ในตอนที่กำลังจะเริ่มทำงานอยู่แล้วเชียว จัดโต๊ะ เปิดคอม เตรียมพร้อมทำงานเรียบร้อย! แต่จู่ๆ เสียงแจ้งเตือนบนโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา “ติ๊ง!”
สายตาเจ้ากรรมก็พลันเบนออกจากหน้าจอคอมไปยังช่องแชตที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ทันที
ถ้าอย่างนั้นขอตอบแชตก่อนหน่อยละกัน ถือว่าพักเบรกสักแป๊บ
แต่พอตอบแชตเสร็จ ก็แอบไถเฟซบุ๊ก แล้วก็ดูอินสตาแกรมต่อ ไปๆ มาๆ สรุปแล้ว เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง ในขณะที่งานเพิ่งจะทำไปได้ไม่ถึง 5 นาที…
พอทำงานที่บ้านแบบนี้ งานก็เยอะ สิ่งรบกวนก็แยะ ขนาดพยายามนั่งทำงานทั้งวันแล้ว แต่ก็ชอบสติหลุด งานแทบไม่คืบหน้าขึ้นเลย ทำยังไงดี?
ไม่เป็นไร วันนี้เราเอาวิธีแก้ด้วย ‘เทคนิคมะเขือเทศ’ ร้อนๆ มาเสิร์ฟให้คุณแล้ว!
การบริหารเวลาแบบ Pomodoro
มะเขือเทศที่ว่า ไม่ได้แปลว่าจะให้กินมะเขือเทศเพื่อทำงานให้เสร็จแต่อย่างใด แต่เป็นชื่อของวิธีที่เรียกว่า ‘Pomodoro Technique’
ซึ่งคำว่า Pomodoro มีความหมายว่า มะเขือเทศ ในภาษาอิตาเลียน ชื่อเทคนิคน่ารักๆ นี้ก็ได้มาจากนาฬิการูปทรงมะเขือเทศของ Francesco Cirillo ผู้คิดค้นเทคนิคนี้ขึ้นมาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 ก่อนจะกลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายขึ้น หลังจากได้รับการยืนยันจากหลายๆ เสียงแล้วว่า “วิธีนี้ได้ผลจริง!” เพราะสามารถกลับมาโฟกัสในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น ทำให้หลายๆ คนเองก็อาจจะรู้สึกคุ้นหู รู้จักเทคนิคการทำงานสุดคลาสสิกอันนี้กันอยู่ก่อนแล้ว แต่วันนี้เราอยากให้ทุกคนได้ลองกลับมาใช้เทคนิคนี้กันดูอีกครั้ง
เพราะเทคนิค Pomodoro เหมาะมากสำหรับคนที่รู้สึกว่าตัวเองชอบหลุดโฟกัสอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงทำงานที่บ้านแล้วยิ่งมีสิ่งรบกวนเยอะแบบนี้ สมาธิก็ไม่ค่อยจะมี จดจ่ออยู่กับอะไรนานๆ ก็ไม่ไหว ถ้าใครที่เป็นแบบนี้อยู่เหมือนกันก็ควรต้องลองหันกลับมาใช้เทคนิค 4 ขั้นของ Pomodoro กันดูแล้วล่ะ!
