ยูนิคอร์นหลบไป! รู้จัก 10 บริษัท ‘เดคาคอร์น (Decacorn)’ ที่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

2285
เดคาคอร์น

Epic Games บริษัทผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกมระดับโลก

SpaceX บริษัทผลิตอากาศยานชื่อดังของอีลอน มัสก์

Tesla ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก

Advertisements

ทุกคนรู้หรือไม่ว่า ชื่อบริษัทที่คุ้นหูคนทั้งโลกเหล่านี้ จริงๆ แล้วคือเหล่า “สตาร์ตอัป” ซึ่งเป็นบริษัทที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความคิดที่อยากจะแก้ไขปัญหาอะไรสักอย่าง และสามารถที่จะสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจ บริษัทในระยะแรกจึงมักจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก และมีสินทรัพย์เป็นไอเดียหรือทรัพย์สินทางปัญญา

โดยในปัจจุบันทั่วโลกมีสตาร์ตอัปที่สร้างมูลค่าได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่าเป็น “ยูนิคอร์น” มากกว่า 800 บริษัท ซึ่งสร้างความสำเร็จไว้ในหลายวงการทั้งซอฟต์แวร์ การดูแลสุขภาพ ยานยนต์ และอื่นๆ

แต่นอกจากความสำเร็จระดับยูนิคอร์นแล้ว โลกสตาร์ตอัปยังมีคำเรียกสำหรับบริษัทที่สร้างมูลค่าไปได้ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วย ซึ่งก็คือคำว่า “เดคาคอร์น (Decacorn)” และในปี 2021 นี้ ก็มีสตาร์ตอัปที่ผงาดถึงระดับเดคาคอร์นกันถึง 35 บริษัทซึ่งสามารถขยายสาขาออกไปในหลายประเทศและวงการอุตสาหกรรม 

สำหรับสตาร์ตอัปที่ติดโผอันดับ 1 บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกในปี 2021 นี้ ได้แก่ “Bytedance” บริษัทโซเชียลมีเดียผู้พัฒนาแพลตฟอร์มแอปฯ Douyin หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “TikTok” ที่สามารถสร้างมูลค่าให้บริษัทได้ทะลุ 1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ SpaceX ที่เราคุ้นเคยกันดี ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนทางด้านธุรกิจการขนส่งทางอวกาศจากประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดยอีลอน มัสก์ บริษัทนี้สามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเทคโนโลยีอากาศยานสุดล้ำอย่าง Falcon 9

ในขณะที่ Stripe บริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการด้านการชำระเงิน ตามมาเป็นอันดับ 3 ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มูลค่าของบริษัทได้กระโดดจาก 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ สู่ 9.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่เราอาจไม่ค่อยคุ้นหูนักอย่าง Klarna ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีการเงินจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็สามารถสร้างกำไรถึง 4.56 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับ 4 ของโลก และ Canva แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกที่กำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยเองด้วย ก็ทำรายได้สูงตามมาเป็นอันดับ 5 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ 

Advertisements

แล้วยูนิคอร์น (Unicorn) – เดดาคอร์น (Decacorn) เติบโตในอุตสาหกรรมไหนมากที่สุด?

หากเราเจาะลึกรายชื่อยูนิคอร์นหรือเดคาคอร์นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็จะเห็นได้ว่า บริษัทที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยี ยังคงเป็นราชาในแวดวงการลงทุน โดยกว่า 77% ของยูนิคอร์นที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีล้วนมีมูลค่าเกิน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และโดยส่วนมาก บริษัทเหล่านี้จะให้บริการด้านการเงินและ Software Commerce

แม้จะมีอีกหลายแห่งที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงเทคโนโลยี แต่แก่นของบริษัทก็ยังคงเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอยู่ดี อย่างเช่น J&T Express บริษัทด้านการขนส่งจากอินโดนีเซีย ที่แม้จะอยู่ในอุตสาหกรรมด้านการขนส่ง แต่ก็มีหัวใจหลักคือเทคโนโลยีคัดแยกอัตโนมัติในโกดังเก็บพัสดุเช่นกัน

โดยประเทศต้นกำเนิดของเหล่าเดคาคอร์นส่วนใหญ่คือประเทศสหรัฐฯ และจีน ซึ่งมีจำนวนรวมกันประมาณ 70%

อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่า มูลค่าทางตลาดสามารถพลิกผันและมีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้โลกเรายังคงมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยูนิคอร์นตัวต่อไปที่จะสร้างมูลค่าได้ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อาจไม่ได้มาจากประเทศยักษ์ใหญ่เสมอไป หรือไม่แน่อาจมาจากประเทศไทยก็เป็นได้

เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง:
บทเรียนการสร้างโอกาส เจาะตลาดต่างประเทศภายใต้วิกฤตกับสอง SMEs ไทย

แปลและเรียบเรียงจาก:
https://bit.ly/3DTLqB8
https://bit.ly/3GIZMG8
https://bit.ly/326ZwlA

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#business

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่