BUSINESSใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน ไม่มีเป้าหมาย ไม่กดดัน แต่ทำไมถึงไม่มีความสุข?

ใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน ไม่มีเป้าหมาย ไม่กดดัน แต่ทำไมถึงไม่มีความสุข?

เคยถามตัวเองไหมว่า.. ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตแบบไหนอยู่

ตื่นขึ้นมาทำงานเพื่อรอเวลาเลิกงานหรือเปล่า ภาวนาให้จันทร์-ศุกร์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้ใช้ชีวิตในวันเสาร์-อาทิตย์ใช่ไหม และพอเสาร์-อาทิตย์ เราก็จะออกไปเที่ยว ไม่ก็ใช้เวลาไปกับการนอนดูซีรีส์และไถหน้าจอโทรศัพท์ ในขณะที่ในใจอยากให้เวลาเดินช้าๆ เพื่อให้วันจันทร์ห่างออกไปอีกหน่อย

ในโลกที่หลายคนอยากมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ เรายืนกรานที่จะใช้ชีวิตแบบมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ รอบตัวในแต่ละวัน ไม่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ และไม่กดดันตัวเอง เพราะทุกวันนี้ก็เจอเรื่องหนักๆ พอแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลายต่อหลายครั้งเรารู้สึกว่าชีวิตของเรามันช่างเล็กเหลือเกิน และตัวเรานั้นไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย
หลายต่อหลายครั้ง.. เราอดถามตัวเองไม่ได้ว่า “ชีวิตมันก็แค่นี้หรือ”
ไม่ได้ฝันยิ่งใหญ่ ไม่ได้แข่งกับใคร และไม่ได้กดดันตัวเองแล้วนี่ แต่ทำไมความรู้สึกไม่มีความสุขและไม่พึงพอใจในชีวิตผุดขึ้นมาบ่อยๆ
หรือบางที.. การใช้ชีวิตไปวันๆ แบบนี้กำลังทำให้เราไม่มีความสุขกันแน่นะ?

เข้าใจวิธีคิดของมนุษย์กันก่อน

หากการใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขนัก แต่ทำไมเราถึงลงเอยด้วยการใช้ชีวิตแบบไม่คิดอะไรเช่นนี้นะ? ในหนังสือ Thinking Fast and Slow (ชื่อไทย: คิด, เร็วและช้า) ของแดเนียล คาห์นเมน ได้อธิบายไว้ว่า ระบบการคิดของมนุษย์เรามีสองแบบ

“คิดแบบเร็ว” คือการคิดอย่างรวดเร็วและไม่ตั้งใจ สิ่งนี้เกิดขึ้นอัตโนมัติราวกับว่าเรากำลังเปิดโหมด Autopilot อยู่ และมักใช้ในการตัดสินใจเรื่องที่ไม่ต้องคิดเยอะ เช่น การซักผ้า หรือ การขับรถ

“คิดแบบช้า” คือการคิดแบบตั้งใจ ใช้สติ และความพยายาม การคิดแบบนี้จะต้องใช้สมาธิและพลังงานมากกว่า มักใช้ในการตัดสินใจเรื่องสำคัญอย่าง จะซื้อรถอะไร จะซื้อบ้านแบบไหน หรือจะแต่งงานกับใคร

แต่สมองของมนุษย์นั้นขี้เกียจ เลยมีแนวโน้มว่าจะคิดแบบเร็วอยู่บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราคุ้นชินและมักจะทำตามแบบเดิมโดยไม่ฉุกคิด เช่น การตื่นมาเล่นโทรศัพท์สัก 10-20 นาที
เดินทางไปทำงาน กินข้าว ขับรถ กลับบ้าน ดูซีรีส์ เล่นโทรศัพท์ นอน ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากลัวคือบ่อยครั้งในเรื่องสำคัญอย่าง “เราจะใช้ชีวิตแบบไหน” เรากลับไม่ได้ไตร่ตรองอย่างจริงจัง แต่กลับใช้วิธีคิดแบบ Autopilot เลือกสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด เร็วที่สุด อย่างการไม่ทำอะไรกับชีวิตเลยนั่นเอง

จะใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างตั้งใจและมีความสุขมากขึ้นได้อย่างไร

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเปิดโหมด Autopilot ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แบบคิดเร็วๆ เช่นนี้อยู่? พอจะมีวิธีใดบ้างไหมที่ช่วยให้เราใช้แต่ละวันอย่างมีเป้าหมายและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น?

