คุณเคยอยากใช้ชีวิตเหมือนในนวนิยายแฟนตาซีไหม?
ถ้าเป็นไปได้ คุณอยากลองใช้ชีวิตเหมือนในนวนิยายแฟนตาซีหรือเปล่า?
คำถามเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริงได้ เพราะชีวิตจริงก็คือชีวิตจริง ส่วนนวนิยายแฟนตาซีก็เป็นเพียงสื่อที่ทำให้เราเพลิดเพลินได้แค่ชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น
แต่บทความนี้จะพาคุณไปค้นหาชีวิตผ่านมุมมองนักเขียนนวนิยายแฟนตาซี ที่ทำให้เรามีความสุขได้ง่ายขึ้น ยั่งยืนขึ้น และจะทำให้เราเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตผ่านเลนส์ของ “Neil Gaiman” นักเขียนวรรณกรรม นิยาย เรื่องสั้นชื่อดังชาวอังกฤษ ผู้ผันตัวจากนักอ่านมาเป็นนักเขียนสร้างสรรค์เรื่องราวที่แปลกใหม่ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งจินตนาการ ผลงานของเขาได้รับการพิสูจน์แก่คนทั่วโลก และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์
อย่างเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา The Sandman ซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากผลงานเขียนของ Neil Gaiman ก็ได้ครองอันดับ 1 ในหมวดซีรีส์ภาษาอังกฤษที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นสัปดาห์ที่ 3 จากรางวัลและความนิยมที่เป็นตัวการันตีความสามารถของเขา บอกได้ว่าไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างประเดี๋ยวประด๋าว แต่ได้รับการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเป็นนักเขียนที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีเอกลักษณ์
ซึ่งหัวใจสำคัญของความสำเร็จเหล่านี้ เกิดจากความคิด และมุมมองที่เปิดกว้าง สร้างสรรค์ของ Neil Gaiman โดยเราสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ผ่านงานเขียนของเขา จากนวนิยายสะท้อนชีวิตจริงของผู้เขียน และจากชีวิตจริงของผู้เขียน ที่ถูกถ่ายทอด ดัดแปลง กลายเป็นตัวละครและเนื้อหาที่สร้างสรรค์ ด้วยผลงานเหล่านี้ ทำให้เราเห็นตัวตนของเขาไม่มากก็น้อย
โดยบทความนี้ได้หยิบยก 7 โควตเด็ดๆ ที่มาจากผลงานของเขา แต่ละโควตจะมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมๆ กัน
“I’m somebody who considers happiness a journey, not a destination.”
ขอให้ดื่มด่ำกับทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าการมุ่งไปสู่เป้าหมายจะยากเพียงไร แต่เราก็สามารถมองหาความสุขระหว่างเส้นทางที่ยากลำบากนี้ ในช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทางนี้จะเป็นช่วงเวลาที่มอบความหมายชีวิต และประสบการณ์ดีๆ ซึ่งบางครั้งมันอาจมีคุณค่ามากกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้เสียอีก
ทุกช่วงเวลานั้นมีค่าเสมอ อย่ามองเพียงความสำเร็จ หรือผลลัพธ์ของมันเพียงอย่างเดียว แต่ขอให้เก็บเกี่ยวช่วงเวลาระหว่างนั้นด้วย เพราะชีวิตไม่ใช่การเร่งรีบเพื่อให้ถึงเส้นชัย แต่คือการดื่มด่ำกับทุกช่วงเวลาของชีวิต
“If you make art, people will talk about it. Some of the things they say will be nice, some won’t. You’ll already have made that art, and when they’re talking about the last thing you did, you should already be making the next thing.”
ไม่ว่าเราจะทำอะไร คนอื่นมักจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำอยู่เสมอ บางครั้งก็ชื่นชมเรา แต่บางครั้งกลับตำหนิ ไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ขอให้เราตั้งใจและฟังเสียงหัวใจตัวเอง มุ่งมั่นเพื่อนำไปสู่ความก้าวหน้าอย่างมั่นคง
การฟังเสียงผู้อื่นมากเกินไป ไม่เพียงลดทอนความเป็นตัวเอง ลดความมั่นใจ และทำให้เราขาดความเป็นตัวเอง ซึ่งจุดนี้จะทำให้เราหลงทางอยู่กับกระแสสังคม ค่านิยมเก่าๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงจุดมุ่งหมายของเรา ดังนั้น ไม่จำเป็นเลยว่าเราต้องสนใจว่าผู้อื่นจะคิดอย่างไร แต่ขอให้ถามตนเองว่าสิ่งที่ทำจะสามารถนำไปสู่สิ่งที่มุ่งหวังได้อย่างไร
“Life is sometimes hard. Things go wrong, in life and in love and in business and in friendship and in health and in all the other ways that life can go wrong. And when things get tough, this is what you should do. Make good art.”
เราแต่ละคนล้วนพบเจอความยากลำบากในหลายๆ เรื่อง เรื่องครอบครัว เรื่องงาน หรือเรื่องความสัมพันธ์ และบางครั้งเราก็ไม่สามารถดึงตัวเองให้หลุดออกจากความผิดหวัง หรือเดินเข้าไปในเส้นทางที่ผิด แต่อย่างไรก็ตาม Neil Giaman คิดว่า ศิลปะจะเป็นตัวเยียวยาและปลอบประโลมจิตใจเรา ซึ่งจากประโยคนี้ สำหรับตัวเขาคิดว่าการสร้างงานศิลปะ สามารถช่วยเขาได้
แต่บางครั้งการสร้างงานศิลปะอาจไม่ใช่วิธีการที่สามารถช่วยเราได้ ผู้เขียนคิดว่าเพียงแค่การเสพงานศิลปะ ก็สามารถทำให้วันแย่ๆ ของเรา กลายเป็นวันที่ดีขึ้นได้เช่นกัน อย่างเช่น การฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูนิทรรศการ เป็นต้น ก็ย่อมได้เช่นกัน
การดึงตัวเองออกมาจากเรื่องแย่ๆ แล้วลองใช้เวลากับการอยู่กับตัวเอง หรือหาอะไรทำคลายเครียด มันอาจจะทำให้ปัญหาที่เราคิดว่าเป็นปัญหาที่ไม่มีทางออก กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ได้ ให้เวลากับตัวเอง และให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขบ้าง แม้วันนั้นจะเป็นวันแย่ๆ ก็ตาม
“Do what only you do best. Make good art. Make it on the good days, too.”
.
แต่ละคนล้วนมีความสามารถเฉพาะตัว ขอให้ใช้ทักษะในแบบที่ตนเองต้องการ คำว่า “Make good art. Make it on the good days” นี้ ไม่ได้จำกัดแค่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ แต่ยังเกี่ยวข้องกับอาชีพอื่นๆ ในความคิดของ Neil Giaman เมื่อใดก็ตามที่ทุกคนสามารถดึงจุดแข็ง พรสวรรค์ของตนเองออกมาใช้ในทางที่เกิดประโยชน์ เมื่อนั้นเราจะรับรู้ถึงคุณค่าของตนเองมากขึ้น
เช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่เราทำงานที่ชอบ ทำงานที่ตนเองถนัด เมื่อนั้นเราจะแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ เราจะรู้สึกว่าที่ที่นั้นคือที่ของเรา รู้สึกว่าตนเองสามารถเติมเต็มและสร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าการหาจุดแข็งของตนเองให้เจอเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง มันไม่เพียงทำให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้ตรงจุด แต่ยังทำให้เราหาคุณค่าของตนเองเจอ และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น
“Whatever it is you’re scared of doing, Do it. Make your mistakes next year and forever.”
ความกล้าหาญ คือการที่ถึงแม้ว่าเราจะกลัว แต่ก็ยังกล้าที่จะเผชิญหน้าและจัดการกับมัน
ความกลัวจะปิดกั้นการเรียนรู้และการพัฒนาในก้าวต่อๆ ไป ทำให้เราติดอยู่กับเซฟโซนเดิมๆ
ดังนั้นบางครั้งเราอาจจะลองเสี่ยงดูบ้าง ถ้าพลาดก็คิดซะว่าเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ แต่เมื่อใดก็ตามที่หลีกเลี่ยงความผิดพลาด นั่นหมายความว่าเราจะไม่มีวันรู้เลยว่าเราขาดทักษะด้านใด ไม่ชำนาญเรื่องใด และความไม่รู้นี้จะเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงยิ่งกว่าความผิดพลาดเพื่อเรียนรู้เสียอีก
“You’re alive. That means you have infinite potential. You can do anything, make anything, dream anything.”
มนุษย์เราดำรงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะเราทุกคนต่างมีความสามารถที่ไม่สิ้นสุด ไม่หยุดที่จะลองทำเรื่องต่างๆ และมีพลังที่จะฝัน สองสิ่งนี้จะทำให้เรามีจุดมุ่งหมายในชีวิต มันจะเป็นหมุดหมายให้กับเราในวันที่เหนื่อยล้า จะช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจของเราไม่ให้ล้มไปพร้อมกับความยากลำบากและความล้มเหลวก่อนที่จะถึงเส้นชัย ดังนั้น ขอให้ลองทำในสิ่งที่ยังไม่เคยทำ และกล้าที่จะฝัน
“The world always seems brighter when you’ve just made something that wasn’t there before.”
คนเรามักกลัวที่จะแตกต่าง เราล้วนถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่า “อย่าแปลกแยก” การทำเรื่องไม่เหมือนคนอื่น คิดไม่เหมือนคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และจะมองเป็น “แกะดำ” หรือ “อยากเด่น” และเมื่อเราต่างโตเป็นผู้ใหญ่ ความเป็นตัวเองก็ค่อยๆ เลือนหายเพียงเพราะกลัวถูกคนอื่นตัดสิน และกลายเป็นมนุษย์เล็กๆ คนหนึ่งที่ไม่มีความพิเศษใดๆ แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นก็ค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับ “ความธรรมดา” ที่ถูกยัดเยียด
โลกจะสว่างไสวก็ต่อเมื่อเราทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน เพราะฉะนั้น อย่ากลัวที่จะแตกต่าง เมื่อใดก็ตามที่เราเป็นตัวเองอย่างแท้จริง เมื่อนั้นเอกลักษณ์ของเราจะเปล่งประกายออกมา
ชีวิตที่เหมือนนวนิยายแฟนตาซี ถูกแต่งแต้มไปด้วยพลังหลากหลายสีสัน มวลพลังแห่งความหวัง และความสร้างสรรค์ที่เปิดกว้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของนักเขียน Neil Giaman ได้ให้พลังชีวิตแก่นักอ่านไว้มากมาย ผู้เขียนก็หวังว่า บทความนี้ จะสามารถปลุกพลังของทุกคนให้กลับมามีแรงฮึดในวันที่เหนื่อยล้าได้เช่นกัน
แปลและเรียบเรียง:
– Neil Gaiman Quotes For When Life Needs a Little Fantasy : Danielle Dahl, Everyday Power – https://bit.ly/3TI8jQW
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration
