9 เกม Metaverse และ โปรเจกต์ NFT เตรียมเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

3651
9 เกม Metaverse

หากพูดถึงโลกดิจิทัลเราจะนึกถึงอะไรกัน? 

เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงภาพคนสวมใส่แว่น VR แล้วกำลังท่องโลก Metaverse กันอยู่ 

แต่สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง “NFT” และ “เกม Metaverse” ก็คงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หนีไม่พ้นเมื่อพูดถึงโลกดิจิทัล ที่ตอนนี้เราก็ได้เห็นว่ามีคนให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากและเป็นที่พูดถึงอยู่เรื่อยๆ บนโซเชียลมีเดีย

Advertisements

และด้วยกระแสของเทคโนโลยีสุดล้ำที่ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายคนเฝ้ารอคอยการมาถึงของ “อนาคตวงการเกมและโลกดิจิทัล” ที่จะมีความเต็มรูปแบบและสมบูรณ์มากขึ้น

ซึ่งถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมเกมและ Metaverse จะยังไม่ถูกผสานกันอย่างเต็มรูปแบบ จากแนวโน้มในปีที่ผ่านมาจาก Statista อุตสาหกรรมเกมมีมูลค่าตลาดเติบโตสูงถึง 138.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งก็ทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าเมื่อเกิดการผสานกันอย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น อุตสาหกรรมเกมก็อาจจะมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต

ในส่วนของ NFT หลังจากที่มีกระแสต่างๆ มาสักพัก เราก็เริ่มที่จะเห็นโปรเจกต์และเกมใหม่ๆ ผุดขึ้นมาอยู่ตลอด รวมถึงแบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มที่จะเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นด้วย

และเพื่อให้เราไม่พลาดความเปลี่ยนแปลงบนโลกดิจิทัลและวงการเกม วันนี้เราเลยจะพามาดู 9 เกมและโปรเจกต์ที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse และ NFT กัน!

9 เกม Metaverse

1. Too Rich City Series

โปรเจกต์ขายบ้านหรูเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล

เชื่อว่าใครหลายคนคงใฝ่ฝันอยากจะมีบ้านสักหนึ่งหลังบนโลกดิจิทัล.. โปรเจกต์ Toorich City Series อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณ!

“Bu Tu Garden Community” คอมมูนิตี้ฉบับย่อมที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ใหญ่อย่าง Toorich City Series ได้มีการเปิดขายบ้าน Villa ในรูปแบบ Single-Family สุดหรูหรา จำนวน 10 หลัง ให้ผู้ซื้อได้จับจองเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ในรูปแบบ NFT ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ ผู้ซื้อยังสามารถนำมาขายต่อเหมือนการซื้อบ้านในโลกจริงได้เลย

ความน่าสนใจของโปรเจกต์ Toorich City Series นี้ คือการที่มันได้ถูกสร้างขึ้นโดย Huang Heshan ศิลปินชาวจีนรุ่นเยาว์ และยังเป็นงาน NFT คอลเล็กชันพิเศษ ที่ได้ถูกนำไปประมูลบน Paras แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะอีกด้วย

9 เกม Metaverse

2. Reality Chain

เกมผจญภัยแบบ Multi-Chain Metaverse

Reality Chain เป็นเกม Multi-Chain Metaverse ที่ถูกเตรียมปล่อยบน Octopus Network (เครือข่ายสำหรับการรัน Blockchain) ภายใต้ NEAR Protocol ซึ่งภายในเกมนี้ ผู้เล่นสามารถที่จะเล่นเกม พร้อมกับทำกิจกรรมต่างๆ ไปด้วยกัน อย่างเช่น พูดคุยกับเพื่อนในเกม และมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในเกม

ผู้เล่นสามารถผจญภัยบนโลก Reality Chain ผ่านตัวละครที่สร้างขึ้น และมีปฏิสัมพันธ์กับเซตไอเทม NFT อย่าง เฟอร์นิเจอร์ ผนัง พื้น และทรัพย์สินต่างๆ ในเกม ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้ก็สามารถนำไปขายต่อได้อีกด้วย และในส่วนของการแชต ผู้เล่นยังสามารถใช้ข้อความเสียงหรือพิมพ์แชตได้สมจริงจนเหมือนเรามานั่งคุยแบบเจอหน้ากันเลยทีเดียว 

และถ้าหากใครอยากที่จะทำแบรนด์ของตัวเองบน Metaverse เกม Reality Chain ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถใช้เหรียญ $REAL Native Token ในการสร้างแบรนด์ของตัวเองบน Metaverse ได้เช่นกัน 

ซึ่งในตอนนี้ความคืบหน้าล่าสุดของ Reality Chain คือ เพิ่งเสร็จสิ้นการสร้างระบบ Metaverse Engine และได้ติดตั้งระบบ DAO (Decentralized Autonomous Organization) ซึ่งเป็นระบบระดมทุนที่อยู่บนเครือข่าย Ethereum เพื่อให้ผู้ถือเหรียญ $REAL Token สามารถโหวตแสดงความคิดเห็นในโปรเจกต์นี้ 

Adam Ardisasmita, CEO ของ Reality Chain ได้กล่าวไว้ว่า “พวกเราพูดได้อย่างภูมิใจเลยว่า Reality Chain คือเกมที่จะยกระดับการใช้สินทรัพย์ NFT เพื่อดึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมแบบ Blockchain ได้แบบสูงสุด และเราสร้างโปรเจกต์นี้ หวังให้คนมองเกม NFT ใหม่ รวมถึงสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับระบบออนไลน์ Metaverse บน Blockchain”

9 เกม Metaverse

3. OP Games

แพลตฟอร์มขายเกมระบบ Blockchain

OP Games คือแพลตฟอร์มเกมมิ่ง ที่ถูกสร้างบนระบบ NEAR ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมบนเว็บไซต์ HTML5 และเข้าการแข่งขันเพื่อชิงรางวัลต่างๆ ได้ ด้วยการผสมผสาน NFT และระบบ DAO เข้าด้วยกัน

โดยแพลตฟอร์มนี้จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้ซื้อ เป็นเจ้าของ แลกเปลี่ยนทรัพย์สินต่างๆ ในเกมให้เหนือชั้นกว่า Web 2.0 ที่มีข้อจำกัดต่างๆ ค่อนข้างมาก ซึ่ง OP Games ก็ได้ตั้งความหวังให้ตัวเองนั้นเป็น Web 3.0 เกมมิ่งฮับ ที่ผู้เล่น เจ้าของเกม และนักพัฒนา สามารถที่จะร่วมมือกันสร้างคอมมูนิตี้นี้ให้ดีที่สุดและได้ประโยชน์มากที่สุดกับทุกๆ คน

ในปัจจุบัน แพลตฟอร์มยังขาดความร่วมมือจากผู้เล่น ซึ่งทาง OP Games เองก็กำลังปรับปรุงปัญหานี้ โดยแบ่งเกมบนแพลตฟอร์มนี้ออกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ในรูปแบบ NFT ซึ่งหมายความว่า “ผู้เล่นจะถือชิ้นส่วน = ร่วมกันถือหุ้นเกมนี้ไว้”

หากเกมประสบความสำเร็จ การร่วมกันถือหุ้นเกมนี้จะช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป และระบบ DAO ใน OP Games ก็จะสามารถทำให้เกมเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น โดยเจ้าของเกม (ผู้เล่น) ในคอมมูนิตี้จะยังสามารถควบคุมผลโหวตที่ใช้ตัดสินใจทำตามคำขอเพื่อขับเคลื่อนผลประโยชน์และไอเทม NFT ต่างๆ ในเกมได้อีกด้วย

Chase Freo ซึ่งเป็น CEO และ Co-founder ของ OP Games ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในตอนนี้ไว้ว่า “ตอนนี้ ผู้พัฒนาสามารถหาเงินทุนจาก NFTs และ DAO ได้ต่อเนื่องขึ้น และในเวลาเดียวกัน ถ้าผู้เล่นในระบบ DAO อยากให้ผู้พัฒนาเกมเพิ่มระดับเลเวล หรือแก้ไขส่วนต่างๆ ภายในเกม พวกเขาสามารถพูดกับผู้พัฒนาเกมได้โดยตรงเลย แล้ว DAO จะเป็นคนจ่ายเงินให้ผู้พัฒนาผ่านคลังเงินในเกมเอง เพราะตอนนี้เกมไม่ใช่แค่ของผู้พัฒนาคนเดียว แต่เป็นของทุกคนต่างหาก”

