Dance Me to Death เมื่อความหลงใหล กลายเป็นความอิจฉา อาฆาต

374
Dance Me to Death

‘Rachel’ หญิงสาวชาวออสเตรเลีย ผู้หลงใหลในการเป็น “นักแสดง” เมื่ออายุได้ 15 ปี เธอก็ได้โอกาสไปเรียนเต้นรำที่ The Dance Factory เพื่อเริ่มเส้นทางการเป็นนักแสดงอย่างที่ใฝ่ฝัน ชีวิตเธอดูเหมือนจะไปได้ดี ฉายแววในงานที่ชอบ ได้พบรักกับแฟนหนุ่ม มีอนาคตที่สดใสรออยู่

แต่ถ้าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นนั้น ก็ย่อมไม่ใช่ “File Not Found” 

Advertisements

ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี 1999 มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาบอก ‘ข่าวดี’ ระหว่างที่เธอนั่งรับประทานอาหารกับครอบครัว และวันต่อมา เธอก็ได้ไปบอกกับแฟนหนุ่มว่ามีคนติดต่อเธอเข้ามาพร้อมเสนอ ‘เงินก้อนโต’ โดยที่ยังไม่ได้ทราบอย่างชัดเจนว่าเป็นงานเกี่ยวกับอะไร

ในวันเดียวกันนั้นเอง คุณพ่อของ Rachel ก็มาส่งเธอที่ Riverdale เพื่อเดินทางไปยังโรงเรียนเต้นรำของเธอตามปกติ

ที่โรงเรียนเต้นรำ Rachel ได้บอกกับเพื่อนๆ ว่าเธอได้รับข่าวดีและมีโอกาสจะทำเงินก้อนโต และหลายคนก็มาร่วมแสดงความยินดีกับเธอ

เวลา 18.15 น. พ่อของเธอก็มารับตามที่นัดหมายกันไว้ แต่แล้วเธอกลับ “ไม่มาตามนัด” โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า Rachel หายไปไหน แถมตำรวจก็ยังไม่รับแจ้งความ เพราะมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทำให้ทางครอบครัวจำเป็นที่จะต้อง “ออกตามหาด้วยตัวเอง”

คุณแม่ของ Rachel สังเกตเห็นว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้มีคนโทรศัพท์เข้ามา ก่อนที่เธอบอกว่าจะได้รับโอกาสครั้งใหญ่ ทำให้คุณแม่ทำการสืบเพิ่มเติม จนพบว่า โทรศัพท์สายนี้ได้โทรเข้ามา ในวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี 1999 ถึง 2 ครั้ง ในเวลาห่างกัน 20 นาที และเป็นการสนทนาที่ค่อนข้างยาวนาน

ทางครอบครัวจึงเชื่อว่า บุคคลที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ จะต้องเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ Rachel จนในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ก็ยินยอมที่จะสืบคดีนี้ และพบข้อมูลสำคัญจากพยานที่ชี้ว่า “เธอได้ขึ้นรถรางไปกับผู้หญิงผมบรอนซ์คนหนึ่ง”

Advertisements

13 วันหลังจากการหายตัวไปของ Rachel ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบตัว Rachel ในร่างที่ไร้วิญญาณ ถูกฝังอยู่ในหลุมตื้นๆ โดยมีสาเหตุการเสียชีวิตคือ “ถูกสายโทรศัพท์รัดคอจนขาดอากาศ” โดย Caroline อดีตพี่เลี้ยงที่คอยดูแลในวัยเด็ก

ในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าไปจับกุมตัวเธอในที่พัก พวกเขาได้พบกับหลักฐานที่มัดตัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสมุดบันทึกแผนการ “วางยาเธอ วางศพของเธอในกระเป๋าทหาร แล้วทำให้เสียโฉม ก่อนจะทิ้งศพไว้ที่อื่น” และหลักฐานอื่นๆ เช่น น้ำยาย้อมผม เช่ารถตู้ น้ำยาทำความสะอาด

หลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุ Caroline ได้บอกว่าเธอสนในใจตัวเหยื่อ จนหาทางทำทุกวิถีทางให้ได้เข้าใกล้เธอ จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลเด็กๆ ในครอบครัวแห่งนี้

จากความหลงใหล ความรู้สึกทั้งหมดได้แปรเปลี่ยนเป็นความ ‘อิจฉา’ จนทำให้เธอวางแผนที่จะฆ่าทิ้ง โดยการโทรไปล่อลวงว่า
“ฉันจะพาเธอไปงานทดลองทางจิตวิทยา แลกกับเงิน 500 ดอลลาร์”

ฟังฉบับเต็มเก็บทุกรายละเอียดได้ที่:

#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#filenotfoundpodcast

ดูเนื้อหาอื่นๆ ของ File Not Found ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/podcast/file-not-found/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่