*สามารถเปิดฟังโดยปิดหน้าจอมือถือได้
ตำนานเมือง คืออะไร
ตำนานเมือง คือตำนานที่ถูกเล่าขานในสังคมสมัยใหม่ ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางลึกลับ หรือเรื่องราวสยองขวัญ ไม่ใช่ตำนานจากอดีตอันไกลโพ้น แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้กับเรา ณ ทุกช่วงขณะ
สำหรับเรื่องราวในวันนี้ ว่าด้วยเรื่องของ ‘ตุ๊กตาผี’ ซึ่งในทุกชาติศาสนา ก็มักจะมีเรื่องทำนองนี้อยู่ แต่สำหรับวันนี้จะเป็นตุ๊กตาผีที่กลายเป็นตำนานเมือง ไม่ใช่คำสาปอันเก่าแก่ แต่เป็นตุ๊กตาผีที่โทรหาคุณได้
โทรศัพท์สายปริศนา จากตุ๊กตาแมรี่
เรื่องราวนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ต้องย้ายบ้านไปยังเมืองอื่น เพราะคุณพ่อได้ตำแหน่งงานใหม่ ขณะที่กำลังเก็บสัมภาระเพื่อย้ายไปสู่บ้านอันอบอุ่นหลังใหม่ ลูกสาวที่ยังไม่รู้ประสีประสา ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ มองพ่อแม่ค่อยๆ จัดเตรียมแพ็คของต่างๆ แล้วเล่นกับตุ๊กตาของเธอ
ตุ๊กตาตัวนั้นชื่อว่า ‘แมรี่’ เป็นตุ๊กตาฝรั่ง ผมสีทอง ในชุดเดรสยาว
ตุ๊กตาแมรี่เปรียบเสมือนเพื่อนรักของเธอ แต่แล้ว เมื่อพวกเขาได้ย้ายเข้าสู่บ้านหลังใหม่ ลูกสาวกลับพบว่าครอบครัวได้ทิ้งตุ๊กตาแมรี่ ตุ๊กตาของรักของหวงของเธอไป เหตุผลเพราะมันเก่าแล้ว ทำให้เด็กหญิงมีอาการเศร้าโศกเสียใจที่เพื่อนรักของเธอไม่ได้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน
เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผันไป จนตุ๊กตาแมรี่ได้กลายเป็นความทรงจำสีจางๆ ของเด็กหญิงคนนี้ แต่แล้ววันหนึ่ง ครอบครัวของเธอต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน ทำให้เด็กหญิงต้องอยู่ในบ้านคนเดียว และในขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์บ้านก็ได้ดังขึ้น เธอจึงลุกขึ้นไปรับ โดยปลายสายเป็นเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
“สวัสดี ฉันแมรี่เอง”
.
.
เด็กหญิงรู้สึกตกใจ พร้อมกับตะกอนความทรงจำมันค่อยๆ ฟุ้งขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ แนบหูฟังเสียงจากอีกฝั่งอย่างตั้งใจ
.
.
“ฉันอยู่ที่กองขยะ ตอนนี้กำลังไปหาเธอนะ”
.
.
แล้วสายก็ตัดไป เธอคิดว่าต้องมีใครมาล้อเธอเล่นแน่ๆ แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
.
.
“คุณแม่หรือเปล่าคะ?” เธอถาม
.
.
“สวัสดี ตอนนี้แมรี่ถึง สถานีรถไฟแล้วนะ”
.
.
แล้วปลายสายก็ตัดไปอีกครั้ง
.
.
หลังจากนั้นไม่นาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก เด็กหญิงลนลานรีบรับสาย ภาวนาให้เป็นคุณแม่ของเธอโทรมา
.
.
“คุณแม่หรือคะ รีบกลับมาได้แล้วหนูกลัว”
.
.
“สวัสดี ตอนนี้แมรี่อยู่ที่ร้านขายบุหรี่ตรงหัวมุมแล้วล่ะ”
.
