NEWSTrendsสายหารไม่ถูกใจ แต่ได้กำไรฉ่ำ! Netflix เผยตัวเลขความสำเร็จ หลังเผชิญกระแส Cancel

สายหารไม่ถูกใจ แต่ได้กำไรฉ่ำ! Netflix เผยตัวเลขความสำเร็จ หลังเผชิญกระแส Cancel

หลังจากที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งรายใหญ่ของโลกอย่าง Netflix ได้ออกมาตรการปราบปรามการแชร์รหัสให้กับสมาชิกนอกบ้านด้วยระบบ Paid Sharing โดยให้สมาชิกกำหนดจุดรับชมหลัก ซึ่งสมาชิกอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับจุดรับชมหลักจะสามารถใช้บริการได้ในราคาปกติ ส่วนสมาชิกที่ใช้บริการในพื้นที่อื่นก็ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มในฐานะ Extra Member

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Netflix เปิดตัวระบบ Paid Sharing ไปเมื่อต้นปี 2023 ที่ผ่านมาก็ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยแสดงความไม่พอใจผ่านโซเชียลมีเดีย บ้างก็รู้สึกว่าสูญเสียผลประโยชน์ บ้างก็มองว่านี่เป็นทุนนิยมแบบหนึ่งที่บีบให้ลูกค้าต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น แต่คุณภาพและความพึงพอใจกลับไม่ได้เพิ่มจากเดิมมากเท่าไร

กระแสจากผู้บริโภครุนแรงถึงขั้นจะพากันยกเลิกบัญชีผู้ใช้ของ Netflix และทำให้ยอดสมาชิกของสหรัฐฯ ลดลงอย่างน่าตกใจในช่วงกลางปี 2023 จนผู้คนต่างก็มองว่านี่อาจจะเป็นจุดตกต่ำที่สุดและทำให้สตรีมมิ่งรายใหญ่เจ้าอื่นก้าวขึ้นมาแซงหน้าผู้นำด้านสตรีมมิ่งของโลกแทน Netflix หรือไม่

แต่จากรายงานตัวเลขไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาก็ทำให้รู้ว่าระบบ Paid Sharing ไม่อาจนับว่าเป็นจุดตกต่ำเสียทีเดียว ในทางกลับกันยังทำให้ Netflix เติบโตมากขึ้นอีกด้วย

Netflix ทำรายได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 ทะลุ 0.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

รายงานตัวเลขล่าสุดจาก Netflix ได้เปิดเผยรายได้ของไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้สูงถึง 1 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 3.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าการคาดการณ์ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาถึง 2% และนับเป็นการเติบโตที่น่าพอใจมาก หลังจากเริ่มใช้ระบบ Paid Sharing ไปแล้วในบางประเทศ

ยิ่งไปกว่านั้น Netflix ยังได้ยอดสมาชิกใหม่ (Paid Net Addition) เพิ่มขึ้น 13.1 ล้านบัญชีผู้ใช้อีกด้วย นับว่าเป็นสามารถเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 ที่เพิ่มยอดสมาชิกใหม่ได้ 7.7 ล้านบัญชีผู้ใช้

“ปี 2023 เป็นปีที่ท้าทายของ Netflix เพราะการเติบโตของแพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับฐานของบัญชีผู้ใช้เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เราเปิดใช้ระบบ Paid Sharing ไปเมื่อต้นปี (2023)” ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ที่สเปนเซอร์ นูแมนน์ (Spencer Neumann) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Netflix เคยให้ไว้ใน YouTube ของ Netflix

ถึงแม้ว่าในช่วงแรกจะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ไม่พอใจกับระบบ Paid Sharing แต่จากตัวเลขสถิติก็ทำให้เห็นได้ว่า Netflix สามารถประสบความสำเร็จได้ในสถานการณ์ที่ตลาดสตรีมมิ่งเต็มไปด้วยความท้าทายเช่นนี้

Advertisements

เหตุผลที่ทำให้คนยัง ‘ซื้อ’ Netflix

อย่างที่รู้กันดีว่าการเปิดตัวระบบ Paid Sharing ในช่วงแรกจะสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้บริโภคจำนวนมาก จนกลายเป็นกระแสยกเลิกการใช้บริการและส่งผลให้จำนวนผู้ใช้งานในพื้นที่สหรัฐฯ ลดลง แต่สิ่งที่เป็นปัญหานั้นกลับกลายเป็นตัวช่วยชีวิต Netflix เสียเอง โดยถ้ายึดตามแพ็กเกจค่าบริการของ Netflix สหรัฐฯ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

[ ] สมาชิกพื้นฐานที่มีโฆษณาต้องจ่ายค่าบริการ 6.99 ดอลลาร์ฯ ต่อเดือน

[ ] สมาชิกพื้นฐานที่ไม่มีโฆษณา และเพิ่ม Extra Member ได้ 1 บัญชี
โดยสมาชิกที่อยู่ในจุดรับชมหลักต้องจ่ายค่าบริการ 15.49 ดอลลาร์ฯ ต่อเดือน ในขณะที่ Extra Member ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่ม 7.99 ดอลลาร์ต่อเดือน

[ ] สมาชิกพรีเมียมที่ไม่มีโฆษณา และเพิ่ม Extra Member ได้ 2 บัญชี
โดยสมาชิกที่อยู่ในจุดรับชมหลักต้องจ่ายค่าบริการ 22.99 ดอลลาร์ฯ ต่อเดือน ในขณะที่ Extra Member ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มบัญชีละ 7.99 ดอลลาร์ต่อเดือน

เมื่อดูจากแพ็กเกจก็จะเห็นได้ว่าตอนนี้การเติบโตของ Netflix มาจาก 2 จุดหลักๆ ด้วยกัน โดยจุดแรกคือ ‘รายได้’ จากพื้นที่โฆษณา และจุดที่สองคือยอดสมาชิกใหม่ (Paid Net Addition) ที่ได้จาก Paid Sharing ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันการแชร์บัญชีและรหัสผ่านของผู้บริโภคนั่นเอง

ต้องยอมรับว่าแม้ระบบ Paid Sharing จะถูกมองว่าเป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคจนเกิดเป็นการโต้เถียงในโลกออนไลน์ แต่มาตรการดังกล่าวก็สร้างรายได้และเพิ่มยอดสมาชิกใหม่ให้กับ Netflix ได้จริงๆ เหตุการณ์นี้ยิ่งแสดงให้เห็นว่าในเวลานี้ตลาดสตรีมมิ่งยังไม่มีคู่แข่งรายไหนที่แข็งแกร่งพอจะเอาชนะ Netflix ได้

นอกจากนี้ความบันเทิงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นละคร ซีรีส์ต่างประเทศ หรือเกม รวมถึงคุณภาพความคมชัดของวิดีโอและเสียงที่ Netflix ได้ส่งต่อให้กับผู้บริโภคนั้นก็ยังทำให้คนจำนวนมากยอมจ่ายเพื่อผ่อนคลายในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของพวกเขา

ความเปลี่ยนแปลงและความผันผวนที่เกิดขึ้นในโลกเป็นสิ่งที่องค์กร ธุรกิจ หรือผู้บริโภคเองต่างก็ต้องเผชิญด้วยกันทั้งนั้น ความอยู่รอดขององค์กรและธุรกิจจึงขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถปรับตัวได้ไว และตอบสนองต่อความต้องการใหม่ของผู้บริโภคได้ก่อนกัน

อ้างอิง
– Netflix’s Risky Move Pays Off With Surge in Subscriptions : Anna Gordon, Time – https://bit.ly/3UksQxT

#trend
#netflix
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast

Advertisements
Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า