และด้วยการสนับสนุนจาก NEAR Protocol, Filecoin/Protocol Labs และผู้ช่วยพัฒนาอย่าง Gabby Dizon (ผู้ร่วมก่อตั้ง Yield Guild Games) ทำให้ OP Games วางแผนที่จะพัฒนาและสร้างเกมมากกว่า 500 เกมบนระบบ NEAR Blockchain ให้ได้ก่อนหมดปี 2022 ซึ่งถือได้ว่าเป็นก้าวอันยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมเกม Blockchain อย่างมากเลยทีเดียว

ซึ่งเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โปรเจกต์นี้ได้รับเงินทุนมากถึง 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยเป้าหมายที่จะพาผู้เล่นเข้าสู่เกมต่างๆ บนโลก Web 3.0 โดยต้นตอความสำเร็จในการหาเงินทุนมหาศาลครั้งนี้เป็นผลมาจากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมอันโชกโชนของ Chase Freo (CEO) และ Paul Gadi (CTO) ที่ได้ก่อตั้ง OP Games ขึ้นมาในปี 2018

9 เกม Metaverse

4. Hash Rush / Vorto Network

เกมวางแผนแบบเรียลไทม์ (RTS) / ตลาดออนไลน์สำหรับเทรดไอเทมและ NFT

Vorto Network คือ ตลาดออนไลน์ที่ให้ผู้เล่นสามารถเก็บไอเทมในเกมและสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ใน Wallet ที่สามารถจะนำไปใช้ซื้อและขายผ่านเกมต่างๆ

และในส่วนของ Hash Rush เป็นเกมวางแผนแบบเรียลไทม์ (Real-Time Strategy : RTS) ผ่านระบบ Blockchain บน Vorto Network โดยเกมนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสัมผัสการผจญภัยบนกาแล็กซี Hermeian โดยเราจะต้องสร้างสิ่งต่างๆ เรียนรู้สภาพแวดล้อมและแลกเปลี่ยนสินค้า เพื่อที่จะให้ตัวละครสามารถพัฒนาต่อไปได้ 

เกมนี้ได้ยกระดับรูปแบบการเล่นเกมแบบ Play-To-Earn ซึ่งเป็นการเล่นในรูปแบบที่ยิ่งผู้เล่นเข้าร่วมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้ส่วนแบ่งมากขึ้นเท่านั้น เป็นการกระตุ้นเพื่อให้ผู้ใช้งานอยากที่จะเข้ามามีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์ในเกมมากขึ้น เพื่อที่จะหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจสินค้าดิจิทัลให้ไปต่อได้ และให้เกิดเกมที่มีมิติและมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางทีมผู้พัฒนาก็ได้วางแผนที่จะปล่อยเกมออกสู่สาธารณะในช่วงต้นปี 2022 นี้แล้ว

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Vorto Gaming ได้ลงเงินทุนกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้ในการลงทุนและพัฒนาระบบ Ecosystem ของเกมให้เติบโตขึ้น มากไปกว่านั้น บริษัทยังได้แปลงสินทรัพย์เป็นเงินผ่าน NFT มากกว่า 9,000 ชิ้น และสามารถเก็บเงินได้ถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้ในการพัฒนาเกม Hash Rush

Advertisements

ซึ่งในตอนนี้ Hash Rush มีผู้ติดตามบน Twitter และ Telegram มากกว่า 7,000 คน และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

