หลังจากประชากรในหลายประเทศทั่วโลกได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้หลายประเทศได้มีนโยบายคลายล็อกดาวน์ให้กลับไปใช้วิถีชีวิตตามแบบปกติ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีผลกระทบบางประการที่หลงเหลือจากความวิตกกังวล หลังผู้คนต้องกลับไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่อีกครั้ง
เมื่อการต้องติดอยู่แต่ภายในบ้านกินระยะเวลายาวนานเป็นปี ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เคยชินกับการกิน การนอน และการทำงานที่บ้าน จนเป็นนิสัย รวมไปถึง ‘การถ่ายหนัก’ ด้วยเช่นกัน
สหราชอาณาจักรนับว่าเป็นประเทศแรกๆ ที่เริ่มมีการคลายล็อกดาวน์ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้หลายกิจการกลับมาพิจารณาการทำงานแบบปกติ บริษัทหลายแห่งเริ่มให้พนักงานกลับไปทำงานที่ออฟฟิศตามเดิม
แต่จากผลสำรวจคนวัยทำงานกว่า 20,000 คนทั่วประเทศ พบว่า กว่า 18% ไม่อยากกลับไปทำงานที่ที่ทำงาน ด้วยสาเหตุที่ว่า “ไม่สบายใจที่จะถ่ายหนักที่ออฟฟิศ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีผู้หญิงถึง 67% ตอบว่า ไม่กล้าที่จะขับถ่ายที่ออฟฟิศ ทั้งเพราะความเคยชินจากการถ่ายหนักที่บ้านมาโดยตลอดช่วง Work From Home รวมถึงอึดอัดสายตาของเพื่อนร่วมงาน หากตนเองต้องเข้าห้องน้ำเป็นเวลานาน และคิดว่าการเข้าห้องน้ำสาธารณะส่วนใหญ่นั้น ไม่มีความเป็นส่วนตัวเอาเสียเลย
ส่งผลให้บางคนเลือกที่จะ ‘อั้น’ รอกลับไปถ่ายหนักที่บ้าน หรือหากทนไม่ไหวจริงๆ ก็จะเลือกเข้าห้องน้ำที่ไม่ใช่ชั้นที่ตนเองทำงานอยู่ หรือบางส่วนก็ยอมเลือกที่จะกลับบ้านตัวเองเพื่อไปขับถ่ายตอนนั้นเลย
ไม่เพียงเท่านั้น ผลสำรวจยังพบว่า ชาวอังกฤษกว่า 53% ยอมลาออกจากที่ทำงาน หากห้องน้ำที่ทำงานไม่น่าขับถ่าย หรือทำให้รู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องเข้าไปขับถ่าย
แม้ปัญหาการขับถ่ายจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องที่เล็กน้อยเหล่านี้เองที่อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงตามมาได้
หลังจากนี้ในหลายบริษัทคงต้องกลับมาพิจารณาเรื่องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน และใส่ใจถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบริษัทกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังมีการคลายล็อกดาวน์ ควรจะมีการร่วมกันพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานบางอย่าง เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของพนักงาน
อ้างอิง:
https://r29.co/3BdcL0N
https://bit.ly/2WrhlJo
https://bit.ly/3mbRLB7
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/news/
