PSYCHOLOGYworklifeจะมีความสุขและความสำเร็จ กับงานที่น่าเบื่อได้อย่างไร?

จะมีความสุขและความสำเร็จ กับงานที่น่าเบื่อได้อย่างไร?

ต้องยอมรับว่าในการขับเคลื่อนชีวิตของเราให้ไปในทางใดทางหนึ่งนั้น “งาน” เป็นปัจจัยหลักที่คอยคุมทิศทางของชีวิตของเรา หลายคนทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง หลายคนทำงานเพื่อไปสู่เป้าหมายสูงสุดของชีวิตและอีกหลายคนก็ทำงานเพื่อความสุข แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสุขกับงานที่ตัวเองทำ ได้ทำงานที่ชอบและประสบความสำเร็จกับงานได้อย่างที่ตั้งใจไว้

จากผลการศึกษาของ Ladder เว็บไซต์หางานจากสหรัฐอเมริกาที่สำรวจเรื่องความสุขในการทำงาน พบว่ามีพนักงานบริษัทกว่า 81% ที่รู้สึกเบื่อกับงานที่ทำ แต่ต้องแกล้งทำเป็นมีความสุขและที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ ไม่ว่าจะเป็นระดับพนักงานตัวเล็กๆ หรือระดับ Managers จะเป็นกลุ่มที่มีเงินเดือนน้อยหรือกลุ่มที่มีเงินเดือนสูงก็ตาม แต่ผลการศึกษานั้นพบว่าโดยเฉลี่ยกว่า 70% ของคนในแต่ละกลุ่มกำลัง “แกล้งทำเป็นมีความสุขในที่ทำงานทั้งหมด”

นั่นหมายความว่าแม้เราจะได้ทำงานที่มีเงินเดือนสูง อยู่ในตำแหน่งที่ดี เราก็มีโอกาสที่จะค้นพบว่าเราไม่มีความสุขและงานที่เราทำมีความน่าเบื่ออยู่นั่นเอง

คำว่า “งานที่น่าเบื่อ” จึงกลายมาเป็น Keyword ที่เราให้ความสำคัญในวันนี้และจะพาทุกคนไปค้นหาความสุขและความสำเร็จในงานแบบนั้นไปพร้อมกัน ซึ่งแม้ว่าคำว่า “งานที่น่าเบื่อ” จะไม่ได้มีคำจำกัดความที่ชัดเจน แต่ถ้าหากเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่างานที่เราทำนั้นไม่ใช่งานที่เรารักและกำลังรู้สึกเบื่อกับมันอยู่

สัญญาณที่บ่งบอกว่าเรากำลังรู้สึกเบื่องานที่ทำอยู่

จะแก้ปัญหาได้อย่างไร หากตอนนี้เราแยกไม่ออกว่ากำลังเบื่องานหรือ Burnout กันแน่? ความแตกต่างระหว่างอาการเบื่องานกับ Burnout นั้นค่อนข้างมีความคาบเกี่ยวกันจนทำให้หลายคนรู้สึกสับสนและแก้ปัญหาได้อย่างไม่ตรงจุด โดยอาการเบื่องานหรือ Boreout เป็นอาการที่มาจากความรู้สึกว่าเราไม่ได้ใช้ความสามารถในการทำงานอย่างเต็มที่ มองไม่เห็นประโยชน์ของงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน มีความรับผิดชอบน้อยเกินไป จนทำให้เกิดความเบื่อและไม่อยากทำงานในที่สุด โดยเราสามารถเช็กตัวเองว่ามีภาวะเบื่องานได้จากสัญญาณ 9 ข้อนี้

[ ] เริ่มดูเวลาอยู่ตลอดเวลา มีการดูนาฬิกาหรือโทรศัพท์ทุกๆ 5 นาที
[ ] มักจะทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดโดยไม่คำนึงถึงความสมบูรณ์ของงาน เพื่อที่จะได้ไปทำอย่างอื่น
[ ] ผัดวันประกันพรุ่งมากขึ้น รู้ว่าควรทำงานอะไรแต่ไม่มีอยากเริ่มต้นทำมัน
[ ] ว่อกแว่กง่าย เริ่มไม่มีสมาธิเวลาทำงานหรือประชุม
[ ] รู้สึกไม่มีความสุขที่จะต้องตื่นไปทำงานในตอนเช้า
[ ] ไม่ชอบวัฒนธรรมขององค์กร รู้สึกแปลกแยก
[ ] กลายเป็นคนที่ไม่พอใจในที่ทำงาน เริ่มบ่นเกี่ยวกับงานและเพื่อนร่วมงานบ่อยขึ้น
[ ] รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าในงานที่ทำอยู่ ไม่มีคนคอยกระตุ้นและถูกใช้งานน้อยจนเกินไป
[ ] ต้องการแรงจูงใจมากขึ้นในการเริ่มต้นวันใหม่ๆ รู้สึกว่าการทำงานเดิมที่เคยทำมาเป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลาทำใจก่อนที่จะทำงาน

เมื่อเราค้นพบตัวเองว่าเรารู้สึกเบื่อกับงานที่ทำแล้ว แน่นอนว่าหลายคนพยายามหาทางแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ ซึ่งการที่จะแก้ไขปัญหาแบบนี้ก็มีทั้งการ “ลาออกจากงาน” ไปทำงานที่เรารัก ทำงานที่เรามองเห็นอนาคตของตัวเอง แต่ถ้าหากการลาออกจากงานไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ เราจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง?

ไม่อยากลาออกต้องทำอย่างไร? วิธีสร้างความสุขและความสำเร็จจากงานที่น่าเบื่อ

1. เริ่มจากการสะท้อนตัวเองผ่าน Self-Reflection

เราจะไม่สามารถมีความสุขและค้นพบหนทางสู่ความสำเร็จได้เลย หากเรายังมีปมในใจที่ยังไม่ถูกแก้ ซึ่งหนทางในการแก้ปมนั้น เราต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่ทำให้เกิดปมนั้นคืออะไร และสามารถรู้ได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Self-Reflection

Self-Reflection หรือการสะท้อนตัวเองเป็นวิธีที่เราใช้เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น หลายคนรู้ว่าตัวเองมีความรู้สึกเบื่อแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเบื่อเพราะอะไร ซึ่งการทำ Self-Reflection ก็จะช่วยให้เราค่อยๆ ถอดความรู้สึกเบื่อนั้นออกมาเป็นชิ้นส่วนต้นเหตุได้

วิธีในการทำ Self-Reflection กับความรู้สึกเบื่อในงานนี้ เราสามารถเริ่มได้จากการตั้งคำถามว่า “ทำไมเราถึงรู้สึกเบื่อ” เราเบื่อเพราะงานขาดความท้าทายหรือได้ทำแต่งานเดิมๆ หรือเปล่า? หรือเราอาจจะรู้สึกว่าการมีอยู่ของเราในที่ทำงานนั้นไม่สำคัญ? ให้ลองจดบันทึกความรู้สึกของเราออกมาและใช้เวลาในการสะท้อนกับความคิดของตัวเอง

Advertisements

2. ตั้งเป้าหมายใหม่

งานที่น่าเบื่อมักมาพร้อมกับการทำงานไปวันๆ โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะด้วยรูปแบบของงานบางประเภทนั้นไม่ได้เอื้ออำนวยให้เราต้องมีเป้าหมายหรือไต่ขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่การที่จะสร้างความสุข ความตื่นเต้น ความอยากในการทำงานและนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตนั้น เราควรมีการตั้งเป้าหมาย ซึ่งอาจจะเป็นเป้าหมายที่เกี่ยวกับหน้าที่การงานหรือไม่ก็ได้ โดยการที่จะรู้ถึงเป้าหมายในชีวิตของเรา เราสามารถทำได้จากการนำสิ่งที่เขียนลงไปในกระดาษจากขั้นตอนการทำ Self-Reflection มาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อค้นหาว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ในชีวิตคืออะไร