9 เกม Metaverse

5. Paras

ตลาดออนไลน์สำหรับประมูลศิลปะ NFT

Paras คือ ตลาด NFT ที่สร้างขึ้นบนระบบ NEAR โดยเน้นการซื้อ-ขายไอเทมสุดยูนีคที่สามารถซื้อมาเป็นของสะสมได้ ตลาดนี้ให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนการ์ด NFT ผ่านการซื้อ-ขายได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ใช้งานสามารถนำสินค้า NFT ไปฝากขาย และติดตามสินค้าใหม่ที่เพิ่งปล่อยผ่าน Stories ในนั้นได้ 

ล่าสุด ทีมงาน Paras ได้ปล่อย Boom Boom! ซึ่งเป็นซีรีส์คอมิคดิจิทัลแบบแรกบนแพลตฟอร์ม NEAR และยังปล่อย PARADIGM ที่เป็นคอมิคแรกที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยทำให้ประสบการณ์การอ่านสนุกยิ่งขึ้น

ในขณะนี้ Paras ได้เงินมากกว่า 144,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมาจากการซื้อขายมากกว่า 30,000 ครั้งใน 30 วัน และมีผู้ใช้มากกว่าพันคนซื้อคอลเล็กชันไอเทมที่ไม่ซ้ำใครบนแพลตฟอร์มนี้ 

Rahmat “Riqi” Albariqi ผู้ก่อตั้งของ Paras ได้กล่าวว่า “เราได้เริ่มต้นโปรเจกต์นี้และประสบความสำเร็จจากการผลิตฟีเจอร์ต่างๆ บนตลาด NFT ของพวกเราให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งตอนนี้เป้าหมายของเราคือ ทำให้ Paras มีสภาพแวดล้อมที่มีมิติ สร้างสรรค์ และเหมาะสมเป็นแหล่งให้แรงบันดาลใจแก่ผู้สร้างและนักลงทุน NFT จากทั่วทุกมุมโลก”

9 เกม Metaverse

6. Mintbase

แพลตฟอร์มเปลี่ยนสินทรัพย์สู่ NFT

Mintbase เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ และ NFT Utility Engine ที่ให้ผู้ใช้สามารถแปลงสินทรัพย์ของตนเป็น NFTs และนำมาขายในรูปแบบตั๋ว เพลง และศิลปะ ไปจนถึงสร้างตลาดของตัวเอง และยังสามารถที่จะนำ VR มาเพิ่มประสบการณ์ขณะที่เรากำลังแปลงสินทรัพย์ให้เป็น NFT ได้อีกด้วย

แพลตฟอร์มนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเปิดการประมูลสินค้า NFT เปิดร้านค้าขายของของตัวเอง และมีระบบรางวัลที่ให้ค่าตอบแทนจำนวนมากแก่ผู้ใช้งาน

โดย Mintbase ได้บรรลุเป้าหมายที่พวกเขาวางไว้ได้อย่างสวยงามในช่วงเวลาที่ผ่านมา เช่น มีผู้ทำสัญญาขาย NFT ถึง 544 ครั้ง เพิ่มร้านค้าแบบเปิดชื่อ “Openbase” และปรับปรุงฟังก์ชันต่างๆ บนเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายขึ้น ทำให้โปรเจกต์นี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ติดตามที่มีมากกว่า 30,000 คนบนโลกโซเชียลมีเดียกันเลยทีเดียว

9 เกม Metaverse

7. Satori

ตลาดและแพลตฟอร์มที่รวมศิลปะสู่ผู้ชมโดยตรง

Satori คือ ตลาดและแพลตฟอร์มใหม่ที่รวบรวม NFT จากศิลปินและนักดนตรีที่มีชื่อเสียง โดยจุดมุ่งหมายของโปรเจกต์นี้คือ การสร้างยุค “Creative Renaissance” สำหรับงานศิลปะ โดยโครงการนี้ได้นำรูปแบบธุรกิจ ที่จะช่วยให้ศิลปินและผู้สร้างสามารถแสดงผลงานให้ผู้ชมได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงธุรกิจได้โดยตรง

โดยทาง Satori มีนโยบายหลักที่ยึดมั่นคือ จะสร้าง “ระบบเศรษฐกิจที่รับใช้ผู้สร้างศิลปะและแฟนคลับอย่างแท้จริง”

