ทิศทางใหม่ของประเทศไทยกับเทคโนโลยี 5G

926

ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา “เทคโนโลยี 5G” ถูกพูดถึงกันอย่างเป็นวงกว้าง ว่าได้เข้ามาเปลี่ยนบทบาท สร้างโอกาสหารายได้ และเปลี่ยนเกมกลยุทธ์การทำธุรกิจในยุคใหม่ บางคนถึงขั้นมองว่า 5G จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบของ “การสื่อสาร” ทั้งหมดเลยทีเดียว

แล้วเทคโนโลยี 5G จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่มุมไหนตามความเป็นจริงบ้าง?

โดยเราได้รวบรวมเนื้อหาและข้อมูลที่น่าสนใจจากงาน AIS 5G | FORGING THAILAND’S RECOVERY ที่ได้อธิบายถึงอนาคตของเทคโนโลยี 5G ไว้อย่างน่าสนใจ

Advertisements

เริ่มที่ คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอจากบริษัท ‘AIS’ ได้เล่าถึงผลกระทบที่ ‘Telecom Industry’ ได้รับจากวิกฤตโควิดครั้งที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นวิกฤตครั้งใหญ่และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้หลายประเทศมีการปรับเปลี่ยนและประมาณการค่า GDP ลดลงอย่างมาก

แน่นอนว่าทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ รวมไปถึง ‘Telecom Industry’ แม้ว่ายอดการใช้งานจะมีสูงขึ้น แต่รายได้ของ AIS กลับไม่ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจาก 3 ปัจจัยหลักๆ ด้วยกัน คือ

  1. กลุ่มท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศลดลงอย่างมาก (บางส่วนก็เกือบ 100%)
  2. ภาครัฐมีมาตรการล็อคดาวน์ ส่งผลทำให้ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบ ‘ออฟไลน์’ หายไป
  3. ‘กำลังซื้อ’ ที่หายไปจากผลพวงทางเศรษฐกิจ

ทำให้ตอนนี้ ถ้ามาดูประเทศไทยตามหลักของ 3 F Model คือ Fall, Fight, Future ซึ่งในส่วนของ Fall หรือที่เรากำลังมีปัญหา คือ Tourism, Export, Government และ Investment ส่วนสิ่งที่เราต้องต่อสู้ และเป็นอนาคตของเราต่อไป (Fight, Future) ที่เราต้องให้ความสำคัญต่อจากนี้ ได้แก่

  • Healthcare System: รักษาพยาบาล, การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
  • Government Policy: ต้องส่งเสริมการคิดค้นและพัฒนา มากกว่าการรับจ้างผลิตหรือประกอบ
  • Economic Stimulus: ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดฉีดเงิน
  • Private Sector Engagement: กลุ่มเอกชนต้องมีส่วนร่วม
  • Public Engagement: สาธารณะ | ทุกคนต้องมีส่วนร่วม
  • Digital Infrastructure: การมีพื้นฐานโครงสร้างทางดิจิตอลที่มั่นคงเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเศรษฐกิจให้สามารถ Recovery กลับมาได้

สิ่งที่ 5G จะมาทำให้เกิดขึ้น หรือเร่งให้เร็วขึ้น

แม้ว่าหลายอย่างจะเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่ 5G จะมาเป็นตัวเร่งที่สำคัญที่ทำให้หลายสิ่งถูกพัฒนาเร็วขึ้น เกิดได้ไวและเต็มรูปแบบมากขึ้น ตั้งแต่ Mobile, AR/VR, IoT, Autonomous Vehicle, Safety, Healthcare และ Industry Automation

และในการมาถึงของเทคโนโลยี 5G ครั้งนี้ ประเทศไทยถือว่าเป็นกลุ่มประเทศแรกๆ ที่มีการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้งานในรูปแบบของ NSA/SA Dual Mode ในการติดตั้งสถานี ที่รองรับการให้บริการเฉพาะ 5G (Stand Alone : SA) พร้อมกับเครือข่ายที่ให้บริการ 5G พร้อมกับ 4G (None Stand Alone : NSA)