Advertisements

1) ถามตัวเองว่าขับเคลื่อนชีวิตด้วยโหมดอะไรอยู่

มีสติและตระหนักถึงพฤติกรรมของเรา สำรวจตัวเองด้วยคำถามว่า เราใช้ชีวิตไปวันๆ เช่นนี้เพราะเราต้องการจริงหรือ? หรือมันแค่เกิดขึ้นเองเพราะการใช้ชีวิตแบบนี้มันง่ายกว่า? เราอาจลองสำรวจตัวเองผ่านเช็กลิสต์นี้ดูว่ากำลังเปิดโหมด Autopilot อยู่หรือเปล่า

กิจวัตรประจำวันของเรานั้นจำเจ
เช่น เราใช้ชีวิตจันทร์-ศุกร์เพื่อรอคอยวันหยุด หรือ การใช้ชีวิตทั้งเดือนเพื่อรอคอยวันเงินเดือนออก

ใช้ชีวิตเพื่อตามใจผู้อื่น
เราพยายามเป็นคนที่สังคมและผู้อื่นคาดหวัง โดยไม่ได้ถามตัวเองจริงๆ ว่าต้องการอะไร

 เปิดโหมดออนไลน์อยู่ตลอด
เราใช้ชีวิตแบบวิ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ โดยไม่ได้หยุดเพื่อตั้งคำถามว่าเรารู้สึกอย่างไร เราทำอะไรอยู่ และสิ่งที่ทำอยู่ใช่สิ่งที่เราอยากทำหรือเปล่า

รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว
เราจำแทบไม่ได้ว่าวันๆ ทำอะไรไปบ้าง แต่รู้ว่าเวลาผ่านไปเร็ว รู้ตัวอีกทีก็จะสิ้นปีแล้ว แต่เรายังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

รู้สึกว่าไม่ทันคนอื่น
รู้สึกอยากเป็นและอยากมีเหมือนคนอื่น ทั้งในเรื่องของนอกกายและเรื่องความรู้ความสามารถ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เราไม่มีความสุขอยู่บ่อยๆ

2) ตั้งค่าGPSกันก่อนออกเดินทาง

หลายคนอาจต่อต้านการมีเป้าหมายเพราะมองว่ามันเป็นเรื่องกดดัน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยพบว่าหากเราตั้งเป้าหมายที่ดูเป็นไปได้ เราจะมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น! แม้จะทำตามเป้าหมายสำเร็จหรือไม่ก็ตาม

เป้าหมายในชีวิตของเราคืออะไร? หรือเป้าหมายระยะสั้นภายใน 1 ปีของเรามีอะไรบ้าง? ลองตั้งเป้าไว้ก่อน อย่างน้อยเราจะรู้สึกว่ามีจุดหมายและไม่ได้กำลังหลงทาง

เมื่อตั้งเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งที่ควรทำก่อนออกเดินทางคือเชื่อมั่นในตัวเองว่า เราคือผู้เขียนเรื่องราวชีวิตของเราเอง และถ้าเราตั้งใจจริงๆ เราทำได้แน่นอน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พร้อมกับลบแนวคิดแบบพ่ายแพ้ (Defeatism Mindset) และความคิดลบๆ ในหัวออกไปเสียก่อน

Advertisements

3) ทำชีวิตประจำวันให้มีความหมายอีกครั้ง

หากสังเกตดูชีวิตประจำวันของเรา จะพบว่ามีแต่เรื่องที่เราทำไปด้วยความเคยชิน และไม่ได้สอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตเท่าไรนัก
แต่เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว คราวนี้เราลองมาเพิ่มกิจวัตรประจำวันที่สอดคล้องกับเป้าหมายดูไหม (เช่น หากปีนี้อยากลดน้ำหนัก อาจลองเริ่มต้นเล็กๆ ด้วยการเดิน 30 นาทีในทุกๆ วัน) และอย่าลืมทำกิจวัตรใหม่นี้อย่าง “คิดแบบช้า” ด้วยนะ!

