- แนะนำหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่าน 20 เล่ม (ชื่อเล่มที่แปลไทยอยู่ในบทความครับ)
- The Power of Habit เขียนโดย Charles Duhigg
- The 80/20 Principle เขียนโดย Richard Koch
- What I Wish I Knew When I Was 20 เขียนโดย Tina Seelig
- inGenius เขียนโดย Tina Seelig
- ความสำเร็จไม่มีข้อยกเว้น เขียนโดย ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ
- Train your brain for success เขียนโดย Roger Seip
- The Lean Startup เขียนโดย Eric Ries
- The Pumpkin Plan เขียนโดย Mike Michalowicz
- What got you here won’t get you there เขียนโดย Marshall Goldsmith
- The Long Tail เขียนโดย Chris Anderson
- Steal Like an Artist เขียนโดย Austin Kleon
- Rework เขียนโดย Jason Fried & David Heinemeier Hansson
- Winning at Innovation เขียนโดย Fernando Trias de bes, Philip Koter
- What women want เขียนโดย Paco Underhill
- Disrupt เขียนโดย Luke William
- Brand Gap เขียนโดย Marty Neumeier
- Buyology เขียนโดย Martin Lindstrom
- The Power of Focus เขียนโดย Jack Canfield
- The art of war for Executives เขียนโดย Donald G. Krause
- Inferno เขียนโดย Dante Alighieri
แนะนำหนังสือ 20 เล่ม ที่ผมอ่านมานานแล้ว แต่ก็ยังเป็นหนังสือที่คลาสสิค เป็นหนังสือที่น่าอ่านจนถึงทุกวันนี้ หลาย ๆ เล่มมีแปลไทย แต่บางเล่มอาจจะหายากสักหน่อยเพราะมันนานมากแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ
1. The Power of Habit เขียนโดย Charles Duhigg | ชาร์ล ดูฮิกก์
เล่มแปลไทยชื่อ: สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยนิสัยแค่ 1%
หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นหนังสือที่ดีที่สุดในหมวดของการสร้างวินัยตั้งแต่ผมเคยอ่านมา
2. The 80/20 Principle เขียนโดย Richard Koch | ริชาร์ด ค้อช
เล่มแปลไทยชื่อ: กฎ 80/20 กฎมหัศจรรย์แห่งจักรวาล
หนังสือเล่าถึงทฤษฎี 80/20 ของพาเรโต หลายคนน่าจะเคยได้ยินกฏเหล่านี้มาแล้วบ้าง โดยหนังสือเล่าเรื่องนี้ออกมาให้เป็นเรื่องที่ย่อยง่ายและสนุก มีกรณีตัวอย่างเยอะแยะมากมาย
3. What I Wish I Knew When I Was 20 เขียนโดย Tina Seelig | ทีน่า ซีลิก
เล่มแปลไทยชื่อ: น่าจะรู้อย่างนี้ตั้งแต่ตอนอายุ 20
หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่เปลี่ยนชีวิตผม ว่าด้วยการชั่งน้ำหนักระหว่างคุณค่าที่เรามี กับเวลาที่เราใช้ เข้าใจถึงวิธีการมุ่งไปสู่เป้าหมาย คนเราอยากได้อะไร และมันมาจากเรื่องอะไร
4. inGenius เขียนโดย Tina Seelig | ทีน่า ซีลิก
เล่มแปลไทยชื่อ: วิชาความคิดที่คุ้มค่าหน่วยกิตที่สุดในโลก
เป็นสุดยอดหนังสืออีกเล่มหนึ่ง พูดถึงศาสตร์และศิลป์ของนวัตกรรม พูดเรื่องนวัตกรรม การเกิดขึ้นของนวัตกรรมในยุคถัดไป คนที่จะเป็นนักนวัตกรรมมีลักษณะนิสัยอย่างไร เป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่าน
5. ความสำเร็จไม่มีข้อยกเว้น เขียนโดย ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ
เรื่องของชีวิตเด็กธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้เกินมาบนกองเงินกองทอง แต่มุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จ เล่มนี้อ่านแล้ววางไม่ลงครับ
6. Train your brain for success เขียนโดย Roger Seip | โรเจอร์ ซีป
เล่มแปลไทยชื่อ: เทคนิคตั้งค่าสมองของคนที่ประสบความสำเร็จ
พูดถึงความลับของสมอง วิธีการกระตุ้นสมองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และเรื่องการบริหารเวลา การจัดบล็อกกิ้งเวลา
7. The Lean Startup เขียนโดย Eric Ries | อีริก รีส์
เล่มแปลไทยชื่อ: สร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ต้องเริ่มตอนที่ไม่พร้อม
เป็นหนังสือที่เหมาะมากสำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ เพราะเล่มนี้พูดเรื่องของการจัดลำดับความสำคัญ การลงทุนในเรื่องของเวลาและเงิน ซึ่งเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่ในช่วง 2-3 ปีแรกเลยนะครับ
8. The Pumpkin Plan เขียนโดย Mike Michalowicz | ไมค์ มิชาโลวิกซ์
หนังสือเล่มนี้สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับผมได้เยอะมาก เป็นการวางวิธีคิด (Mindset) ของเรื่องความคิดสร้างสรรค์ หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วมันมาก ๆ
