อยากได้สวัสดิการดีๆ ที่ไม่ใช่ทำงาน 5 วัน/อาทิตย์ หรือประกันสังคม (ที่ใช้เงินเราอีกที) แล้วจะมีสวัสดิการแบบไหนที่จะตอบโจทย์พนักงานในยุคนี้บ้าง?
ต้องยอมรับว่าเรื่องแรกๆ ที่สามารถจูงใจคนเก่งให้เข้ามาทำงานในบริษัทได้และสามารถจูงใจให้พนักงานทำงานกับบริษัทนั้นๆ ได้อย่างยาวนาน ย่อมเป็นเรื่องของ “สวัสดิการ” ที่บริษัทเสนอให้ ซึ่งประเด็นในช่วงที่ผ่านมาเรามักจะเห็นความคิดเห็นในโลกออนไลน์ที่แบ่งปันสวัสดิการของบริษัทตัวเอง ว่าเป็นสวัสดิการที่ค่อนข้างจะใช้ความเป็น “Bare minimum” หรือให้แค่เท่าที่จะให้พนักงานได้ตามกฎหมายเท่านั้น เช่น ประกันสังคม หรือบางที่ก็จะใช้วันทำงาน 5 วัน/อาทิตย์ มาเป็นสวัสดิการจนทำให้ผู้คนบนโลกออนไลน์เกิดความสับสนกับการให้สวัสดิการ ที่ดูเหมือนจะไม่ใช่สวัสดิการเท่าไหร่
ซึ่งสำหรับปี 2024 นี้ สวัสดิการกลายมาเป็นสิ่งที่ผู้สมัครงานรุ่นใหม่ใช้ประกอบการตัดสินใจมากกว่าลักษณะของเนื้องาน แหล่งที่ตั้งของบริษัท หรือแม้แต่เงินเดือนด้วย
อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คนทำงานทุก Gen รู้สึกพอใจกับบริษัทของตัวเอง
จากข้อมูลผลสำรวจของ Forbes Advisor ที่ทำการสำรวจคนทำงานชาวอเมริกันกว่า 1,000 คนก็พบความเหมือนและความแตกต่างของคนทำงานแต่ละ Generation ที่มีการให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างๆ ในที่ทำงาน ซึ่งทั้ง Baby Boomer, Gen X, Millenials และ Gen Z ให้ความสำคัญกับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับคนทำงานเป็นอันดับ 1, ใส่ใจเรื่อง Work-Life Balance และให้รางวัลกับคนเก่งในองค์กร
ส่วนความแตกต่างที่ทั้ง 4 Gen มองไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น Gen Z และ Gen X มองว่าการจ่ายเงินเดือนในอัตราที่มีความเท่าเทียมกัน ไม่แบ่งแยกผู้ชายหรือผู้หญิง เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับนายจ้าง ในขณะที่คนรุ่นมิลเลนเนียลมองว่าสถานที่ทำงานที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก (DEI) เป็นที่ทำงานที่น่าอยู่มากที่สุด ส่วน Baby Boomer มองว่าการให้ฟีดแบ็กกับทีมเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
แล้วสวัสดิการอะไรบ้าง ที่จูงใจให้คนทำงานอยากอยู่ในบริษัท?
จากข้อมูลผลสำรวจดังกล่าวก็แสดงอย่างชัดเจนว่าทั้ง Gen Z, Millenials, Gen X และ Baby Boomers ต่างให้ความสำคัญกับการทำงานที่ยืดหยุ่น การลาแบบ Paid Leave และการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรโดยได้รับค่าจ้างเป็นสวัสดิการที่ทำให้พวกเขาอยากทำงานกับบริษัทนั้นๆ
ในทางกลับกัน คนรุ่น Millenials มองว่าการที่บริษัทให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของพนักงาน เป็นสวัสดิการที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่นายจ้างควรมอบให้กับพนักงานของตัวเอง
ข้อมูลสวัสดิการ 3 อันดับแรกที่คนแต่ละ Gen ชื่นชอบมากที่สุดตามผลการสำรวจเป็นดังนี้
[ ] Gen Z – ความยืดหยุ่นในการทำงาน, ลาไปดูแลบุตร, ลาแบบ Paid Leave
[ ] Millenials – ความยืดหยุ่นในการทำงาน, ลาแบบ Paid Leave, การดูแลเรื่องสุขภาพจิต
[ ] Gen X – ความยืดหยุ่นในการทำงาน, ลาแบบ Paid Leave, ลาไปดูแลบุตร
[ ] Baby Boomers – ความยืดหยุ่นในการทำงาน, ลาแบบ Paid Leave, การให้ความสำคัญหรือให้รางวัลกับพนักงาน
จากข้อมูลของ Forbes Advisor เราจะเห็นได้ชัดว่าพนักงานไม่ได้มองเห็นความสำคัญของสวัสดิการในที่ทำงานในเชิงของเงินเดือนหรือโบนัสเท่านั้น แต่มองไปถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้พนักงานสามารถผสมผสานทั้งงานและการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว
ซึ่งในยุคที่คนทำงานมีความสำคัญกับบริษัทมากขึ้นและการให้สวัสดิการที่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการดึงดูดคนเก่งให้เข้ามาร่วมงานกับบริษัทแล้ว บริษัทก็ควรที่จะต้องไปทำการบ้านต่อว่าถ้าหากอยากให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง มีบุคลากรที่มีคุณภาพ พร้อมเดินหน้าต่ออย่างมั่นคง บริษัทก็ควรที่จะให้รางวัลที่เหมาะสมกับคนทำงาน ซึ่งข้อมูลที่เรานำมาวิเคราะห์นี้ก็เป็นแนวทางในการกำหนดทิศทางของสวัสดิการบริษัท เพื่อให้บริษัทของคุณสามารถตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกรุ่น
อ้างอิง
– Workplace Benefit Trends By Generation In 2024 : Belle Wong, J.D., Forbes Advisor – https://bit.ly/48Rih9g
#trend
#workplace
#benefits
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast