Mission To The Moon X CMU Lifelong Education
รู้สึกกันไหมว่าวันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เรายังแทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปอีกวัน อีกเดือน อีกปีแล้ว… และไม่ใช่เพียงแค่เวลาที่ผ่านไปรวดเร็วเท่านั้น แต่ทว่า ‘โลกก็หมุนไว’ อย่างน่าตกใจเช่นกัน
อย่างที่ทราบกันว่าโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ความรู้หรือทักษะที่พามาถึงจุดนี้ได้ อาจไม่มีความสามารถพอที่จะส่งให้เราไปต่อได้อีกในอนาคต เพราะการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดทักษะและความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ หากเรายังนิ่งเฉย ไม่เสริมสร้างความรู้ที่มีอยู่หรือไม่เรียนรู้ทักษะที่ไม่เคยมีมาก่อน อาจทำให้ชีวิตและการทำงานในอนาคตติดขัดได้
เมื่อโลกไม่เคยหยุดหมุน แล้วเราจะหยุดเรียนรู้ได้อย่างไร
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ โควิด-19 โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างมาก และนำมาซึ่งนวัตกรรม ทักษะ และความรู้ในหลายสาขา ที่ล้วนมีความสำคัญและจำเป็นต่อชีวิตและการทำงานในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่ง
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ‘Metaverse’ หรือ ‘โลกเสมือนจริง’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่ง ‘Metaverse’ คงเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของหลายๆ คนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะในตอนนี้หลายบริษัททั้งเล็กและใหญ่ต่างก็เริ่มขยับตัวเพื่อก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้แล้วด้วย ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนกลยุทธ์ การตลาด หรือเทคโนโลยี VR ที่เป็นกุญแจสำคัญในการท่องโลกเสมือน
นอกจากนี้ การเงินก็เป็นอีกเรื่องที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน จากการที่สกุลเงินดิจิทัลเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อาจส่งผลต่อแนวโน้มการเงินในอนาคตอย่างแน่นอน และยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายเรื่องที่น่าจับตามอง เพราะเป็น ‘เรื่องใหม่’ ที่ต้องอาศัยทักษะและความรู้ใหม่ๆ ที่เราต่างไม่คุ้นเคยหรือมีความรู้พื้นฐานมาก่อน ไหนจะทักษะเดิมที่เริ่มจะหมดอายุเข้าไปทุกที ดังนั้น ‘การเรียนรู้ตลอดชีวิต’ หรือ ‘Lifelong Education’ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการ Reskill – Upskill เพื่อการใช้ชีวิตและการทำงานในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้
Lifelong Education เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดแค่ในห้องเรียน
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก ‘Lifelong Education’ หรือ ‘การเรียนรู้ตลอดชีวิต’ กันมาบ้างแล้ว เพราะมีการพูดถึงมานานพอสมควร โดย Lifelong Education เป็นการศึกษาอีกรูปแบบที่เน้นผู้เรียนเป็นหลัก เพื่อให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะต่างๆ ให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไม่จำกัดเพียงในห้องเรียน ใบปริญญา ไม่จำกัดเพศหรืออายุ
เรียกว่าเป็นการเรียนที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้ผู้เรียนสามารถค้นหาทักษะหรือความรู้ด้านไหนที่ยังขาดหรือควรพัฒนาเพิ่มเติม โดยเป็นการเรียนที่ให้ความสำคัญทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ควบคู่ไปด้วยกัน เพราะทั้งสองทักษะต่างมีความสำคัญต่อชีวิตและการทำงานไม่แพ้กัน
แล้วเราควรเริ่มต้นอย่างไรดี?
