จะผิดไหม? ถ้าเรายังก้าวข้ามความสวยงามตาม Beauty Standard ไม่ได้
และยังอยากจะเป็นคนที่มีผิวขาว หน้าเล็ก จมูกโด่ง รูปร่างผอมอยู่
ในช่วงหลายปีมานี้ เราจะพบว่าสังคมกำลังเหนื่อยหน่ายกับความสวยงามตาม Beauty Standard หลายคนเบื่อที่จะต้องมาพัฒนาตัวเองให้เป็นในแบบที่คนอื่นชอบ และมองเห็นความสวยงามอันหลากหลายของทุกๆ คนบนโลกที่ไม่จำเป็นต้องสวยงามตามอุดมคติ ดังที่สื่อและสังคมกำลังพยายามชี้นำให้ทุกคนต้องเป็น ซึ่งถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่สามารถปลดปล่อยความกังวลในใจของคนที่ไม่ได้ตรงตามมาตรฐานความสวยงาม ให้กลับมามองเห็นคุณค่าของตัวเองได้
ขณะเดียวกัน ก็ยังคงมีอีกหลายคนที่ยอมรับว่าตัวเองนั้นยังอยากมีความสวยงามตามอุดมคติ ไม่อยากสวยในแบบดั้งเดิมที่ตัวเองเป็น แต่อยากดูแลตัวเองให้เป็นคนที่มีผิวขาว จมูกโด่งพุ่งแบบดาราเกาหลี อยากมีตาสองชั้น อยากลดน้ำหนักเพื่อให้มีรูปร่างผอม โดยวัตถุประสงค์ของคนกลุ่มนี้ก็มีแค่เหตุผลเดียวคือ “เป็นความชอบส่วนตัว”
แต่ปัญหาก็คือเมื่อสังคมกำลังรณรงค์ให้ทุกคนปลดเปลื้องตัวเองออกมาจาก Beauty Standard นั้นและหันมารักตัวเองในแบบที่ตัวเองเป็นจริงๆ ความชอบของคนกลุ่มนี้ที่ดันตรงตาม Beauty Standard ก็ทำให้รู้สึกขัดกับทิศทางที่สังคมกำลังจะไป แล้วสุดท้ายเราจะยังสามารถพูดได้อย่างเต็มปากได้หรือไม่ว่าเรายังคงชอบความสวยตาม Beauty Standard นี้อยู่ โดยที่ความชอบของเราจะไม่ไปทำร้ายคนอื่น
มันโอเคมาก ถ้าเรามีมาตรฐานความสวยในใจของตัวเอง
เป็นเรื่องปกติที่คนทุกคนต่างมีความชอบของตัวเอง มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ตัวเองอยากจะเป็น มีภาพจินตนาการของความสวย แม้ว่าความสวยแบบที่เราชอบจะถูกประกอบร่างมาจาก Beauty Standard ในสังคมที่เข้มข้นตั้งแต่เรายังเด็กก็ตาม
“แต่ความชอบก็คือความชอบ” เราไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนเพื่อฝืนใจตัวเองให้กลับไปอยู่ในจุดที่ไม่ชอบหรือเปลี่ยนแปลงแนวทางของตัวเองเพียงเพราะมีความรู้สึกผิดต่อสังคม เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่โอเคมาก หากเรามีความสุขกับความสวยงามตามแบบนั้น การที่เรามีความสุขกับการพัฒนาตัวเอง ได้เห็นตัวเองเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ไม่ต้องทนทรมานกับการเป็นคนที่ตัวเองไม่ได้อยากจะเป็นนั้นเป็นเรื่องที่โอเคมาก เพราะทุกคนมีสิทธิในร่างกายของตัวเองเสมอ
เพราะสุดท้ายแล้ว ความชื่นชอบของเราก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในความสวยงามที่แสนหลากหลายบนโลกใบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรือถูกต้องแบบตายตัว
แต่ที่สำคัญ มาตรฐานความสวยนั้นจะต้องไม่ทำร้ายเราและคนรอบตัว
ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่มีความชื่นชอบส่วนตัวแบบไหนก็ตาม ความชื่นชอบนั้นจะต้องไม่ทำร้ายตัวเรา เราต้องอยู่ภายในสิ่งนั้นอย่างมีความสุข ไม่กดดันตัวเอง ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น มองเห็นคุณค่าที่แท้จริงในตัวเองและทำความเข้าใจว่าความสวยงามก็เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่บงการชีวิตและการอยู่ร่วมกับสังคม
ที่สำคัญคือต้องหมั่นถามตัวเองให้แน่ใจว่า “เราชอบที่จะดูดีในแบบนั้นจริงๆ หรือแค่อยากได้การยอมรับจากคนอื่น” เพราะเราจะสามารถมีความสุขโดยที่ไม่ถูก Beauty Standard กลับมาทำร้ายตัวเองได้ก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ โดยไม่ต้องมีมุมมองของคนภายนอกมาเกี่ยวข้อง และถ้าหากว่าคำตอบนั้นยังมีคนอื่นมาเกี่ยวข้องอยู่ ก็ควรที่จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าเราจะยังมีความสุขจริงๆ ไหมหากมาตรฐานความสวยในอนาคตเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และไม่ใช่ความสวยงามที่เราต้องการจะเป็นในวันนี้
นอกจากนี้ เราต้องไม่ปล่อยให้ความสวยงามที่เราชื่นชอบนั้นออกมาทำร้ายคนรอบตัว และต้องไม่ส่งเสริมให้ทุกคนมองเห็นความสวยงามในแบบเดียวกับเรา ผ่านการตัดสินคนอื่น วิพากษ์วิจารณ์ หรือมองว่าคนอื่นไม่มีคุณค่า เพียงเพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในมาตรฐานความงามแบบที่เราอยากจะเป็น และควรพึงรู้เสมอว่าบนโลกนี้ยังมีความงดงามหลายล้านแบบที่รอให้เราค้นพบโดยปราศจากการตัดสิน
และแม้ว่าเราจะมีมาตรฐานความสวยที่เราต้องการจะเป็นมากเท่าไหร่ มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เราส่งต่อความขุ่นมัวในจิตใจผ่านการส่งเสริม Beauty Privilege หรืออภิสิทธิ์จากความงาม ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาหลักที่เกิดจาก Beauty Standard ในสังคม เพราะความจริงแล้วความสวยงามก็เป็นแค่หนึ่งมิติของมนุษย์เท่านั้น ไม่ควรที่จะใช้ความสวยงามมานำพาสังคมให้ไปในทิศทางที่ต้องการ และที่สำคัญ “ชีวิตเรายังมีมุมอื่นๆ อีกเยอะ” ถ้าเราพักใจจากมาตรฐานความงามในแบบต่างๆ แล้วลองมองภาพให้กว้างขึ้นจะพบว่าเรายังสามารถอยู่ร่วมในสังคมหรือแม้แต่มีความสุขได้โดยปราศจากการกังวลเรื่องของรูปลักษณ์ของตัวเอง
อ้างอิง
CMV: Wanting to be in the beauty standards is okay. : Reddit – https://bit.ly/42tXRRV
#trend
#BeautyStandard
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast