การแข่งขันโอลิมปิกนั้นนับเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันที่มีมายาวนานที่สุดในโลก เรียกว่ามีตั้งแต่ 1,000 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว แต่ก็มีช่วงเวลาที่การแข่งขันโอลิมปิกนั้นหายไปกว่าหลายศตวรรษเลยทีเดียว ซึ่งกีฬาหลักๆ ก็จะมี กรีฑา วิ่งมาราธอน วิ่งแข่ง กระโดดไกล กระโดดข้ามรั้ว พุ่งหลาว เป็นหลัก
จนโอลิมปิกกลับมาเริ่มฟื้นฟูและเริ่มจัดการแข่งขันขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.1896 มาจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าด้วยประวัติอันยาวนาน ความก้าวหน้าขึ้นของระบบสังคมและกีฬา ทำให้มีกีฬาหลายชนิดถูกถอดออกไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป และแทนที่ด้วยกีฬาชนิดใหม่ขึ้นมาแทน
ตัวอย่างเช่น Tokyo Olympic 2020 ที่ถูกจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้มีการเพิ่มกีฬาอย่าง การแข่งขันสเกตบอร์ด มาให้ชิงเหรียญกันอีกด้วย ทำให้เห็นว่าโอลิมปิกเองเป็นการแข่งขันกีฬาที่สะท้อนถึงช่วงยุคสมัยนั้น
วันนี้เรามาดูกันว่า 5 กีฬาแปลกที่เคยถูกจัดขึ้นในโอลิมปิกเกม มีอะไรกันบ้าง
1. Live Pigeon Shooting กีฬายิงนกพิราบ
กีฬานี้ถูกจัดขึ้นในปี 1900 กติกาคล้ายกับกีฬายิงปืนทั่วไป ที่ต้องวัดกันที่ความเร็วและความแม่นยำ แต่ติดตรงที่ว่า เป้าที่ใช้ในการยิงนั้นคือ “นกพิราบ” กรรมการจะทำการปล่อยฝูงนกพิราบออกจากกรง จากนั้นผู้เข้าแข่งกันก็จะแข่งกันยิงนกพิราบใครยิงได้เยอะสุดก็เป็นผู้ชนะไป
ซึ่งมีนกพิราบกว่า 300 ตัว ที่ถูกนำมาเป็นเป้ายิงลอยฟ้าเคลื่อนที่ได้ แน่นอนว่าการแข่งขันนี้นองไปด้วยเลือดและขนนกที่ปลิวว่อนไปทั่วสนาม แถมยังต้องมาตามเก็บซากของพวกที่ถูกยิงตกแล้วอีก หรือบางตัวที่ได้รับบาดเจ็บและยังไม่ตาย ก็ต้องถูกยิงซ้ำเพื่อเป็นการ Mercy Killing ให้รอดพ้นจากความทรมาน
ทำให้กีฬาประเภทนี้กลายเป็นภาพที่ไม่น่ามองสักเท่าไหร่ รวมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์โจมตีเรื่องความป่าเถื่อนในการใช้สัตว์เป็นๆ มาเป็นเป้า จนถูกประณามจากทั่วโลก และถูกถอดออกไปในที่สุดและไม่ได้นำมาแข่งขันกันอีกเลย
2. Dueling Pistols ดวลปืนสั้นสไตล์คาวบอย
ยังคงอยู่กับกีฬาประเภทยิงปืน แต่คราวนี้เป้าเปลี่ยนจากนกพิราบเป็นคนจริงๆ บ้าง Dueling Pistols หรือการดวลปืนสั้น ถูกจัดขึ้นเมื่อปี 1912 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากคาวบอย
กติกาคือ ให้ผู้เข้าแข่งขัน 2 คนหันหลังชนกัน และก้าวไปข้างหน้าจนห่างกันได้ 20 เมตร และหันกลับมาดวลความเร็วและความแม่นกัน ใครยิงเข้าจุดตายก่อนก็ถือเป็นผู้ชนะ และแน่นอนว่ากระสุนที่ใช้ก็เป็นกระสุนปลอม แต่ทางสมาคมก็เล็งเห็นว่ากีฬาชนิดนี้ยังมีความอันตรายและผู้เข้าแข่งขันอาจเสี่ยงได้รับบาดเจ็บได้ จึงได้มีการยกเลิกไปในปี 1912
3. Distance Plunging พุ่งหลาววัดระยะ
ฟังดูแล้วนี่อาจจะดูเหมือนการพุ่งไม้หรืออะไรสักอย่างออกไป แต่จริงๆ แล้วกีฬานี้ต้องเล่นในสระน้ำ กติกาคือ นักกีฬาจะวิ่งมาที่ขอบสระเพื่อกระโดดลงสระน้ำ เป็นลักษณะการพุ่งหลาวลงน้ำ ห้ามว่ายต่อ ห้ามขยับตัวใดๆ ปล่อยให้ตัวเองไหลไปกับน้ำตามแรงเฉื่อย เป็นระยะเวลา 60 วินาที
เมื่อครบเวลา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเพื่อวัดระยะ ใครมีระยะทางที่ไกลที่สุดก็เป็นผู้ชนะไป เคยจัดขึ้นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย เมื่อปี 1904
4. Swimming Obstacle Race แข่งว่ายน้ำวิบาก
แข่งว่ายน้ำวิบาก แค่ชื่อก็มันและดูน่าสนุกแล้ว โดยผู้เข้าแข่งขันจะเริ่มด้วยการว่ายน้ำเป็นระยะทาง 200 เมตร ผ่านสิ่งกีดขวางต่างๆ เช่น เสา ถังไม้ ต้องปีนข้ามรั้ว พายเรือ และกลับมาว่ายน้ำเข้าเส้นชัยในที่สุด
ดูเป็นกีฬาที่มีไว้เอนเตอร์เทนผู้เข้าชมเพื่อสร้างสีสันมากกว่าการแข่งขันอย่างจริงจัง ถูกบรรจุครั้งแรกและครั้งเดียวในปี 1900 ผู้ชนะคือ Frederick Lane จากออสเตรเลีย
5. The Game of the Palm ต้นกำเนิดกีฬาเทนนิส
The Game of the Palm หรือชื่อเดิม Le Jeu Du Paume มาจากฝรั่งเศส เป็นกีฬาที่ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของเทนนิสในยุคปัจจุบัน
กติกาคือ ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายใช้ฝ่ามือตีโต้ลูกบอลกลมๆ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้ไม้พายขนาดเล็กเพื่อตีลูกบอล เป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงของฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 13 จนกลายเป็นการพนันและสูญหายไปตามการปฏิวัติในประเทศฝรั่งเศส แต่โชคยังดีที่ยังมีชาวอังกฤษนำมาเล่นกันอยู่บ้างเรื่อยมา
จนกระทั่งปี 1900 Le Jeu Du Paume ได้ถูกนำกลับมาจัดแสดงและบรรจุเข้าการแข่งขันใหม่ในโอลิมปิกปี 1908 และยกเลิกไปในปี 1924
Sport Journey EP.12 | กีฬาสุดพิสดารของโอลิมปิก
YouTube: https://bit.ly/3i2ETw7
Spotify: https://spoti.fi/3eju4CI
SoundCloud: https://bit.ly/34M6B9S
Podbean: https://bit.ly/34VsrZd
Apple Podcast: https://apple.co/2TMh3Im
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/online-content/