1. เปิดใจ
เมื่อพูดถึงการเรียนทีไร เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะเบือนหน้าหนี เพราะอาจมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไร รู้สึกเบื่อและไม่สนุกกับการเรียนที่ผ่านมา จนอาจเกิดคำถามที่ว่า ‘เรียนจบแล้วทำไมยังต้องเรียนอีก’ แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว การเรียนไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเป็นนักเรียนนักศึกษาในห้องเรียนเท่านั้น เพราะการเรียนมีหลายรูปแบบ สามารถเลือกได้ตามความชอบของตัวเอง และเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต เพราะไม่มีคำว่า ‘แก่เกินเรียน’
2. เข้าใจ
เชื่อว่าหลายคนต่างมุ่งเน้นไปที่ Hard Skills โดยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ Soft Skills เท่าที่ควร เพราะอาจคิดว่าไม่ค่อยสำคัญ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดอย่างมาก เพราะในชีวิตจริงจะพบว่า ทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ต่างก็มีความสำคัญต่อการทำงานพอๆ กัน
จะเป็นอย่างไร? หากเรามีความรู้ในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี แต่กลับไม่มีทักษะการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร หรือการบริหารจัดการต่างๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและเพื่อนร่วมทีมได้ สุดท้ายเป้าหมายต่างๆ ที่ตั้งไว้อาจจะไม่สำเร็จและไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ นอกจากนี้ การเข้าใจว่าตัวเองขาดทักษะความรู้ด้านไหนหรือสามารถพัฒนาต่อยอดเพิ่มได้อย่างไรบ้างก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เรียนรู้และพัฒนาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
3. เปลี่ยนความคิด
หากเรายังมีความเชื่อที่ว่า ความฉลาดหรือความสามารถเป็นของตายตัวที่ไม่สามารถพัฒนาต่อได้ หรือ ‘Fixed Mindset’ อาจทำให้ยากที่จะเกิดการเรียนรู้และพัฒนาต่อไปได้ ดังนั้น เราควรปรับมุมมองใหม่ เชื่อมั่นในตัวเองและคิดแบบ ‘Growth Mindset’ กับความคิดที่ว่า ‘ความสามารถ’ นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ตลอดเวลา ผ่านความพยายาม การเรียนรู้ และความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ว่าต้นทุนจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่เราก็สามารถประสบความสำเร็จและเป็นเราในเวอร์ชันที่เราคาดหวังได้
โดยปัจจุบัน คอร์สเสริมทักษะความรู้สามารถเข้าถึงง่ายกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก และยังมีตัวเลือกที่ครอบคลุมหลายสาขาวิชาให้เลือกมากมาย อีกทั้ง ราคาย่อมเยา และหลายๆ คอร์สยังเปิดให้เรียนฟรีอีกด้วย ซึ่งตอนนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทุกคนที่สนใจอยากเพิ่มทักษะและความรู้ให้พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น…
‘คนที่ยังไม่เข้ามหาวิทยาลัยแต่อยากปูพื้นฐาน ทดลองผ่านการเรียนจริง หรือสะสมหน่วยกิตไว้ก่อนก็ทำได้’
‘คนที่เรียนปริญญาตรีอยู่ แต่สนใจอยากลองเรียนวิชาของคณะอื่น หรือเรียนวิชาของ ปริญญาโทก็ทำได้’
‘คนที่ทำงานอยู่ แต่อยากได้ความรู้ในระดับสูงขึ้นและความยืดหยุ่นเวลาได้ในการเรียนและการทำงาน ก็สามารถเรียนเก็บความรู้และหน่วยกิตวิชาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกไปเรื่อยๆ เมื่อพร้อมแล้วค่อยมาสมัครเรียนเป็นนักศึกษาภายหลัง พร้อมโอนหน่วยกิตที่เรียนแล้วเข้าระบบไม่ต้องกลับมาเรียนซ้ำ’
‘หรือทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดก็ตามอยาก Reskill – Upskill ให้กับตัวเองก็ทำได้เช่นกัน’
รู้จัก ‘CMU Lifelong Education’
