PSYCHOLOGYworklifeเมื่อการแหกกฎ ไม่ใช่การกบฎเสมอไปแต่คือ “การพัฒนา”เหตุผลที่องค์กรต้องมี “Rule Breaker”

เมื่อการแหกกฎ ไม่ใช่การกบฎเสมอไปแต่คือ “การพัฒนา”เหตุผลที่องค์กรต้องมี “Rule Breaker”

“นักแหกกฎ” ต้นแบบของ “โทนี่ สตาร์ก” ตัวละครที่ครองใจคนดู

เมื่อราวปี ค.ศ. 2000 คือตอนที่ทีมเขียนบท Iron Man กำลังระดมสมองเพื่อสร้างตัวละครโทนี่ สตาร์ก (Tony Stark) ขึ้นมา ตอนแรกพวกเขาวางไว้ว่าอยากได้ภาพลักษณ์ที่เหมือน ฮาวเวิร์ด ฮิวจ์ส (Howard Hughes) นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้มากความสามารถที่มีชีวิตในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แต่เพราะคิดว่าคนดูคงจะไม่รู้จักแน่ๆ จึงลองหานักธุรกิจคนอื่นที่ร่วมสมัยขึ้นมาอีกเพื่อมาเป็นต้นแบบให้กับตัวละครนี้

มาร์ก เฟอร์กัส (Mark Fergus) หนึ่งในทีมเขียนบท ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ชื่อของ “อีลอน มักส์ (Elon Musk)” โดดเข้ามาในวงสนทนาเหมือนกับเขาเป็นคนคว้าคบเพลิงต่อจากฮาวเวิร์ดได้อย่างพอดิบพอดี

อีลอน มักส์ คือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและเป็นผู้ทรงอิทธิพลในโลกปัจจุบัน เขาติดอันดับ 1 ของการเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกอยู่หลายครั้ง แต่เขาไม่เหมือนกับนักธุรกิจคนอื่นที่เราจะจดจำได้แค่ชื่อกับบริษัทแบบเลือนลาง ต้องยอมรับว่าอีลอนมีวิธีสร้างตัวตนของเขาในสังคมที่แตกต่างจากนักธุรกิจคนอื่นๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในแบบที่ไม่เหมือนใคร เช่นเดียวกับกับตัวละครโทนี่ สตาร์กนั่นก็คือการเป็น “นักแหกกฎ” นั่นเอง

“CEO ควรวางตัวดีและอยู่เงียบๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์กระทบกับบริษัท” แต่อีลอน มักส์เป็นนักธุรกิจสายเซเลบริตีที่ไม่กลัวการตกเป็นข่าว เราจะเห็นได้ว่าอีลอนใช้ทวิตเตอร์ราวกับเป็นสนามเด็กเล่นของเขาเอง ไม่ว่าจะทั้งเรื่องบริษัทหรือเรื่องส่วนตัวเขาก็ทวิตออกไปหมดแบบไม่แยกแอ็กเคานต์ แน่นอนว่าทำให้เกิดทั้งข่าวดีและข่าวที่ไม่ดี แต่การกล้าเป็นข่าวก็ทำให้ชื่อของอีลอนเป็นที่รู้จักและเป็นที่จดจำได้อย่างง่ายดาย

“เรื่องธุรกิจไม่ใช่เรื่องส่วนตัว” แต่อีลอน มักส์สร้างบริษัทของเขาโดยมีเป้าหมายของตัวเองรวมอยู่ในนั้นด้วยอย่างแยกกันไม่ได้ เหตุผลเพราะคนเก่งสามารถแทนที่กันเองได้ (ซึ่งเขาเคยถูกไล่ออกจากตำแหน่ง CEO ของบริษัท Paypal ตอนที่เขาเผลอมาแล้ว) แต่การผูกเป้าหมายของบริษัทไว้กับเป้าหมายของตนเอง ทำให้ไม่มีใครสามารถมาทำงานแทนที่เขาได้