ซึ่งปัจจุบันเครือข่าย AIS 5G พร้อมให้บริการแล้วใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการใช้งาน 4G หนาแน่น และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะครอบคลุมการใช้งานกว่า 30% ของประชากรทั่วประเทศ และ 50% ของการใช้งานในกรุงเทพฯ

Use Case ของ AIS 5G

ภายในงาน Virtual ครั้งนี้ทาง AIS ก็ได้เล่าถึง Use Case ที่น่าสนใจ เช่น 5G Robot หุ่นยนต์ทางการแพทย์ ที่ใช้ในการช่วยตรวจเชื้อโควิด และถูกใช้แล้วใน 22 โรงพยาบาล, เทคโนโลยี AI อัจฉริยะสำหรับเครื่อง CT Scan ที่ช่วยตรวจปอดของคนไข้ให้รู้ว่าติดเชื้อโควิดหรือไม่ ภายในระยะเวลาเพียง 30 วินาที เป็นต้น

การมี 5G จะช่วยทำให้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถูกพัฒนาจนกลายเป็น Smart City | Smart Industrial Estate ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานระยะไกล 

Advertisements

ทำให้เกิด Intelligent Operation Center (IOC) ที่สามารถ Monitor & Control ได้ตั้งแต่ Climate, Energy, Traffic, Security, IoT and Smart Communication, and Smart Building Management รวมถึงสามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งานได้แบบ Real-Time

5G ในกลุ่มธุรกิจ Retail

คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานกลุ่มเซ็นทรัล ได้พูดถึงบทบาทในส่วนของธุรกิจค้าปลีก โดยเขามองว่า ถึงเวลาที่ IoT ที่เราพูดถึงกันมาหลายปี จะได้ริเริ่มอย่างเป็นรูปธรรม

อาทิ เช่น Virtual Store, IoT (ที่ทำให้สามารถสั่งของจากตู้แช่ได้แบบอัตโนมัติ) โดยการร่วมมือของ Central Retail กับ AIS 5G เพื่อใช้ Big Data, Smart Logistics, Smart Payment จะสามารถสร้าง Platform Retail ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ‘ทุกที่’ และ ‘ทุกเวลา’ ถือได้ว่าเป็น Game Changer ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก 

Next Reality: AR/VR

ททท. ร่วมกับ AIS กับโปรเจกต์ ‘Feel the Unseen’ ที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในประเทศไทยผ่านเทคโนโลยีภาพเสมือน (VR)

รวมถึง AIS ได้สร้าง Next Reality: AR/VR Studio แห่งแรกของประเทศไทย และส่งต่อองค์ความรู้ สู่สาธารณชน ผ่านแพลตฟอร์ม ‘LearnDi’ ในเรื่องนี้ถือเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการศึกษาที่ค่อนข้างน่าสนใจ หากเกิดการใช้งานในวงกว้างและสามารถเข้าถึงได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำ น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคการศึกษาในระยะยาว

เรื่องของ “ความยั่งยืน”

AIS ร่วมกับ ธรรมศาสตร์ สร้าง SDG Lab หรือ Sustainability Development Goal Lab

ที่จะนำเทคโนโลยี 5G มาพัฒนาใน 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1.Environment 2.Living 3.Farming และ 4.People เห็นได้ชัดว่า เทคโนโลยี 5G มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้กับทุกกลุ่มอุตสาหกรรมหรือในเชิงธุรกิจ

สุดท้าย คุณ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ได้ประกาศ 2 กลยุทธ์สำคัญที่ AIS ตั้งเป้าไว้อย่างท้าทายต่อจากนี้ คือ ต้องการเป็น Thailand Digital Platform และวางตัวเองเป็น Ecosystem Partnership โดยการจะทำให้เกิดขึ้นได้ ต้องได้รับแรงสนับสนุนจาก 3 แกนสำคัญ คือ 1.ภาครัฐ 2.เอกชน และ 3.ผู้บริโภค

งาน AIS 5G FORGING THAILAND’s RECOVER เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เทคโนโลยี 5G มีส่วนช่วยให้เกิดขึ้น และซึ่งหลังจากนี้เราค่อนข้างมั่นใจว่า จะมีสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นตามมาจากการพัฒนาต่อยอดทางเทคโนโลยี 5G อย่างแน่นอน

Advertisements