ถ้าต้องเลือกปรับปรุงนิสัยหนึ่งอย่างของตัวเอง เราอยากจะปรับปรุงนิสัยอะไรก่อน?
เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีนิสัยอยู่หลายนิสัยที่อยากจะแก้ไขหรือเรียนรู้ใหม่ เพื่อพัฒนาตัวเองให้มีชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น โดยบางคนอาจจะอยากแก้นิสัยกินดึก บางคนอาจจะอยากแก้นิสัยคิดมาก บางคนอยากจะเรียนรู้นิสัยของการออกกำลังกายเป็นประจำ แต่เชื่อได้เลยว่าคนส่วนใหญ่แล้วล้วนมีมากกว่า 1 นิสัย ที่อยากเรียนรู้และอยากจะแก้ไขภายในตัวเอง
แต่สิ่งหนึ่งที่คนเรามักทำพลาดเวลาอยากจะปรับปรุงนิสัยเสีย หรือพัฒนาตัวเองนั้นก็คือ การพยายามเปลี่ยนแปลงทุกนิสัยหลายๆ อย่างพร้อมกันเกินไปและรวดเร็วเกินไป ยกตัวอย่างเช่น เราพยายามที่จะออกไปวิ่งออกกำลังกายทุกเช้า เลิกกินขนมขบเคี้ยว กินสลัดทุกเย็น พร้อมๆ กับอ่านหนังสือให้ได้วันละเล่ม นั้นก็อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากเกินไปภายในเวลาชั่วข้ามคืนจนเรารับไม่ไหว
และเมื่อเรารับไม่ไหว นิสัยต่างๆ ที่เราหมายมั่นปั้นมือว่าจะพยายามสร้างและแก้ไขก็พังทลายลงไป จนสุดท้ายเราก็กลับไปใช้ชีวิตตามอำเภอใจเหมือนอย่างเก่า
แต่แทนที่เราจะพยายามแก้ไขหรือสร้างนิสัยใหม่หลายนิสัยพร้อมกัน ลองสร้างนิสัยใหม่เพียงแค่นิสัยเดียว ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น “นิสัยพื้นฐาน” ที่สามารถทำให้เราพัฒนา ปรับปรุง หรือแก้ไขนิสัยต่างๆ ของเราได้อีกมากมาย โดยนิสัยพื้นฐานดังกล่าวนี้นั้นถูกเรียกว่า “Keystone Habits”
พื้นฐานที่สำคัญ อยู่ที่ “หินก้อนแรก”
คำว่า Keystone แต่ดั้งเดิมมีความหมายว่าถึง ก้อนหินก้อนหนึ่งที่ตั้งอยู่หินที่อยู่ข้างบนสุดของประตูทางโค้ง (arc) โดยหินก้อนบนสุดนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนลิ่มที่คอยยึดหินก้อนอื่นๆ เอาไว้จนประกอบกลายมาเป็นประตูทางโค้งที่แน่นหนา แข็งแกร่ง และไม่พังลงมาง่ายๆ โดยถ้าเปรียบกับ Keystone Habits แล้วละก็มันก็คือ “นิสัยพื้นฐาน” ของเราที่เป็นตัวยึดเหนี่ยวและเป็นพื้นฐานของนิสัยอื่นๆ ที่จะตามมาภายหลังของเราเอาไว้ด้วยกันจนประกอบออกมาเป็น “ตัวเรา” ในทุกวันนี้
Keystone Habits ก็คือนิสัยที่เป็นตัวนำไปสู่นิสัยอื่นๆ ที่บางครั้งดูเหมือนจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่นิสัยนั้นมันกลับสร้างอิทธิพลบางอย่างหรือมีปฏิกิริยาลูกโซ่ที่จะนำพานิสัยเพิ่มเติมอีกมากมายก่ายกองเข้ามาในชีวิตเราโดยไม่จำกัดว่าจะนิสัยเหล่านั้น จะเป็นนิสัยที่ดีหรือไม่ดีกันแน่
โดย Charles Duhigg ผู้เขียนหนังสือยอดนิยมมีชื่อว่า “The Power of Habit” ได้กล่าวถึง Keystone Habits เอาไว้ว่า Keystone Habits นั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับนิสัยที่ดีอื่นๆ ตัวอย่างเช่น การออกกำลังกายเป็นประจำมักจะควบคู่ไปกับนิสัยการกินที่ดีขึ้น ครอบครัวที่มีนิสัยชอบทานอาหารร่วมกันมักจะมีลูกที่มีผลการเรียนที่ดีและความมั่นใจมากขึ้น
เพราะฉะนั้น เมื่อเราอยากจะสร้างทำการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงอะไรสักอย่างในชีวิต การมี Keystone Habits หรือ นิสัยพื้นฐาน คือสิ่งที่สำคัญที่จะเป็นตัววางรากฐานของ “หินก้อนแรก” ให้ดีและมั่นคง เพื่อที่ว่า “หินก้อนต่อๆ ไป” นั้นได้รับการจะถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบและแข็งแรงเช่นกัน
นิสัยพื้นฐานง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของ Keystone Habits ที่ดีก็คือ ต้องมีความ “ง่าย” และ “ไม่กดดัน” จนกลายเป็นภาระของคนที่อยากจะฝึกฝนนิสัยพื้นฐานเหล่านั้น แต่ก็ยังแสดงออกถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิตอยู่ ถึงแม้นิสัยพื้นฐานบางอย่างอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันคือการวางรากฐานที่สำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นในภายหลัง
เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการเริ่มต้นง่ายๆ ทุกคนสามารถลองฝึก Keystone Habits ง่ายๆ เหล่านี้ เพื่อเป็นการเริ่มต้นพัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้ดังนี้
1. หมั่นกินข้าวกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
เพราะการกินข้าวนั้นจะเป็นการแอบบังคับให้ทุกคนต้องคุยกัน ถามไถ่ถึงวันของกันและกัน รวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ซึ่งเพียงแค่การกินข้าวนี้ก็จะส่งผลให้ครอบครัวรู้สึกสนิทกันมากขึ้น ลูกๆ กล้าพูดกล้าแสดงออก พ่อแม่ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกของลูกๆ แถมนอกจากนี้ เหมือนตามที่ Duhigg เขียนเอาไว้ในหนังสือของเขาว่า ครอบครัวที่กินข้าวเย็นด้วยกันเป็นนิสัย ดูเหมือนจะเลี้ยงดูเด็กๆ ให้มีทักษะการทำการบ้านที่ดีขึ้น เกรดที่ดีขึ้น การควบคุมอารมณ์ที่ดีขึ้น และความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย
2. หมั่นจัดเตียงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ข้อนี้อาจจะแทงใจใครหลายๆ คนที่ไม่ชอบจัดเตียงจัดที่นอนของตัวเอง แต่ว่าการจัดเตียงนอนให้เป็นระเบียบนั้นสามารถนำพามาซึ่งสิ่งดีๆ มากมาย โดย Psychology Today เคยตีพิมพ์บทความเอาไว้ว่า การจัดระเบียบเตียงของนั้นมีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มี Profuctivity เพิ่มขึ้น และมีทักษะด้านงบประมาณที่ดีขึ้น แถมยังมีแนวโน้มที่จะชอบงานของตัวเอง รวมถึงออกกำลังกายเป็นประจำอีกด้วย
3. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายนั้นเป็นนิสัยคลาสสิกที่ง่ายมากที่จะคิดถึง แต่แสนยากที่จะทำให้สำเร็จ ที่การออกกำลังกายเป็นนิสัยคลาสสิกนั้นไม่ใช่เพราะมันเป็นเทรนด์ หรือเป็นที่นิยมโดยคนหมู่มาก แต่เพราะว่ามันมีประโยชน์จริงๆ โดยนอกจากการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก หรือมีร่างกายที่แข็งแรงนั้น Association for Applied Sport Psychology ยังบอกอีกว่าการออกกำลังกายทำให้คนเรามีอารมณ์ที่ดีขึ้น มีความเครียดน้อยลง มีความมั่นใจมากขึ้น และการนอนหลับที่ดีขึ้นอีกด้วย
ท้ายที่สุดนี้ หนึ่งในสิ่งสำคัญของ Keystone Habits ก็คือเราต้องชอบและอยากที่จะทำมันด้วย มันไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเกิดว่าเราพยายามฝืนใจทำสิ่งที่เราจะไม่มีความสุขกับมัน ซึ่งถ้าหากเราเลือก Keystone Habits ได้สักหนึ่งอย่างแล้ว ก็ลองลงมือทำมันดู ทำมันไปเรื่อยๆ หมั่นทำเป็นประจำแล้วลองสังเกตดูว่าชีวิตของเรามีความเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน
และถ้าหากคุณอยากเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อกลายเป็นผู้นำที่ดีขึ้นในโลกที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่อนาคตแล้วละก็
พบกับคอร์ส Improving Leadership Skills for the Future สอนโดย อาณัติ จ่างตระกูล และ โสภิตา ศิริรัตน์ วิทยากรจาก Dale Carnegie Thailand ในโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว “ทักษะความเป็นผู้นำ” และ “การสร้างความเชื่อมั่น” จึงยิ่งสำคัญกว่าที่เคยเป็นมา ร่วมเรียนรู้ไปกับ อาณัติ จ่างตระกูล และ โสภิตา ศิริรัตน์ วิทยากรจาก Dale Carnegie Thailand
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สนี้: https://bit.ly/3PXsdFd
ซื้อบัตรได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2565
ราคา : 3,500 บาท
สั่งซื้อได้ที่ Line Shop: https://bit.ly/3JBPz0S
อ้างอิง
https://bit.ly/3QFaxic
https://bit.ly/3T7LB4z
https://bit.ly/3AfKqax
https://bit.ly/3Ae7RkD
https://bit.ly/3T8oYNh
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#keystonehabits