แน่นอนว่าถ้าเราเอ่ยชื่อของ “Steve Jobs” (สตีฟ จอบส์) หลายคนคงเห็นภาพชายผู้เป็นพ่อมดแห่งวงการ IT (Information Technology) ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานระดับที่เปลี่ยนวิถีชีวิตและประสบการณ์ของผู้ใช้ออกไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPod, iPad, เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และแนวคิดด้านเทคโนโลยีต่างๆ อีกมากมายที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา
แต่รู้หรือไม่ว่าในอดีตผู้คนมองว่าหลายสิ่งที่สตีฟ จอบส์ ได้พูดไว้ในอดีต นั้นดู ‘เพ้อฝัน’ และ ‘เกิดขึ้นยาก’ ในชีวิตจริง
แต่ไม่กี่สิบปีต่อมา ในศตวรรษที่ 21 หลายคนเริ่มเห็นแล้วว่าสิ่งที่สตีฟ จอบส์ ได้พูดไว้นั้นใกล้กับความเป็นจริง ราวกับเขาทำนายอนาคตได้
วันนี้เราจะพามาดูกันว่า 10 คำทำนายที่ Steve Jobs เคยพูดเอาไว้เกี่ยวกับโลก
1. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจะถูกใช้เพื่อความบันเทิงภายในบ้าน
ในสมัยแรกของคอมพิวเตอร์ ถูกใช้เพื่อทำงานอยู่ในสำนักงานเป็นหลัก ด้วยขนาดของเครื่องที่ใหญ่พอๆ กับห้อง หรือตู้เย็นหนึ่งเครื่อง และมีราคาสูงมาก จนต่อมา มีการลดขนาดให้เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) หรือ PC ที่ช่วยให้สามารถทุกคนสามารถมีคอมพิวเตอร์ไว้ทำงานจากที่บ้านได้
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจึงกลายมาเป็นอุปกรณ์สำหรับทำงานที่บ้าน แต่ในปัจจุบันเราไม่เพียงแต่ใช้เพื่อทำงานเพียงอย่างเดียว แต่เรายังใช้เพื่อเป็นสื่อบันเทิงอื่นๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่เล่นเกมเองก็ตาม ซึ่งตอนนี้ได้วิวัฒนาการไปอีกขั้นหนึ่ง กลายมาเป็น Smartphone ที่คนนิยมกันในปัจจุบัน
2. เราทุกคนจะเชื่อมถึงกันผ่านคอมพิวเตอร์
สตีฟ จอบส์ เคยพูดไว้ว่า “ในอนาคตเราจะเชื่อมถึงกันผ่านคอมพิวเตอร์” ถึงแม้ตอนนั้นตัวเขาเองจะยังไม่ได้มีไอเดียเกี่ยวกับสิ่งนี้มากนัก แต่เขาก็เชื่อว่ามันจะต้องเกิดขึ้นแต่ๆ
และหลังจากการให้สัมภาษณ์ของสตีฟ จอบส์ เพียงแค่ 4 ปี ชายชื่อ ทิม เบอร์เนอร์ ลี (Tim Berners-Lee) ได้ให้กับกำเนิดสิ่งที่เรียกว่า www. หรือ World Wide Web ที่ทำให้ทั้งโลกเชื่อมถึงกันผ่านอินเทอร์เน็ต
3. การโทรศัพท์จะใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต
ทุกวันนี้ใครโทรหาเพื่อน หรือ ครอบครัว ด้วยการกดเบอร์โทรศัพท์อยู่บ้าง? ก็มีบ้างแต่น้อยใช่ไหม? เพราะตอนนี้เราแทบจะสื่อสารกันผ่านทางอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ทั้ง Line, Instagram, Facebook Messenger ฯลฯ ที่ไม่เสียค่าโทร แถมยังสะดวกและมีฟังก์ชันให้เลือกใช้หลากหลาย
และสิ่งที่ทำให้ สตีฟ จอบส์ คิดว่าสิ่งนี้น่าจะเกิดขึ้น คือ สมัยก่อน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นใช้งานผ่านสายโทรศัพท์เป็นหลัก (ในยุคก่อน ถ้ามีคนโทรเข้าโทรศัพท์บ้าน อินเทอร์เน็ตของเราจะใช้งานไม่ได้) นั่นจึงทำให้สตีฟ จอบส์ เห็นว่าวันหนึ่งเราจะใช้งานโทรศัพท์กับอินเทอร์เน็ตควบคู่กันไป
4. เมาส์จะกลายเป็นอุปกรณ์หลักของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์สมัยก่อนถูกพัฒนาขึ้นมาในรูปลักษณ์เหมือนพิมพ์ดีด ทำให้อุปกรณ์หลักในยุคแรกมีเพียงแค่ตัวคอมพิวเตอร์ กับตัวคีย์บอร์ดที่เอาไว้พิมพ์คำสั่งเพียงเท่านั้น สตีฟ จอบส์ เป็นคนแรกๆ ที่เริ่มนำเมาส์มาใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์
แถมยังบอกว่า อนาคตสิ่งนี้จะทำให้เราใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเพียงแค่สิบปีต่อมา เมาส์ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบันไป
5. เราไม่จำเป็นต้องพกข้อมูลติดตัว
