ENTERTAINMENT“blue w/wht”ลายมือปริศนาใครฆ่าครอบครัวโรเจอร์ส (Rogers)?

“blue w/wht”ลายมือปริศนาใครฆ่าครอบครัวโรเจอร์ส (Rogers)?

ครอบครัว Rogers ก็เป็นเหมือนกับตัวแทนของครอบครัวธรรมดาทั่วไป หาเช้ากินค่ำ ประกอบอาชีพสุจริต เก็บเงินไปเที่ยวหาความสุขเล็กๆ ใส่ตัวบ้างเป็นครั้งคราว ด้วยความฝันที่ว่าพวกเขาจะได้อยู่อย่างสุขสบายได้สักวัน และหลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมานาน พวกเขาก็ได้มีโอกาสไปพักผ่อนเล็กๆ แต่ไม่รู้ว่าเพราะโชคชะตาเล่นตลกหรืออะไร เพราะว่าการตัดสินใจไปเที่ยวเล็กๆ ของพวกเขา ในครั้งนั้น จะเป็นการไปเที่ยวครั้งสุดท้ายของพวกเขาไปตลอดกาล

ครอบครัว Rogers นี้ประกอบไปด้วย คุณพ่อฮาล โรเจอร์ส (Hal Rogers) อายุ 36 ปี คุณแม่โจน โรเจอร์ส (Joan Rogers) ที่อายุ 36 ปี ลูกสาวคนโต มิเชลล์ (Michelle Rogers) อายุ 17 ปี และลูกสาวคนเล็กชื่อว่า คริสตี (Christie Rogers) อายุ 14 ปี

โดยในปี 1989 พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองวิลเชียร์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกเขาประกอบอาชีพทำฟาร์มวัว เป็นแหล่งรายได้หลักเพียงหนึ่งเดียว สำหรับครอบครัวทั้ง 4 ชีวิตนี้ ทำให้ฮาลผู้เป็นพ่อต้องทำงานอย่างหนักปราศจากวันหยุด ส่วนคุณแม่โจน ก็ไม่แพ้กัน เพราะนอกจากกลางวันต้องช่วยทำงานในฟาร์มแล้ว บางคืนเธอยังต้องไปทำงานกะดึก เพื่อหารายได้เสริมให้กับครอบครัว

ชีวิตของครอบครัว Rogers คงอยู่ในสภาพนี้หลายปี จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณพ่อฮาล ก็อยากให้โอกาสครอบครัวทุกคนได้หยุดพักผ่อนบ้าง ด้วยการให้ภรรยาและลูกสาวทั้งสอง ไปออกทริปเที่ยวพักผ่อนที่ฟลอริดาเป็นเวลา 3 วัน เพียงแต่ว่าตัวเขาไม่สามารถไปร่วมทริปนี้ได้ เพราะมีฟาร์มที่ต้องดูแล

เช้าวันที่ 26 พฤษภาคม ทั้ง 3 คนก็โบกมือลาฮาลและขับรถมุ่งตรงไปยังฟลอริดาตามแผนการ ซึ่งตอนแรกทุกอย่างก็เหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่กลับกลายเป็นว่า ผ่านไปเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ทั้ง 3 คนก็ยังไม่กลับบ้านมาเสียที

หลังจากนั้นไม่นาน ฮาลก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่าได้มีการพบศพของผู้หญิง 3 คน ในสภาพเปลือย มีเทปปิดปาก มือและเท้ายังถูกมัดด้วยเชือกสีเหลือง และยังถูกผูกด้วยอิฐบล็อกหนักราวๆ 13 กิโลกรัม โดยจุดที่พบคือ บริเวณอ่าว Tampa Bay รัฐฟลอริดา ซึ่งร่างของศพ 3 ร่างนั้นก็คือ โจน มิเชลล์ และคริสตี ครอบครัวของเขานั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากทำการชันสูตรศพทั้ง 3 แล้ว ก็ได้พบว่า สาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากอาการน้ำท่วมปอด นั่นหมายความว่า ทั้ง 3 คนยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่ตกลงไปในน้ำ และจากรูปการที่ศพแต่ละศพถูกปิดตา มัดมือมัดขาเพื่อถ่วงน้ำไว้ แสดงว่านี่คือคดีฆาตกรรมอย่างแน่นอน

ณ ตอนแรก ตำรวจได้ตั้งฮาลว่าเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับแรก เนื่องจากว่าหลังจากพวกเขาทำการแจ้งข่าวร้ายไปนั้น ฮาลกลับไม่ได้มีท่าทีของความเสียใจ หรือโศกเศร้าเลย แต่กลับทำงานในฟาร์มหนักกว่าเดิมเสียอีก ซึ่งหลังจากสืบค้นไปสักพัก ฮาลนั้นมีหลักฐานที่อยู่อย่างชัดเจนมาก จนสุดท้าย ฮาลก็หลุดออกจากการเป็นผู้ต้องสงสัย ทำให้ตำรวจต้องทำการสืบสวนต่อไป