3. หาที่ปรึกษาประจำตัว

แน่นอนว่าเราไม่ใช่คนแรกที่กำลังรู้สึกว่างานที่ทำน่าเบื่อ การใช้ประสบการณ์ของคนที่เคยอยู่ในจุดนี้จึงเป็นวิธีที่ช่วยให้เราเอาชนะความน่าเบื่อนั้นอย่างได้ผล ให้ลองค้นหาและทำความรู้จักกับคนที่ทำงานในสายงานเดียวกับเรา เข้าไปเล่าถึงปัญหาที่เรามีจากการทำ Self-Reflection และลองปรึกษาคนเหล่านี้ว่า “ถ้าเป็นเขาจะทำอย่างไร” การที่เรามีที่ปรึกษาประจำตัวจะช่วยให้เราทั้งได้สะท้อนตัวเองผ่านความคิดของคนอื่นและได้หาทางออกของปัญหาที่มีอยู่ด้วย

Advertisements

4. มองงานและชีวิตเป็นการเรียนรู้

คำว่า “เรียนรู้ตลอดชีวิต” อาจจะเป็น Buzzword ที่เราได้ยินบ่อยจนเอียน แต่เชื่อเถอะว่ายิ่งเราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งค้นพบความตื่นเต้นใหม่ในงานได้มากขึ้นเท่านั้น เมื่อเราทำ Self-Reflection อย่าลืมถามคำถามกับตัวเองว่าสิ่งที่เราทำได้คืออะไร และสิ่งที่เรายังไม่เคยทำแล้วอยากลองทำนั้นคืออะไร จากนั้นให้ลองเรียนรู้ในการทำสิ่งที่เราไม่เคยทำ เช่น ให้ลองเข้าร่วมการอบรมที่บริษัทจัดให้ ลองเข้ากลุ่มเพื่อนใหม่ในที่ทำงาน ลองรับงานยากที่เราไม่เคยทำมาก่อน นอกจากเราจะได้ขจัดความรู้สึกเบื่องานไปแล้ว เรายังได้พัฒนาทักษะใหม่ที่ทำให้เกิดความก้าวหน้าในชีวิตได้ด้วย

5. ระบายกับหัวหน้า

ถ้าการต่อสู้กับความน่าเบื่อในการทำงานเป็นเรื่องที่ยาก ให้ลองนำความรู้สึกที่เราสะท้อนมาในขั้นตอน Self-Reflection ไประบายกับหัวหน้า ซึ่งนอกจากการระบายแล้วเรายังสามารถขอคำปรึกษาและขอความช่วยเหลือได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเสนอตัวขอทำงานที่นอกเหนือจากงานที่อยู่ใน Job Description เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือจะเป็นการย้ายตำแหน่งไปทำในตำแหน่งใหม่ที่เราค้นพบแล้วว่าเรามีความสนใจและอยากเติบโตในสายงานนั้น

Self-Reflection กุญแจสำคัญสู่ความสุขและความสำเร็จ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านก็จะสามารถสังเกตได้ว่าสิ่งที่เป็นเหมือนกับกุญแจหลักที่ทำให้เรามีความสุขภายใต้งานที่น่าเบื่อและสามารถประสบความสำเร็จได้ก็คือการทำ “Self-Reflection” หรือการสะท้อนตัวเอง มองย้อนกลับไปว่าเรามีความรู้สึกอย่างไร ตัวตนของเราเป็นอย่างไร และเป้าหมายที่เราต้องการทำให้สำเร็จคืออะไร

การทำ Self-Reflection สามารถเริ่มได้จากการใช้เวลาว่าง 5-10 นาทีต่อวัน เพื่อทบทวนตัวเองผ่านการตั้งคำถาม โดยจะลองทบทวนเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปีก็ได้ และเมื่อเราสะท้อนตัวเองแล้วจนรู้ความหมายของชีวิตแล้ว ก็อยากจะให้ลองกลับมาทำ Self-Reflection อีกครั้งเพื่อให้เห็นแนวคิดและพัฒนาการที่เปลี่ยนไปของตัวเอง สำหรับใครที่อยากทำ Self-Reflection อย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ Mission To The Moon ก็มีตัวช่วยที่ทำให้คุณสามารถเห็นภาพตัวเองได้อย่างชัดเจนที่สุดอย่าง Mission To The Moon Balance Planner 2024