ปัจจุบัน ข้อมูลต่างๆ ของโปรเจกต์นี้ยังคงเก็บเป็นความลับอยู่ และมีแผนจะปล่อยตัวเต็มในเดือนมกราคม ปี 2022 ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2022 Satori วางแผนจะให้ผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคนได้แปลงสินทรัพย์มากกว่า 5 ล้านชิ้นเข้าสู่ NFT

Peter DePaolo ซึ่งเป็น CEO และ Co-founder ของ Satori ได้กล่าวว่า “เป้าหมายของ Satori คือ เป็นแหล่งมอบแรงบันดาลใจ และผลักดันศิลปินและผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก สร้างสรรค์ผลงาน NFT โดยเราหวังให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนงานศิลปะเป็นเงินได้ง่ายขึ้น และสามารถกระจายงานสู่ลูกค้าของพวกเขาได้โดยตรงผ่านตลาดของเรา รวมไปถึงให้ผู้ใช้ได้แสดงพรสวรรค์ที่ผสานไปด้วยรสนิยมหรูหราสู่คนใน Community”

9 เกม Metaverse

8. Metaverse AI

โปรเจกต์ Metaverse แบบเปิด

Metaverse AI คือระบบ Open Metaverse ที่กำลังพัฒนาบน Web 3.0 ซึ่งมีแอปพลิเคชันต่างๆ ประกอบไปด้วยระบบสร้างมนุษย์ดิจิทัล (Digital Human Engine), โลกโซเชียลบนเมตาเวิร์ส (Social Metaverse) และเซเลบแบบดิจิทัล (Virtual Celebrity)

โปรเจกต์นี้จะให้ผู้ใช้สร้างตัวตน (Avatar) ของตัวเองแบบ 3D ผ่านระบบ Blockchain-Based DiD (Decentralization Identifier) ทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บตัวละครและทรัพย์สินอันมีค่าในระบบ Metaverse ได้

และอีกฝั่งที่น่าสนใจเลยคือ Virtual Celebrity หรือเซเลบดิจิทัล ที่สามารถนำมาใช้งานเพื่อสร้างประโยชน์ในทางการค้าได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การขายสินค้าทั่วไป สินค้าระดับ Luxury ไปจนถึงการทำโฆษณา 

โดยโปรเจกต์นี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก Kleiner Perkins (บริษัทร่วมทุนสัญชาติอเมริกัน), Animoca Brands (บริษัทซอฟต์แวร์เกมในฮ่องกง), Draper Dragon (บริษัทร่วมทุนข้ามพรมแดนระหว่าง Silicon Valley และเอเชีย), Delta Blockchain Fund และอื่นๆ

9 เกม Metaverse

9. NEAR Lands

เกมผจญภัย 2D แบบ Decentralized Blockchain-Based 

NEAR Lands เป็นเกม Decentralized Blockchain-Based แบบ 2D ที่สามารถรองรับผู้เล่นได้หลายคน

โดยภายในเกมนี้ ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครและไอเทมของตัวเอง พูดคุยกับเพื่อน และสำรวจสิ่งต่างๆ บนพื้นที่จักรวาลออนไลน์ได้ตามใจชอบ และมากไปกว่านั้น ยังสามารถที่จะสร้างพื้นที่เสมือนจริงแบบออนไลน์เป็นของตัวเองได้อีกด้วย

ทีมงานจาก Human Guild รวมถึงผู้พัฒนาและผู้ร่วมก่อตั้งของ NEAR Lands ได้กล่าวว่า “เกม Decentralized ของพวกเราสามารถประสบความสำเร็จได้ในพริบตา เราเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สนุกสนานจากการเล่นและสำรวจบนจักรวาลออนไลน์ ซึ่งในอนาคต เรามีโปรเจกต์อื่นๆ ที่อยากทำอีกมาก เช่น การเพิ่มดันเจี้ยน หรือให้ผู้เล่นสามารถขายพื้นที่ของตัวเองได้ และให้บริการแชตแบบเสียง”

เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Metaverse

อ้างอิง
https://bit.ly/3rPBUMV
https://bit.ly/3oCsm60
https://bit.ly/3rQt2Xy

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#metaverse

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่