.
เด็กหญิงยิ่งตกใจหนักไปกว่าเก่า เพราะตำแหน่งของร้านที่ปลายสายอ้างถึงนั้น คือร้านขายของชำใกล้บ้านเธอจริงๆ
.
.
หลังจากคิดทบทวนได้ไม่นาน สายปริศนาก็โทรมาอีกครั้ง เธอรับโทรศัพท์ด้วยความหวาดกลัว
.
.
“สวัสดี ตอนนี้แมรี่อยู่หน้าบ้านเธอแล้วนะ” พร้อมเอ่ยชื่อเด็กหญิงออกมา
.
.
เธอดึงสายโทรศัพท์ทิ้ง วิ่งมาล็อกกลอนประตู แล้วชะโงกหน้าดูที่หน้าต่าง พยายามดูบริเวณหน้าบ้านตามที่ปลายสายได้บอกไว้ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
.
.
โทรศัพท์ที่ถูกดึงสายไปแล้วกลับดังขึ้นอีกครั้ง เธอรีบรับสายด้วยความตกใจ พร้อมเสียงปลายสายที่เอ่ยออกมาว่า
.
.
“สวัสดี ตอนนี้แมรี่ อยู่ข้างหลังเธอ”
.
.
.
เป็นเรื่องเล่าขานตำนานเมืองในสมัยก่อน ในยุคที่ยังใช้โทรศัพท์บ้านในการสื่อสารกัน ในเรื่องราวดั้งเดิม เรื่องจะจบลงที่แมรี่พูดว่า “ฉันอยู่ข้างหลังเธอ” แต่ก็มีการเติมแต่งเรื่องเล่าเพิ่มถึงจุดจบของเด็กหญิง ไม่ว่าจะเป็น
.
.
เมื่อเธอหันกลับไป เธอถูกแมรี่ฆ่า หรือเมื่อสิ้นเสียง เธอก็ถูกแทงจากข้างหลังจนตัวลอย
.
.
อีกชื่อของแมรี่ คือ ‘ตุ๊กตาริกะ’ ซึ่งตุ๊กตาริกะนี่ล่ะ ที่มีความเชื่อว่าอาจจะเป็นต้นกำเนิดของตุ๊กตาแมรี่อีกที ‘ตุ๊กตาริกะ’ เป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท Takara ซึ่งเป็นบริษัทของเล่นของญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 ซึ่งในตอนนั้นได้รับความนิยมในหมู่เด็กผู้หญิงจำนวนมาก จนเรียกว่าเป็นบาร์บี้ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
.
วันนึง ทางบริษัท Takara ได้รับสายจากเด็กผู้หญิงคนนึง ที่โทรมาเพื่อขอคุยกับริกะจัง จนทีมงานปิ๊งไอเดีย เปิดเบอร์พิเศษให้เด็กๆ โทรมาคุยกับริกะจังได้ โดยเป็นระบบเสียงตอบรับอัตโนมัติ
ทำไมถึงชื่อ ‘ตุ๊กตาแมรี่’ ทั้งที่อยู่ญี่ปุ่น?
หลายคนตั้งข้อสงสัยกันว่า ที่มาของ ‘แมรี่’ นั้น คือชื่อหญิงชราคนหนึ่ง ที่มีชื่อเต็มว่า ‘โยโกฮาม่า แมรี่’ หญิงมีอายุที่เอาตัวรอดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เศรษฐกิจตกต่ำด้วยการประกอบอาชีพ Sex Worker โดยเธอมักจะสวมใส่ชุดเดรสยาว และทาหน้าขาวอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าเธอจะอายุเยอะแล้วก็ตาม โดยลักษณะของเธอคล้ายกับตุ๊กตาแมรี่มาก นั่นทำให้หลายคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า เธอคนนี้คือต้นแบบของตุ๊กตาแมรี่นั่นเอง
#timetoplaypodcast
#plutomysteryclub
#missiontopluto