และหากเรารู้สึกว่าชีวิตเริ่มน่าเบื่อ อาจลองท้าทายตัวเองให้ออกจากคอมฟอร์ตโซนด้วยการลองอะไรใหม่ๆ บ้าง เพียงทำกิจกรรมใหม่ๆ เดือนละครั้งก็มีเรื่องให้เราใช้ชีวิตอย่างตั้งใจและตั้งตารอแล้ว

4) เริ่มต้นทันทีเพราะเวลาที่ใช่ไม่มีอยู่จริง

Lana Blakely คือยูทูบเบอร์สาวที่เริ่มจากการอัดวิดีโอตัวเองด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่ ฉากหลังธรรมดาๆ แถมยังพูดไม่ค่อยเก่ง จนตอนนี้เธอพัฒนาและมีผู้ติดตามเกือบ 1 ล้านคน

เธอได้แชร์เคล็ดลับความสำเร็จของเธอไว้ว่า บนโลกนี้ไม่มี “เวลาที่ใช่” หรอก หากเรารอคอยจนทุกอย่างสมบูรณ์แบบ เราคงไม่ได้ไปไหนสักที ดังนั้นเริ่มจากสิ่งที่เรามีอยู่ในวันนี้ แล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะดีกว่า

5) เช็กอินกับตัวเองบ้าง

เพื่อป้องกันการกลับไปใช้ชีวิตเรื่อยๆ แบบเปิด Autopilot ลองหาเวลาทุกๆ เดือนหรือสามเดือน มาเช็กอินกับตัวเองว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เราใช้ชีวิตแบบไหน? และยังทำตามเป้าหมายอยู่หรือเปล่า?

6) สร้างวิธีตามหาความหวัง

ช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดในการเดินทางของชีวิต คือ ช่วงเวลาที่เรารู้สึกสิ้นหวัง ซึ่งมักเกิดขึ้นจากความผิดหวัง ความเหนื่อยล้า และปัจจัยอื่นๆ อย่างสภาพร่างกายและจิตใจ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ความสิ้นหวังนั้นทำให้เรารู้สึกไม่อยากตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน ทำให้เราสับสน ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตไปเพื่ออะไร และเพื่อใคร

ในช่วงเวลาอันมืดมนเช่นนี้ เราจะตามหาแสงแห่งความหวังอีกครั้งได้อย่างไร
บทความ Finding Hope When Things Feel Gloomy จาก The New York Times ได้แนะนำว่า เราควรเตรียม “ชุดเครื่องมือ” ที่จะช่วยสร้างความหวังไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ อาจเป็นการหารูป เพลง คำคม วิดีโอ หนัง บทความ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังให้เรา ทำให้เรารู้สึกที่จะอยากมีชีวิตต่อ

แค่บทความหรือวิดีโอก็ช่วยเราแล้วหรือ? ฟังดูตื้นเขินใช่ไหม แต่งานวิจัยพบว่าของต่างๆ ที่เรารวบรวมไว้เพื่อสร้างความหวังนี้ ได้ช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายให้ไม่รู้สึกสิ้นหวังได้จริงๆ ดังนั้นเตรียมสิ่งของไว้สำหรับวันแย่ๆาก็ไม่เสียหายนะ มันอาจช่วยได้มากกว่าที่เราคิดด้วยซ้ำ
เราใช้ชีวิตอยู่ หรือแค่มีชีวิตอยู่? อาจเป็นคำถามที่ต้องถามตัวเองในบางช่วงเวลาของชีวิต ถ้าหากเราพบว่าเราเพียงแต่มีชีวิตอยู่ ลองถามตัวเองต่ออีกว่าแล้วเรามีความสุขไหมกับชีวิตแบบนี้?

ถ้าหากเรามีความสุข นั่นก็เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง แต่สำหรับใครหลายๆ คนที่ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น ลองทำตาม 6 วิธีเหล่านี้ อย่างการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้ชีวิต เราอาจทำให้แต่ละวันของเรามีความหมายและมีความสุขมากขึ้นก็ได้นะ


อ้างอิง
https://bit.ly/3wEABSu
https://nyti.ms/3m24ZAo
https://bit.ly/3KwBlyP
.
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ
– 5 คำถามที่ตอบตัวเองแล้วจะมีความสุขกับวันนี้มากขึ้น : https://bit.ly/3pIyObe
– 6 เรื่องเกี่ยวกับชีวิตที่ “น่าจะรู้แบบนี้ตั้งนานแล้ว” : https://bit.ly/3Rpogdb

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration

 

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า