ปี 1996 สตีฟ จอบส์ เคยพูดไว้ว่าการเก็บข้อมูลไว้บนคอมพิวเตอร์นั้นกินพื้นที่ และมีความเสี่ยงที่จะถูกลบ การจัดเก็บข้อมูลเลยเป็นอุปสรรคสำคัญในการใช้งาน สตีฟ จอบส์ จึงหาวิธีเก็บไฟล์ข้อมูลไว้ในที่ต่างๆ เช่นอีเมล ซึ่งต่อมาจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ระบบเก็บข้อมูลผ่าน Cloud อย่างเช่น iCloud หรือ Google drive ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
6. คอมพิวเตอร์จะเล็กเหมือนหนังสือ
ในช่วงยุคปี 1983 สตีฟ จอบส์รู้สึกว่าคอมพิวเตอร์มันทั้งใหญ่เทอะทะ แถมมีน้ำหนักมาก จะพกพาไปไหนก็ไม่สะดวก เขาเลยมีไอเดียอยากให้คอมพิวเตอร์เล็กและน้ำหนักเบา เหมือนหนังสือที่พกพาไปไหนด้วยได้ และแน่นอน สิ่งที่ตามมาหลังจากสุดยอดไอเดียในครั้งนั้นก็คือ Tablet และ Smartphone ของทาง Apple
7.เราจะมีผู้ช่วยบนคอมพิวเตอร์
สตีฟ จอบส์ มีความคิดอยากให้คอมพิวเตอร์ใช้งานง่ายและสะดวกที่สุด เนื่องจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในยุคแรกนั้นค่อนข้างซับซ้อน เขาเลยเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า อยากให้มีตัวแทนที่คอยโต้ตอบ หรือรับคำสั่งของเราได้ เป็นผู้ช่วยในการใช้งานคอมพิวเตอร์ จนเกิดเป็นไอเดียที่นำ AI มาใส่ไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น Siri, Google assistant, และ Alexa
8. หน้าร้านค้าจะถูกลืม ผู้คนจะไปซื้อของบนอินเทอร์เน็ตแทน
สตีฟ จอบส์ มีความคิดที่ว่า อยากพัฒนาอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ร้านค้าเล็กๆ สามารถเข้าถึงคนหมู่มากได้ ต่อมาไม่นานก็เกิดคำว่า e-Commerce ขึ้นมา
หากเราหันกลับไปมองกล่องพัสดุไปรษณีย์ที่วางอยู่ข้างๆ เราคงได้คำตอบแล้วว่าสิ่งที่ สตีฟ จอบส์ พูดเอาไว้นั้น ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว
9. อีเมลจะไม่ได้เป็นเพียงแค่จดหมาย
เมื่ออีเมลถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1996 สตีฟ จอบส์ได้ให้ความเห็นไว้ว่า ในอนาคต อีเมลจะไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ในปัจจุบัน เราใช้อีเมลในการยืนยันตัวตน สมัครแอ็กเคานต์รับฟังข่าวสารหรือโปรโมชั่นต่างๆ และอีกมากมาย
10. คอมพิวเตอร์จะเข้าถึงได้แม้ในมือเด็ก 10 ขวบ
ในอดีตคอมพิวเตอร์มีราคาที่สูงมาก และถูกนำมาใช้สำหรับทำงานเป็นหลัก แต่สตีฟ จอบส์ มองเห็นว่าในอนาคต เทคโนโลยีจะเปิดกว้างมากขึ้น ราคาคอมพิวเตอร์จะถูกลง ใช้งานง่ายขึ้น รวมถึงจะถูกใช้เพื่อเป็นสื่อให้ความบันเทิง จนแทบจะกลายเป็นของใช้ประจำครัวเรือน
ข้อนี้ สตีฟ จอบส์ อาจจะมองผิดพลาดไปเล็กน้อย เพราะในปัจจุบัน เด็กอายุ ‘น้อยกว่า’ 10 ขวบก็มีทักษะการใช้งานคอมพิวเตอร์ Tablet และ Smartphone ได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว
มีรายงานพบว่า เด็กชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะมี Smartphone เครื่องแรกเป็นของตัวเองตอนช่วงอายุเฉลี่ยที่ 10.3 ปี
ไม่น่าเชื่อเลยว่า 10 ข้อที่สตีฟ จอบส์ เคยพูดไว้จะตรงกับความเป็นจริงหลายข้ออย่างชัดเจน แม้แต่บางข้อเองก็มีส่วนใกล้เคียงเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่หลายคนจะเรียกเขาว่า “พ่อมดแห่งวงการ IT” ไม่ใช่เพียงเพราะเขาทำนายราวกับมองเห็นอนาคตได้ แต่มาจากวิสัยทัศน์และความเชื่อมั่นตั้งแต่แรกว่า สิ่งประดิษฐ์และการคิดค้นจากยุคของเขา จะเป็นรากฐานการพัฒนาสู่คนยุคต่อไปและเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนทั้งโลกได้
“The best way to predict the future is to invent it.” (วิธีทำนายอนาคตที่ดีที่สุดก็คือ ประดิษฐ์มันขึ้นมา) – สตีฟ จอบส์
แปลและเรียบเรียงจาก:
https://bit.ly/3MuD73s
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#society