“เป้าหมายควรชัดเจนและมีความเป็นไปได้” แต่อีลอนตั้งเป้าหมายของบริษัทไว้ว่า “จะต้องพามนุษยชาติไปเยือนดาวอังคารให้ได้” เป้าหมายที่ดูเป็นไปไม่ได้นี้กลับมีพลังพอที่จะทำให้เขาอยู่แนวหน้าในวงการธุรกิจเทคโนโลยีเลยทีเดียว

ถ้าการแหกกฎไม่ใช่ “การกบฏ” แต่เป็น “การคิดนอกกรอบ”

บุคลิกภาพแบบ “นักแหกกฎ” หรือ “Rule Breaker” คือคนที่มีอุปนิสัยไม่ชอบทำตามกฎเกณฑ์ ชื่นชอบอิสระ มีความยืดหยุ่นสูง และมักมีทักษะในการปรับตัวที่ดี แต่มีข้อเสียคืออาจจะร่วมงานด้วยยาก คนลักษณะนี้จึงอาจเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่หลายบริษัทจะไม่รับเข้าทำงาน เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าการทำงานเป็นทีมและการอยู่ร่วมกันในสังคมจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขอะไรบางอย่าง แต่อย่าพึ่งมองคนกลุ่มนี้ในแง่ไม่ดีนัก เพราะแท้จริงแล้ว คนกลุ่มนี้อาจเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงไปสู่ “การพัฒนา” ก็ได้!

เหตุผลที่องค์กรต้องมี “Rule Breaker”

[ ] เพราะพวกเขาไม่เคยหยุดตั้งคำถาม

Advertisements

คนเหล่านี้มักไม่ได้แหกกฎเพราะความสนุก แต่แหกกฎเพราะพวกเขาคิดว่ามันมีหนทางที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ หลายองค์กรอาจจะมีระเบียบหรือธรรมเนียมอะไรบางอย่างที่เน้นทำต่อกันมา แต่ไม่เน้นตั้งคำถามว่า “ทำไม” ส่งผลให้บางครั้งเกิดการติดขัดในการทำงาน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งประสิทธิผลในการทำงานและไม่ดีต่อตัวพนักงานเองเช่นกัน

[  ] เพราะพวกเขากล้าพูดในสิ่งที่เห็นต่าง

มีหลายครั้งที่ข้อสรุปหลังจากประชุมคือ “ความเงียบ” แม้ไม่มีเสียงคัดค้าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าที่ประชุมจะเห็นด้วยทั้งหมด บุคลิกภาพแบบนักแหกกฎจะกล้าท้าทายในสถานการณ์ที่คลุมเครือเช่นนี้ เพื่อหาข้อสรุปที่พวกเขารู้สึกไม่กังขา และนั่นอาจนำไปสู่ข้อสรุปใหม่ที่ดีกว่าเดิมก็ได้

[  ] เพราะพวกเขากล้าคิดนอกกรอบ

นักแหกกฎจะมาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์ และมีนิสัย “อยากรู้อยากเห็น” โดยธรรมชาติ พวกเขาจะมักจะค้นพบมุมมองใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคนอื่นเสมอ เพราะตัวเขาจะไม่ยอมอยู่แต่ในกรอบความคิดที่สังคมปลูกฝังมา แต่จะกล้าคิดนอกกรอบเพื่อหาหนทางใหม่ของตนเอง หากองค์กรสามารถบริหารจุดแข็งนี้ของนักแหกกฎได้ดี พวกเขาจะเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อการพัฒนาขององค์กรมาก  

Advertisements

ควรดูแลเหล่านักแหกกฎนี้อย่างไร เพื่อให้เป็นกำลังสำคัญมากกว่าเป็นโทษ?

ในองค์กรจะมีทั้ง “นักรักษากฎ” และ “นักแหกกฎ” รวมตัวอยู่ โดยขึ้นอยู่กับว่าวัฒนธรรมองค์กรนั้นมีลักษะไปในทิศทางไหน ระหว่าง “ความเข้มงวด” ตามกฎระเบียบของสังคม หรือเน้นไปที่ “ความยืดหยุ่น” ตามการเปลี่ยนแปลง แต่การกำหนดทิศทางองค์กรไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแบบสุดขั้ว อาจไม่ใช่คำตอบที่เหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน “การรักษาสมดุลของขั้วตรงกันข้าม” ทั้งสองนี้ต่างหาก คือกุญแจของการประสบความสำเร็จ

ถ้าอย่างนั้นผู้นำควรรับมือกับนักแหกกฎอย่างไร?

1. เตรียมคำอธิบายไว้ให้ดี

นักแหกกฎมักมาพร้อมกับคำถามว่า “ทำไม?” เสมอ เราควรเตรียมคำอธิบายที่สมเหตุสมผลและมีน้ำหนักมากพอ ไม่ใช่เหตุผลแบบ “เพราะนั่นคือกฎ” ซึ่งไม่มีแรงจูงใจชวนให้ทำตามสักเท่าไหร่ ในอีกมุมหนึ่ง การเตรียมคำอธิบายนี้คือการได้ทบทวนความเหมาะสมของกฎบางอย่างในองค์กรอีกด้วย

2. เป็นผู้นำที่ผู้ตามเข้าถึงได้

การเป็นผู้นำที่ปกครองคนด้วยความกลัว นับว่าเป็นการปิดกั้นความสามารถของคนในทีม แทนที่จะใช้วิธีการทำงานแบบบังคับหรือออกคำสั่งอย่างเดียว คนที่มีภาวะผู้นำที่ดีควรเน้นไปที่การสื่อสารกับคนในทีม แบ่งปันความเห็นและประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้ทีมคิดตามและประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองได้ นอกจากจะเป็นการเปิดรับมุมมองใหม่ๆ จากเหล่านักแหกกฎแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงานด้วย

3. ยอมรับความเสี่ยง

แน่นอนว่าการคิดนอกกรอบและการลองทำในสิ่งใหม่ๆ มักมาพร้อมกับความเสี่ยงของการล้มเหลว แต่สิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าการล้มเหลว คือ “ความกลัวที่จะเปลี่ยนแปลง” สิ่งที่สำคัญเมื่อประสบกับความล้มเหลว ไม่ใช่การจมอยู่ในความรู้สึกผิดหวัง แต่คือการเรียนรู้จากมันเพื่อนำไปปรับปรุงในอนาคต ผู้นำที่ดีจึงควรส่งเสริมทีมนักแหกกฎให้กล้าเสี่ยงอย่างรอบคอบ และกล้าคิดต่างอย่างไม่เกรงกลัวการล้มเหลว

ทุกบุคลิกภาพมีทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี การเป็นนักแหกกฎอาจสั่นคลอนความเชื่อหรือความสบายใจที่คนในสังคมยึดถือกันอยู่ บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าพวกเขาเป็นนักสร้างปัญหา แต่ในอีกแง่หนึ่งพวกเขาก็เป็นกลุ่มคนที่ขาดไม่ได้เลยในสังคม เพราะหากมนุษย์เราชินชากับสิ่งที่ทำตามกันมาโดยไม่มีการตั้งคำถาม เราจะเหมือนกับการหยุดยืนอยู่กับที่นานๆ โดยไม่เกิดการพัฒนา แทนที่จะคัดค้านหรือกีดกันคนกลุ่มนี้ เราน่าจะลองเปิดใจเพื่อเรียนรู้มุมมองที่แตกต่างจากเขาดูบ้าง เพราะการลองเดินไปสู่เส้นทางใหม่ๆ คือเคล็ดลับความสำเร็จของอารยธรรมมนุษยชาติ

ไม่แน่ว่ามนุษย์เรานอกจากจะสามารถฝากรอยเท้าไว้ที่ดวงจันทร์ได้แล้ว อาจจะได้ลองสร้างบ้านอยู่บนดาวอังคารอย่างที่อีลอน มักส์ฝันไว้ก็ได้


อ้างอิง
– 5 reasons you should hire those rulebreakers: Jackie Fast – https://bit.ly/42TjNVq
– How To Build A Team Of Rule-Breakers And Why You Should: John Hall – https://bit.ly/3XobbF5
– Iron Man Writer Says Elon Musk is Real-World Tony Stark Inspiration: Brady Langmann – https://bit.ly/42PRZkI
– The Richest Person on Earth Breaks Every Rule, And You Should Too: Liliana Pertenava – https://bit.ly/42XfAA7

#worklife
#rulebreaker
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า