พอเข้าเดือนกุมภาพันธ์ทีไร แบรนด์น้อยใหญ่ต่างพากันออกสินค้าใหม่ โปรโมชันใหม่ และแคมเปญมากมายเพื่อต้อนรับวันแห่งความรักอย่าง ‘Valentine’s Day’ ไม่ว่าจะเปิดโซเชียลมีเดียหรือเดินเข้าห้างสรรพสินค้า เราก็เห็นแต่สีชมพู สีแดง ดอกไม้ และรูปหัวใจเต็มไปหมด!
เพราะวาเลนไทน์เป็นหนึ่งเทศกาลที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่แบรนด์ รายงานจาก Statista คาดการณ์ว่าในปี 2022 วันวาเลนไทน์จะทำเงินมากถึงสองหมื่นล้านเหรียญ เฉพาะในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว ในเมื่อผู้คน (โดยเฉพาะคนมีคู่) พร้อมจะจับจ่ายใช้สอยขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ทุกแบรนด์พร้อมจะออกสินค้ามาต้อนรับเทศกาล
คำถามที่ตามมาก็คือ เราจะทำอย่างไรให้แคมเปญของเราโดดเด่นกว่าของคนอื่น?
ในช่วงที่ทุกอย่างเป็นสีชมพูและรูปหัวใจ มีหลายแบรนด์ที่ฉีกจากขนบธรรมเนียมเดิมๆ และประสบความสำเร็จจากการลองทำอะไรใหม่ๆ มาดูตัวอย่างจะแบรนด์เหล่านี้กันดีกว่าว่า เราจะนำเสนอสินค้าอย่างไรให้ดึงดูดลูกค้า โดยไม่ต้องย้อมทุกอย่างให้กลายเป็นสีชมพู
1) BirchboxMan กับการล้อเลียนของขวัญแบบเดิมๆ
คนที่รู้จัก Birchbox ก็คงจะพอเข้าใจว่า ‘BirchboxMan’ คืออะไร แต่สำหรับหลายคนที่ไม่รู้จัก Birchboxman คือ บริการกล่องเครื่องสำอาง สกินแคร์ และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายแบบ Subscribe รายเดือน
โดยในปี 2021 ที่ผ่านมา Birchboxman ได้ออกแคมเปญต้อนรับวาเลนไทน์ เป็นกล่องของขวัญหลากสไตล์ที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง เช่น มีดโกนหนวด ครีมทาผิว และโฟมล้างหน้า ภายใต้ไอเดีย ‘ของขวัญที่แฟนหนุ่มของคุณจะได้ใช้จริงๆ’ ส่งเสริมให้ผู้บริโภคเลือกอะไรใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ของขวัญตามธรรมเนียมเช่นดอกไม้หรือช็อกโกแลต ที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์เท่าไรนัก
2) KFC x Deliveroo กับแหวนไก่ทอดสุดน่ารัก
ถ้ามีแฟนสายกินแต่ไม่ชอบของหวาน ก็ไม่จำเป็นต้องฝืนให้ช็อกโกแลต! เมื่อปีที่ผ่านมา KFC สิงคโปร์ได้ร่วมกับบริการส่งอาหารชื่อ Deliveroo ออกแคมเปญชื่อ “Will Delive-Roo Be My Valentine” โดยเปิดให้ผู้บริโภคสามารถพรีออเดอร์เซตไก่ทอดสุดพิเศษ ประกอบด้วยไก่ทอด 5 ชิ้นใหญ่ ไก่กรอบไร้กระดูก 3 ชิ้น มันบดขนาดกลาง 2 ถ้วย เฟรนช์ฟรายส์ชีส 1 และเป๊ปซี่ 2 แก้ว ทั้งหมดในราคา 28.25 เหรียญ แต่ที่พิเศษสุดๆ คือ เซตนี้แถมแหวนแฮนด์เมดรูปไก่ในบักเก็ตด้วย! น่ารักไม่ซ้ำใครเลย
หรือจะเปลี่ยนสินค้าของเราให้เข้ากับของขวัญตามธรรมเนียมก็ทำได้ ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2017 KFC นิวซีแลนด์ก็ได้ออกแคมเปญ “ช่อไก่ทอด” สุดหอมอร่อย ให้ลูกค้าได้ซื้อให้กันและกันแทนช่อดอกไม้ไปเลย แสดงออกถึงความรักได้เหมือนกันแถมอิ่มท้องด้วย
3) เมื่อ MeUndies ชวนลูกค้ามาอวดความรักผ่านชุดคู่
การสำรวจพบว่าคอนเทนต์จากผู้บริโภคตัวจริง (User-generated content) นั้นมีประสิทธิภาพกว่าคอนเทนต์จากแบรนด์ถึง 42% และเรียก Engagement ได้มากกว่าถึง 6 เท่า หลายๆ แบรนด์ประสบความสำเร็จได้ก็เพราะผู้บริโภค และ MeUndies ก็คือหนึ่งในนั้น
ตั้งแต่ยังเป็นสตาร์ทอัปเล็กๆ จนตอนนี้เป็นแบรนด์ชุดชั้นในออนไลน์ที่ขึ้นชื่อว่าเติบโตเร็วที่สุด MeUndies ยังคงอัปโหลดคอนเทนต์จากผู้บริโภคแบบเสมอต้นเสมอปลาย แทนที่เราจะได้เห็นภาพนางแบบนายแบบหุ่นดีในชุดชั้นใน MeUndies กลับใช้รูปจากลูกค้าของพวกเขาจริงๆ ในการโปรโมตแทน นอกจากผู้บริโภคจะมีส่วนร่วม แบรนด์ยังได้นำเสนอความหลากหลายของผู้คน ทั้งในเรื่องรูปร่าง สีผิว และเชื้อชาติอีกด้วย
และแน่นอนว่าในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ MeUndies ก็ไม่ลืมที่จะชวนคู่รักมาอวดชุดชั้นในหรือชุดนอนคู่จาก MeUndies โดยการให้โพสต์รูปในโซเชียลมีเดีย พร้อมติดแฮชแท็ก #matchmeundies
4) แคมเปญเด็ดจาก Deliveroo ‘Third Wheel Meal Deal’ กินกัน 3 คนไปเลย!
ถึงจะต้องเป็นก้างขวางคอ (หรือ Third wheel ในภาษาอังกฤษ) ให้เพื่อนในวันวาเลนไทน์ แต่ก็ไม่ต้องหนักใจอีกต่อไป เพราะแคมเปญปี 2017 ของ Deliveroo สวนกระแสเมนูชุดคู่ ด้วยเมนูชุดคี่! ออกโปรโมชัน ‘Third Wheel Meal Deal’ รวมโปรโมชันเมนูอาหารสำหรับกิน 3 คน มาเอาใจคนที่มีแฟนแต่ก็ยังต้องพกเพื่อนไปไหนมาไหนด้วย
แถมในแคมเปญนี้ Deliveroo ยังปล่อยวิดีโอสั้นเรียกเสียงหัวเราะเพื่อโปรโมตด้วย (รับชมได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=rOWSSyQ2qSo) ถึงจะโสดแต่เราจะไม่เหงาอีกต่อไป เพราะ Deliveroo จะไม่ปล่อยให้เรากินข้าวคนเดียวในวันวาเลนไทน์
5) แคมเปญเอาใจคนเกลียดแฟนเก่า จากสวนสัตว์เอลปาโซ
ถึงจะเป็นวันแห่งความรักก็จริง แต่เราก็อย่าลืมว่ามีคนจำนวนมากที่ยังโสดและเจ็บใจกับความรัก สวนสัตว์เอลปาโซในสหรัฐฯ เห็นโอกาสนี้จึงได้ออกแคมเปญ “Quit Bugging Me” ในวันวาเลนไทน์ปี 2019 โดยเชิญชวนให้คนมาตั้งชื่อ ‘แมลงสาบ’ เป็นชื่อแฟนเก่า และเข้าชมตอนแมลงเหล่านี้ถูกป้อนให้สัตว์ในสวนสัตว์
แม้ในปีที่ผ่านมาจะต้องเปลี่ยนมาเป็นการป้อนแมลงโชว์ผ่านการไลฟ์แทน เพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่แคมเปญที่ทั้งร้ายแต่ก็น่าขำในเวลาเดียวกันนี้ ก็ชวนให้คนจำนวนมากหันมาสนใจสวนสัตว์แห่งนี้
การสร้างสรรค์แคมเปญดีๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าถือเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่อย่าลืมให้ความสำคัญเรื่อง ‘ประสบการณ์การซื้อ’ ของลูกค้าด้วย จากสถิติพบว่าในช่วงวันวาเลนไทน์ คนหันมาจับจ่ายผ่านแอปฯ ในโทรศัพท์มากขึ้นถึง 20% และออเดอร์ที่สั่งมาในช่วงท้ายๆ มักจะมาจากโทรศัพท์ ถือเป็นโอกาสดีที่แบรนด์ต่างๆ จะมอบประสบการณ์การช็อปออนไลน์ที่ดีให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะจากทางโทรศัพท์
เทศกาลวันวาเลนไทน์เป็นโอกาสดีในการสร้างรายได้ให้แก่แบรนด์ แต่โจทย์ที่ยากอาจเป็นการทำให้สินค้าของเราโดดเด่นกว่าใคร บางทีการลองมอง ‘ความรัก’ ในมุมใหม่ๆ ที่ไม่หวานและสดใสเช่นแบรนด์เหล่านี้ อาจช่วยให้เราสร้างสรรค์แคมเปญสุดปังยิ่งกว่าช่อดอกไม้ไก่ KFC ก็ได้นะ
อ้างอิง:
https://bit.ly/3BfNMKW
https://bit.ly/3Lu4gDI
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#marketing