9. What got you here won’t get you there เขียนโดย Marshall Goldsmith | มาร์แชล โกลด์สมิท
อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณทำสำเร็จมาจนถึงวันนี้ จะพาคุณไปต่อได้ แค่ประโยคนี้บอกเลยต้องอ่านให้ได้ เพราะช่วงนี้มีองค์กรและคนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จในอดีต แต่ไปต่อไม่ได้ หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงว่าอะไรที่ทำให้คนและองค์กรเหล่านี้ไปต่อไม่ได้ และเราจะแก้ไขเรื่องนี้ได้ยังไง
10. The Long Tail เขียนโดย Chris Anderson | คริส แอนเดอร์สัน
เล่มแปลไทยชื่อ: กลยุทธ์ลองเทล
อันนี้เป็นหนังสือที่เหมาะกับ SME มาก เพราะเล่าถึงตลาดเฉพาะกลุ่มที่น่าสนใจ ที่บริษัทใหญ่หลายครั้งก็ไม่ค่อยสนใจตลาดนี้เท่าไหร่
11. Steal Like an Artist เขียนโดย Austin Kleon | ออสติน เคลน
เล่มแปลไทยชื่อ: ขโมยให้ได้อย่างศิลปิน
หนังสือเล่มนี้ตัวอักษรน้อยแต่แนวคิดดี เพราะผมคิดว่าเนื้อหาในเล่มนี้เป็นพื้นฐานของการสร้างความคิดสร้างสรรค์ที่ดีทีเดียวครับ
12. Rework เขียนโดย Jason Fried & David Heinemeier Hansson | เจสัน ฟรายด์ และเดวิด ไฮน์ไมเออร์ แฮนส์สัน
เล่มแปลไทยชื่อ: ยกเครื่องความคิด Rework
เล่มนี้เป็นสุดขอดของหนังสือทางธุรกิจที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เล่มนี้เล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราเห็นเป็นประจำอยู่ในธุรกิจต่าง ๆ ที่เรามองผ่านไปเฉย ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้วควรจะต้องได้รับการแก้ไข
13. Winning at Innovation เขียนโดย Fernando Trias de bes (เฟอร์นานโด ไตรแอส เดอ เบส), Philip Koter (ฟิลิป คอตเลอร์)
เล่มแปลไทยชื่อ: กรุณาทำสิ่งใหม่
พูดถึงเรื่องธุรกิจในยุคของ information age (ยุคข้อมูลข่าวสาร)
14. What women want เขียนโดย Paco Underhill | ปาโค อันเดอร์ฮิลล์
เล่มแปลไทยชื่อ: เจาะใจสาวนักช็อป
ในโลกนี้คนที่ซื้อของเยอะจริง ๆ คือผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ดังนั้น หนังสือเล่มนี้ก็จะพูดถึงผู้บริโภคที่เป็นผู้หญิง และความคิดของผู้หญิงที่มีการทำงานที่แตกต่างจากผู้ชาย ผู้บริหารที่เป็นผู้ชายควรอ่าน คุณจะได้เข้าใจว่าลูกค้าของคุณเป็นอย่างไร และคุณอาจจะเข้าใจแฟนหรือภรรยาของคุณมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งอันนี้เป็นผลพลอยได้(ที่ดีมาก ๆ )ครับ ^_^
15. Disrupt เขียนโดย Luke William | ลุค วิลเลี่ยม
เล่มนี้พูดถึงวิธีการหา ไอเดียที่ยิ่งใหญ่เจ๋ง ๆ (Big idea) ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า Disruptive Thinking เป็นหนังสือที่อ่านจบแล้วนำไปปรับใช้ได้เลยครับ
16. Brand Gap เขียนโดย Marty Neumeier | มาร์ตี นิวไมเออร์
เล่มแปลไทยชื่อ: แบรนด์แก๊ป
เล่มนี้พูดถึงเรื่องแบรนด์ว่า แบรนด์ในยุคนี้อยู่ในมือของผู้บริโภคหมดแล้ว แบรนด์จะพูดอะไรก็เรื่องของคุณ ลูกค้าไม่ได้พูดแบบนั้นด้วย (ไม่เชื่อสิ่งที่แบรนด์พูด)
17. Buyology เขียนโดย Martin Lindstrom | มาร์ติน ลินด์สตรอม
เล่มแปลไทยชื่อ: ตาดู หูฟัง สมองซื้อ มือจ่าย
พูดถึงการทำงานของสมองเวลาที่กำลังจะตัดสินใจซื้อสินค้า โดยจะเน้นไปที่ผลตอบรับของสมองต่อการถูกกระตุ้นด้วยเครื่องมือทางการตลาด และพูดถึงการทำวิจัยตลาดในอดีต-อนาคตว่ามันจะแตกต่างกันยังไง และจะสามารถปรับให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง
18. The Power of Focus เขียนโดย Jack Canfield / Mark Hansen / Les Hewitt
เป็นหนังสือเกี่ยวกับการบริหารจัดการเวลาที่ไม่เบาไม่หนักจนเกินไป
19. The art of war for Executives เขียนโดย Donald G. Krause | โดนัลด์ จี. เคราส์
เป็นหนังสือเกี่ยวกับตำราพิชัยสงคราม ที่เราสามารถนำมาปรับใช้ในการบริหารคนได้ครับ เล่มนี้อ่านสนุกดีไม่โหดจนเกินไป
20. Inferno เขียนโดย Dante Alighieri | ดันเต อาลีกีเอรี
ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้ให้แง่คิดในเรื่องของการเล่าเรื่องที่ดีมาก เวลาที่คุณเล่าเรื่องผ่านตัวอักษรและทำให้คนเห็นภาพตามได้ จิตนาการได้ และสนุกไปกับการจิตนาการ มันเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่เจ๋งมาก
ส่วนตัวผมชอบทั้ง 20 เล่มนี้เลยครับ?