Mission To The Moon Balance Planner 2024 เป็นสมุดแพลนเนอร์ที่จะชวนคุณไปค้นหาและตั้งค่าความสมดุลในรูปแบบของตัวเอง เพื่อหาจุดยืนที่มั่นคงในชีวิต ก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ และสร้างคุณค่า หาความพิเศษภายใต้ความธรรมดาของชีวิต ผ่านทุกการจรดปากกาและการพลิกหน้ากระดาษ พร้อมกับฟังก์ชันพิเศษมากมายที่ทำให้เราสามารถทำ Self-Reflection ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น

[ ] Monthly Calendar ที่ทำให้เราได้จดบันทึก ตั้งเป้าหมาย หรือสิ่งสำคัญที่ต้องทำในแต่ละวันได้ พร้อมกับสามารถเขียน Monthly Focus ในสิ่งที่เราอยากทำเป็นพิเศษในเดือนนั้น หรือใส่ข้อความเตือนสติตัวเองใน Reminder ได้ด้วยเช่นกัน
[ ] Questions Before Setting Your Balance ชุดคำถามที่พาเราไปสำรวจและทำความเข้าใจความต้องการของตัวเองให้ชัดเจน
[ ] Balance Setting ที่ช่วยให้เราได้ตั้งค่าและวางแผนความสมดุลของชีวิตในอีก 6 เดือนข้างหน้า
[ ] Let’s Check Your Balance ที่ทำให้เราได้เช็กเป้าหมายและความสมดุลของชีวิตเมื่อเวลาผ่านไป ว่ามีอะไรที่ควรพัฒนาหรือแก้ไขบ้าง
[ ] New Chapter สำรวจการเดินทางของชีวิตในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์
[ ] Monthly Review ทบทวนตัวเองในแต่ละเดือนที่อะไรที่ควร “เลิกทำ” “เริ่มทำ” หรือ “ทำต่อไป”
[ ] End of The Year Reflection ชุดคำถามที่สรุปเส้นทางตลอดทั้งปีว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง
[ ] Daily Task จัดการกับความยุ่งเหยิงอันแสนน่าเบื่อในแต่ละวัน ให้สามารถจัดการได้และยังมีส่วนของ Self-Reflection เล็กๆ ประจำวันอีกด้วย

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเรามากกว่าตำแหน่งงานที่แสนน่าเบื่อก็คือ “ความคิดและความรู้สึกของเราเอง” ซึ่งเราอาจจะมีการละเลยสิ่งนี้ไปในชีวิตของการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมด จนทำให้ไม่สามารถแก้ปมที่ขัดขวางเราจากความสุขและความสำเร็จในชีวิตได้ ดังนั้นการสะท้อนตัวเองจึงเป็นทักษะที่สำคัญ ที่ทำให้เราได้หยุดพักสมองที่คิดแต่เรื่องงาน มาคิดเรื่องของตัวเอง ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและรู้ว่าตัวเองควรเดินต่อไปอย่างไร

สามารถสั่งซื้อสินค้าจาก Mission To The Moon ได้ที่
[ ] LINE Shopping : https://shop.line.me/@missiontothemoon 
[ ] Shopee : https://shope.ee/9eovnwIQUa 
[ ] Lazada : https://s.lazada.co.th/l.XyN0

อ้างอิง
– Faking Happiness at Work : The Ladders – https://bit.ly/46Ja862 
– 12 Tips for Being Happy at a Boring Job : Drew Hendricks, INC. – https://bit.ly/3QdNgWZ  
– Bored at Work: How to Motivate Yourself and Become Productive : Saphia Lanier, Hubspot – https://bit.ly/46KVfjx

#worklife
#selfreflection
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า