ถ้าอย่างนั้น มาลองทำตาม Pomodoro Technique บริหารเวลาไปพร้อมๆ กันดีกว่า
STEP 1
จัดรายการสิ่งที่ต้องทำออกมาว่า มีกี่งาน งานอะไรบ้าง ควรทำงานชิ้นไหนก่อนหรือหลัง
>> รู้จักวิธีจัดลำดับการทำงาน ด้วย Eisenhower Matrix ได้ที่นี่
STEP 2
ตั้งเวลานาฬิกาปลุก 25 นาที หรือใช้แอปพลิเคชัน Pomodoro Timer เป็นตัวช่วย แล้วเริ่มทำงานกันได้เลย! ภายในเวลา 25 นาทีนี้ ห้ามว่อกแว่กเผลอหยิบมือถือมาเล่นหรือทำอะไรอย่างอื่นโดยเด็ดขาด ให้โฟกัสแค่งานตรงหน้าอย่างตั้งใจจริงๆ เท่านั้น
STEP 3
เสร็จแล้วก็ได้เวลาพักสักที ให้เวลาตัวเองเบรกต่อ 5 นาที ครบแล้วก็ถือว่านับเป็นหน่วย 1 Pomodoro ก่อนกลับมาทำงานอีก 25 นาที สลับไปมาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แต่ที่สำคัญคือต้องมีวินัย อย่าโกงเวลากันนะ
STEP 4
ทำอย่างนี้ไปจนครบ 4 ครั้ง แล้วจะสามารถเปลี่ยนไปพักแบบยาวๆ ได้ 15-30 นาที ก่อนจะวนกลับไปทำงานตามสเต็ป 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทำงานนั้นๆ เสร็จสิ้นก็เป็นอันเรียบร้อย!
ข้อดีของการบริหารเวลาแบบ Pomodoro
ข้อดีของเทคนิคนี้คือ จะช่วยฝึกนิสัยให้จัดการเวลาได้ดียิ่งขึ้น สำหรับคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง แถมช่วยให้ไม่ต้องเหนื่อยกายเหนื่อยใจ ทนทำงานหนักๆ ทีเดียวเป็นเวลานานๆ สามารถให้เวลาตัวเองได้พักผ่อน เป็นการป้องกันอาการ Office Syndrome ได้พักลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้าง และไม่ต้องนั่งจ้องหน้าจอคอม เสียสายตาติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อีกด้วย
แต่มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย สำหรับบางคนก็อาจรู้สึกกดดันกับเวลาที่มีอย่างจำกัด แถมบางงานอาจต้องใช้มากกว่า 25 นาที ทำให้บางครั้ง เวลาอาจไม่เพียงพอในแต่ละรอบ พอได้พักก็จะขาดตอน กลับมาทำงานก็อาจต่อไม่ติด หรือบางคนที่ต้องทำงานติดต่อกับคนอื่นอยู่บ่อยๆ ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับวิธีนี้เท่าไรนัก
เพราะอย่างนั้น วิธีนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีสมาธิกับอะไรนานๆ ไม่ได้ ชอบเลื่อนเวลาเริ่มทำงานไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามีกำหนดเวลาแล้วว่า “ต้องทำงาน 25 นาทีนะ” ก็จะเป็นการช่วยบังคับตัวเองให้สามารถโฟกัสงาน และเวลาพักได้ชัดเจนขึ้น และเพราะว่าเป็นเวลาแค่ 25 นาทีสั้นๆ ก็จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายว่า “ทนอีกนิดก็จะได้พักแล้ว” ไม่ต้องทนทำงานยาวๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป จนต้องแอบหนีไปพักระหว่างทางอยู่บ่อยๆ นอกจากจะใช้ในการทำงานได้แล้ว ยังสามารถใช้ในกรณีอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น ใช้เวลาจะอ่านหนังสือ หรือจะทำอะไรสักอย่างที่ต้องการสมาธิ ก็สามารถใช้วิธีนี้ช่วยโฟกัสสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้นได้เหมือนกัน
การเลือกวิธีจัดการงานก็ยังมีอีกหลากหลายทาง สามารถเลือกใช้วิธีทำงานให้เหมาะสมกับงานแต่ละแบบ และความถนัดของแต่ละคน ด้วยการลองทำหลายๆ วิธี เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดกันดู
แต่สุดท้าย ขอย้ำไว้อีกรอบก่อนว่า ‘ทำงาน 25 นาทีและพัก 5 นาที’ อย่าเผลอทำสลับกันนะ!
อ้างอิง:
#selfimprovement
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/
