เมื่อไม่นานมานี้เราอาจจะเคยเห็นประกาศจากประเทศจีนมาแล้วบ้างว่าจะมีการกำหนดระยะเวลาการเล่นเกมของเด็กๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศจีน จังหวัดคากาวะของประเทศญี่ปุ่นเอง ก็เริ่มทดลองออกกฎหมายมาทำแล้วบ้าง แต่ปรากฏว่าเด็กๆ กว่า 90% สอบตกแม้กระทั่งวิชาภาษาญี่ปุ่น
ย้อนกลับไปวันที่ 1 เมษายน ปี ค.ศ. 2020 ณ จังหวัดคากาวะ (Kagawa) หนึ่งในจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่อง “กฎหมายเข้มงวด” และได้ออกกฎ “กำหนดเวลาเล่นเกมของเด็ก” โดยให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเล่นเกมได้วันละ 1 ชั่วโมงและห้ามใช้โทรศัพท์มือถือหลังเวลา 4 ทุ่ม
ส่วนวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ สามารถเล่นได้ 1 ชั่วโมงครึ่ง (90 นาที) ถ้าเกินกว่านี้จะถือว่า “ผิดกฎหมาย” แต่! ไม่ได้มีบทลงโทษอย่างเป็นทางการ หรือจับเด็กไปปรับทัศนคติแต่อย่างใด เป็นการให้ผู้ปกครองรับรู้และลงโทษเด็กด้วยตัวเอง ส่วนเหตุผลนั้นก็เพื่อ “แก้ปัญหาเด็กติดเกม”
และดูเหมือนว่าเมื่อเวลาผ่านไป ผลลัพธ์จากกฎหมายนี้ก็จะเริ่มชี้ชัดขึ้นว่า ปังหรือพัง เพราะในเดือน พฤษภาคม 2021 ได้มีการสำรวจผลการศึกษาของเด็กๆ ชั้นประถมปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวนกว่า 16,000 คน ในจังหวัดคากาวะ
พบว่ากลุ่มตัวอย่างระดับ ป.6 มีคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ สูงขึ้นกว่าเกณฑ์เล็กน้อย ส่วนวิชาภาษาญี่ปุ่นในส่วนของการอ่านและเขียน ตกต่ำลงอย่างมาก ถึงแม้ว่าโดยรวมจะดีขึ้นแต่ก็ยังคงต่ำกว่าเกณฑ์
ส่วนนักเรียนชั้น ม.3 พบว่า 90% ไม่สามารถทำข้อสอบได้ และมีอัตราส่วนของนักเรียนที่ทำข้อสอบไม่ได้ เกินค่าเฉลี่ยรวมจากทั้งประเทศ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่มาจาก “ทักษะการอ่านและเขียน” ของเด็กๆ
ซึ่งทางคณะกรรมการการศึกษาของจังหวัดกำลังหาวิธีแก้ไข แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีท่าทีว่าจะยกเลิกการกำหนดเวลาเล่นเกมของเด็กๆ ส่วนคนญี่ปุ่นก็แสดงความคิดเห็นกันไปว่า
“ที่ผลการเรียนตกอาจจะเป็นเพราะเด็กขาดแรงจูงใจ แทนที่จะมอบความบันเทิงให้เป็นหนึ่งในรางวัลแก่พวกเขา แต่เรากลับไปห้าม”
หรือบางคนก็บอกว่า “วิดีโอเกมจริงๆ ก็เป็นสื่อการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ซึ่งพวกเขาจะได้ซึมซับมันไปเองระหว่างเล่น หรือไม่ เราก็ควรจะสอนให้ความรู้ไปเลยระหว่างเล่นก็เป็นไปได้”
แหล่งข้อมูลเพิมเติม
https://bit.ly/3lSHn2k
https://bit.ly/3n8XmIM
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#trend
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/entertainment/