ลายมือปริศนา “blue w/wht”

ตำรวจพยายามชันสูตรศพอีกครั้ง เผื่อว่าจะมีร่องรอย หรือหลักฐานอะไรที่โยงไปถึงตัวฆาตกรได้ แต่ก็ไม่เจอเบาะแสอะไรเพิ่มมากนัก เพราะทั้ง 3 ศพจมอยู่ในน้ำนานถึงสามวัน จนสภาพศพเปลี่ยนแปลงไปมาก อีกทั้งน้ำก็ได้พัดพาร่องรอยหลักฐานส่วนใหญ่ไปหมดแล้ว

จนตำรวจก็ได้เจอกับเบาะแสสำคัญ นั่นก็คือกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งพร้อมกับโบรชัวร์ ภายในรถของ 3 แม่ลูก Rogers ที่จอดอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ โดยภายในโบรชัวร์นั้น ได้มีใครบางคนเขียนอะไรบางอย่างเหมือนกับแผนที่เส้นทางไปยังโรงแรม ส่วนในกระดาษโน้ตเป็นการเขียนด้วยลายมือเช่นเดียวกัน แต่เป็นการเขียนบอกเส้นทางไปยังท่าเรือแทน ซึ่งลายมือดังกล่าวนั้นเป็นลายมือที่มีความเอกลักษณ์มาก โดยเฉพาะคำว่า “blue w/wht” ที่ตำรวจคิดว่ามันอาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขคดีนี้

ทางตำรวจจึงได้นำลายมือนี้ส่งไปยัง ผู้เชี่ยวชาญด้านลายมือโดยเฉพาะ เพื่อทำการวิเคราะห์ลายมือจากน้ำหนักลายเส้น ลักษณะเด่นต่างๆ รวมไปถึงเอกลักษณ์ในการเคลื่อนไหวมือในขณะที่เขียนคำว่า “blue w/wht” จนพวกเขาก็พอจะตีความได้ว่า “Blue White” มันหมายถึงสีของเรือที่เป็นสีฟ้าสลับขาวนั่นเอง

หลังจากตามหามานาน ตำรวจก็ได้เจอกับเรือสีฟ้าขาวจนได้ โดยเจ้าของเรือลำนี้ก็คือ Jason Wilcox ประกอบธุรกิจให้เช่าเรือโดยไม่มีใบอนุญาตและเมื่อตรวจประวัติของ Jason ก็พบว่า เขาเคยมีประวัติอาชญากรรม ในข้อหาทะเลาะวิวาทกับผู้อื่น จนถึงขั้นเข้าคุกมาแล้ว ทำให้ตำรวจเร่งสอบปากคำ Jason อย่างหนัก

ซึ่งในขณะที่ตำรวจกำลังพยายามสืบสวนเกี่ยวกับ Jason อยู่นั้น พวกเขาก็พบว่า ในช่วงสองอาทิตย์ก่อน ก็มีคดีฆาตกรรมในลักษณะคล้ายๆ กับแม่ลูก Rogers เกิดขึ้นอีกหลายคดีเลยทีเดียว และหนึ่งในผู้ประสบเหตุคนหนึ่ง ที่รอดชีวิตมาได้ คือ หญิงสาวนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาวัย 24 ปี

เธอได้ให้การกับตำรวจว่า เธอได้เดินทางมาเที่ยวและเช่าเรือสีฟ้าสลับขาวเพื่อนำไปล่องทะเล จากชายผู้ให้บริการเช่าเรือคนหนึ่ง โดยเขาจะทำหน้าที่ในการขับเรือออกไปให้ด้วย แต่หลังจากที่เรือออกไปกลางทะเลได้สักพัก ชายเจ้าของเรือก็ชักมีดออกมาจ่อคอเธอ พร้อมขู่ว่า หากเธอไม่ยอมมีอะไรกับเขา เขาจะทำการปาดคอเธอทิ้งและจับโยนลงทะเลซะ

จากนั้นเขาได้จับเธอมัดด้วยเชือกสีเหลือง และล่วงละเมิดทางเพศเธอทันที แต่หลังจากการล่วงละเมิดทางเพศจบลง หญิงสาวนักท่องเที่ยวคนนี้ก็รีบกระโดดน้ำหนีและว่ายข้ามขึ้นฝั่งทันที

แต่หลังจากที่นักเหยื่อคนนั้นได้บอกรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายให้กับตำรวจที่ฟัง พวกเขาก็ต้องคว้าน้ำเหลวอีกครั้ง เพราะว่ารูปร่างหน้าตาของคนร้ายที่เธอบอกมา มันไม่ตรงกับ Jason Wilcox ที่ทางตำรวจสงสัยเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้น Jason Wilcox จึงหลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัยไป

Advertisements
Advertisements

ความหวังสุดท้าย คือประชาชน

ตอนนี้ตำรวจไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ไม่ว่าจะสืบไปทางไหนก็ไม่คืบหน้าเลย พวกเขาจึงย้อนกลับไปที่เบาะแสที่ชัดเจนที่สุด นั่นก็คือลายมืออันเป็นเอกลักษณ์บนโบรชัวร์แผ่นนั้น โดยคราวนี้ พวกเขาฝากความหวังสุดท้ายประชาชน ด้วยการพรินต์ลายมือบนโบรชัวร์นั้น ติดประกาศขอความช่วยเหลือจากทุกคนไปเลย

แต่ความพยายามในครั้งนี้มันก็ได้ผลจริงๆ ด้วย เมื่อวันหนึ่ง ได้มีสายจากหญิงวัยกลางคนท่านหนึ่ง บอกว่าลายมือที่ตำรวจติดประกาศนั้น เหมือนกับลายมือของผู้รับเหมาที่ก่อสร้างที่เธอเคยทำเอกสารสัญญาตกลงซื้อขายด้วย โดยชายคนนั้นมีชื่อว่า โอบา แชนด์เลอร์ (Oba Chandler)

หลังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า บ้านของโอบา ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 8 ไมล์ เขามีเรือสีฟ้าสลับขาวไว้ในครอบครอง แถมโอบาเอง ก็มีประวัติอาชญากรรมอย่างโชกโชน โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ

แต่หลักฐานของลายมือมันยังไม่เพียงพอ ตำรวจได้เชิญนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาที่รอดชีวิต มาทำการชี้ตัวผู้ต้องสงสัย และเมื่อเธอเดินทางมายืนชี้ตัวที่ห้องกระจก นักท่องเที่ยวคนนี้ ก็ชี้ไปยังโอบาด้วยความมั่นใจ เธอจำโอบาได้อย่างแม่นยำ เขาคนนี้คือคนร้ายที่ล่วงละเมิดทางเพศเธอ นอกจากนั้น ตำรวจก็ได้พบว่า ลายนิ้วมือของโอบา มันตรงกับลายนิ้วมือบนใบโบรชัวร์ที่อยู่ในรถของ 3 แม่ลูก Rogers อีกด้วย

โดยตำรวจคาดว่า โอบาได้พบกับ 3 แม่ลูก Rogers ที่กำลังจอดรถซักแห่งหนึ่ง ก่อนที่พวกเธอได้สอบถามเส้นทางในการไปโรงแรม กับโอบา นั่นทำให้เขารู้เลยว่า 3 แม่ลูกนี้เป็นคนต่างถิ่น เขาจึงบอกเส้นทางไปโรงแรม พร้อมกับชักชวนทั้ง 3 แม่ลูกไปล่องเรือเที่ยวทะเลกับเรือส่วนตัวสุดพิเศษที่เขาให้บริการอยู่ โดยที่พวกเธอไม่รู้เลยว่า พวกเธอกำลังตกเป็นเหยื่อเหมือนหญิงสาวอีกหลายๆ ราย

โดยในวันเกิดเหตุ โอบาได้ขับเรือพา 3 แม่ลูกแล่นออกไปกลางทะเล ก่อนที่เมื่อสบโอกาส เขาก็ได้นำมีดออกมาข่มขู่ก่อนจะใช้เทปปิดปาก จับมัดมือและเท้าไว้เหมือนกับเหยื่อรายอื่นๆ เมื่อเหยื่อดิ้นไปไหนไม่ได้ เขาก็ได้ลงมือล่วงละเมิดทางเพศทั้ง 3 คน และจับพวกเธอถ่วงน้ำ

ซึ่งทางตำรวจ ได้การนำข้อมูลหลักฐานทั้งหมด และตัวโอบาไปทำการพิจารณาคดีในชั้นศาล จนสุดท้าย ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 1994 ศาลก็ได้มีคำตัดสินออกมาว่า โอบา แชนด์เลอร์ ต้องรับโทษประหารชีวิตในข้อหาเจตนาฆ่า โจน มิเชลล์ และคริสตี้ โรเจอร์ส รวมไปถึงคดีอื่นๆ ที่เขาทำก่อนหน้านี้มาด้วย

และในที่สุด วันที่ 15 พฤศจิกายน ปี 2011 โอบา เชนเดอร์ ก็ถูกนำตัวไปประหารชีวิต โดยการฉีดยา ที่เรือนจำฟลอริดา และจบชีวิตลงในวัย 65 ปี

สามารถรับฟัง File Not Found EP. 127 | The Last Vacation ไปเที่ยวครั้งนี้ ถึงตาย! แบบเต็มๆ ได้ที่: https://youtu.be/2ogmQSV1nfw

#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#filenotfoundpodcast

 

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า