชาญจาก Hong Kong University of Science and Technology ระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ทางการในหลายประเทศอาจจะต้องปรับเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจของแนวทางการอยู่ร่วมกับโควิด-19 เนื่องจาก มีแนวโน้มที่โควิด-19 จะกลายเป็นโรคระบาดประจำถิ่นหรือ Endemic ดังนั้นแต่ละประเทศจึงอาจจะได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน อย่างเช่นประเทศความเสี่ยงสูง 8 ประเทศในทวีปแอฟริกา ที่เป็นแหล่งกำเนิดของ เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ในปัจจุบันหลายประเทศเริ่มปฏิเสธรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มดังกล่าว

Advertisements

สถานการณ์ในปัจจุบัน สำนักข่าว CNN รายงานเพิ่มเติมว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีท่าทีที่แตกต่างกัน อาทิ ประเทศญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศในทันที หลังจากที่มีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แม้ก่อนหน้านี้ทางการจะมีท่าทีในการเปิดประเทศมากขึ้น ขณะที่ประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักอย่าง ฟิลิปปินส์ ก็เลื่อนกำหนดการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสจากหลายประเทศออกไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค. 21

ขณะเดียวกันหลายประเทศยังคงเปิดประเทศรับนักเดินทางจากต่างประเทศ หากแต่ยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสูงสุด หรือที่สำนักข่าว CNN เรียกว่า Wait and See Approach อาทิเช่น สิงคโปร์ที่ Ong Ye Kung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เปรียบเสมือนกับการเล่นเกมของสิงคโปร์ ซึ่งหากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน มีความรุนแรงมากขึ้นก็ถือว่าอาจจะเป็นหายนะของสิงคโปร์เลยก็ว่าได้

สำหรับประเทศไทยเองก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ยังคงมาตรการเปิดประเทศรับนักเดินทางจากต่างประเทศเข้ามาโดย โดย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศยังคงได้รับความเสียหายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ดังนั้นในตอนนี้จะยังคงไม่มีมาตรการปิดประเทศแต่อย่างใด นอกเสียจากว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเข้าขั้นวิกฤต

Advertisements

Renu Singh ยังเปรียบเทียบสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนว่าเสมือนกับ “เมฆหมอกแห่งสงคราม” เนื่องจากยังมีความไม่แน่ชัดของข้อมูล ดังนั้นมาตรการควบคุมโรคต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจยังถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น ด้าน Jeremy Lim จาก National University of Singapore กล่าวอีกว่า คลื่นการเปิดประเทศจะยังคงอยู่ต่อไปในช่วงนี้ ดังนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้คือการเร่งการฉีดวัคซีนทั้งเข็มสามัญและเข็มกระตุ้นภูมิ เพื่อลดความเสี่ยงของประชากร และ ระบบสาธารณสุขของประเทศนั่นเอง ขณะที่การปิดประเทศก็จะยังไม่ใช่จุดจบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันอย่างแน่นอน

อ้างอิง
https://n.pr/3002Qy2
https://cnn.it/3y1nFWj
https://bit.ly/3Gk6dj0
https://bit.ly/31xybcc

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/news/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่