เพราะตอนนี้ ‘มหาวิทยาลัยเชียงใหม่’ ที่ส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัยนอกระบบโรงเรียน ได้จัดตั้ง ‘วิทยาลัยการศึกษาตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่’ หรือ ‘CMU School of Lifelong Education: CMU-LE’ ขึ้น เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วยการ Reskill – Upskill กับหลักสูตรที่จะพัฒนาทักษะของผู้เรียนไปได้เรื่อยๆ โดยไม่มีขีดจำกัด ให้ความสำคัญกับ Hard Skills และ Soft Skills ควบคู่ไปด้วยกัน ซึ่งมีหลักสูตรให้เลือกมากมาย ดังนี้
1. Short Course
หลักสูตรอบรมระยะสั้นที่ให้ผู้เรียนได้เลือกเรียนตามความสนใจ โดยในบางหลักสูตรมีการออกใบรับรองสมรรถนะหรือสะสมหน่วยกิต (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละหลักสูตร) สำหรับหลักสูตรนี้มีหลากหลายสาขาวิชาให้เลือกเรียนตั้งแต่ระดับ Basic ไปจนถึง Advance ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ ศิลปะ ดนตรี เศรษฐศาสตร์ ภาษา การลงทุน หรือทักษะความรู้ที่เป็นประโยชน์
2. Skills4life
หลักสูตรนี้จัดทำขึ้นเพื่อตอบโจทย์การทำงานในองค์กรโดยเฉพาะ เนื่องจากการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราอาจคุ้นเคยกับการเรียน Hard Skills มาโดยตลอด แต่ในชีวิตจริงจะพบว่า Soft Skills ก็สำคัญไม่แพ้กัน และเป็นทักษะสำคัญที่ชั้นเรียนปกติไม่ได้สอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสื่อสาร การจัดการงานต่างๆ การจัดการอารมณ์ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ การปรับตัว หรือการทำความเข้าใจความคิดที่มีอคติ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทักษะสำคัญที่สุดของการทำงานในองค์กร คือ ‘Soft Skills’
3. เรียนร่วม หรือ Advanced@CMU
การเรียนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนที่เป็นบุคคลภายนอก ทุกเพศทุกวัย เข้ามาเรียนในคลาสเดียวกับนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีฐานะเป็น ‘ผู้เรียน’ สามารถเลือกหลักสูตรได้ตามความสนใจ ซึ่งหลักสูตรจะมีตั้งแต่การเรียนภาษาที่สามไปจนถึงหลักสูตรระดับปริญญาโทและปริญญาเอก นอกจากนี้ ยังมีธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อการเรียนในระดับปริญญาที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคตได้ ซึ่งสามารถโอนหน่วยกิตได้เมื่อเรามีสถานะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4. เกษียณมีดี
โรงเรียนผู้สูงอายุคดิจิทัล (MEDEE Digital School) การเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ ด้วยหลักสูตรที่เน้นพัฒนาทักษะดิจิทัลที่สำคัญต่อชีวิตและอาชีพในยุคนี้สำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เช่น การใช้สื่อออนไลน์ การถ่ายภาพ การใช้สมาร์ทโฟน รวมไปถึงด้านการตลาดออนไลน์ที่เน้นครอบคลุมทุกทักษะแต่ก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ
การเรียนรู้ตลอดชีวิตกับ ‘CMU Lifelong Education’ ผู้เรียนสามารถเรียนจากที่ไหนก็ได้ ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดอายุ และในบางหลักสูตรผู้เรียนสามารถรับใบประกาศนียบัตร ใบรับรองสมรรถนะ หรือสะสมหน่วยกิตเพื่อต่อยอดสู่การเรียนในระดับปริญญาต่อไปในอนาคตได้ด้วย
สำหรับใครที่สนใจเรียนรู้และพัฒนาทักษะกับ ‘วิทยาลัยการศึกษาตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่’ เพื่อสร้างโอกาสให้ชีวิตและอาชีพ ผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Education) ที่ตอบโจทย์ยุคสมัยและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://bit.ly/3Fifxmt
‘การศึกษาไม่ได้จำกัดแค่การเป็นนักศึกษา
เพราะทุกคนคือผู้เรียน CMU Lifelong’
