“เวลาเปลี่ยนไป อะไรๆ ก็เปลี่ยนตาม”
ประโยคนี้เราสามารถหยิบมาใช้ได้เสมอ เพราะหากเราลองสังเกตโลกรอบตัวดูก็จะรู้ว่าอะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปมากจริงๆ บ้างก็อาจจะเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง บ้างก็อาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายที่สุด ก็คงจะเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่อยู่รอบตัวเรา
เราต่างก็ทราบกันดีว่ามนุษย์นั้นไม่เคยหยุดเดินแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม จึงทำให้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “Computer Vision” หรือ “คอมพิวเตอร์วิทัศน์” ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในสังคมมนุษย์ โดยที่หลายคนไม่เคยสังเกตมาก่อน
คอมพิวเตอร์วิทัศน์คืออะไร?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ นำเอา AI มาใช้กับธุรกิจกิจของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ “คอมพิวเตอร์วิทัศน์”
หลายคนอาจรู้สึกแปลกหูกับคำว่า “คอมพิวเตอร์วิทัศน์” เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่จริงๆ แล้วสิ่งนี้คือหนึ่งในสาขาของ AI ที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำความเข้าใจโลกทางกายภาพผ่านภาพหรือวิดีโอ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คอมพิวเตอร์วิทัศน์สามารถวิเคราะห์ภาพและวิดีโอ เพื่อรับรู้และทำนายสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในภาพหรือวิดีโอนั้น เช่น การจดจำใบหน้ามนุษย์ การตรวจจับวัตถุ หรือการวิเคราะห์การเคลื่อนไหว
ซึ่งข้อดีอีกอย่างหนึ่งของคอมพิวเตอร์วิทัศน์คือ เมื่อองค์กรต่างๆ ต้องการนำ AI มาใช้ในธุรกิจของตัวเอง แต่การฝึก AI นั้นต้องใช้ข้อมูล Metadata จำนวนมหาศาล รวมถึงต้องใช้เวลาในการประมวลผล ซึ่งจะทำให้การทำงานของระบบเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย แต่คอมพิวเตอร์วิทัศน์สามารถเข้ามาช่วยเร่งและลดระยะเวลาในการฝึกให้เร็วขึ้นได้
เมื่อทุกอย่างรวดเร็วขึ้น ธุรกิจก็จะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งขึ้นได้ ก็เรียกได้ว่า คอมพิวเตอร์วิทัศน์ที่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีนั้นสามารถเป็นผู้ช่วยที่ดีให้กับธุรกิจได้
ไม่ได้มีประโยชน์แค่กับธุรกิจ แต่ยังรวมถึงชีวิตประจำวัน
เมื่อพูดถึงคำว่า เทคโนโลยี หรือ AI หลายคนมักจะคิดว่าไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับตัวเอง แต่จริงๆ แล้วนอกจาก AI จะมีประโยชน์กับธุรกิจแล้ว ยังมีประโยชน์ในชีวิตประจำวันอีกด้วย มาลองสำรวจไปพร้อมๆ กันว่า คอมพิวเตอร์วิทัศน์มีประโยชน์ต่อธุรกิจและชีวิตประจำวันอย่างไรได้บ้าง
1. ปรับปรุงกระบวนการผลิต
กระบวนการผลิตถือเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญของธุรกิจ เพราะมีความเกี่ยวข้องตั้งแต่การวางแผนการผลิต การควบคุมการผลิต การตรวจสอบการผลิต ไปจนถึงเรื่องค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่างๆ ถ้ามีกระบวนการผลิตที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็อาจส่งผลเสียต่อการบริหารและการจัดการการผลิตได้
อย่างไรก็ดี คอมพิวเตอร์วิทัศน์สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตได้ ผ่านการลดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิตโดยการตรวจสอบสินค้าและตรวจจับข้อผิดพลาดโดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลให้มีคุณภาพสินค้าที่ดีขึ้นและลดค่าในการตรวจสอบแบบด้วยมือ
2. พัฒนาระบบการจดจำและการรู้จำ
ความปลอดภัยถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทั้งคนทำธุรกิจและคนทั่วไปให้ความสำคัญ คอมพิวเตอร์วิทัศน์ก็สามารถเข้ามาช่วยเรื่องนี้ได้เช่นกัน เช่น นำมาใช้ในระบบเปิดประตูด้วยการจดจำใบหน้า หรือระบบตรวจสอบการเข้าถึงระบบด้วยลายนิ้วมือ ซึ่งจะทำให้เรามีระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้นอย่างแน่นอน
3. ปรับปรุงกระบวนการธุรกิจ
สำหรับคนทำธุรกิจแล้ว สิ่งที่พลาดไปไม่ได้คือการทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า เพราะจะได้ออกแบบสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้สินค้าและบริการของตัวเอง คอมพิวเตอร์วิทัศน์ก็สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและการทำนายความต้องการของลูกค้า เพื่อปรับปรุงการบริการและยอดขายได้เช่นกัน
4. พัฒนาระบบยานยนต์อัตโนมัติ
หากใครเป็นสายที่ชื่นชอบรถยนต์อัตโนมัติหรือหากใครที่กำลังทำธุรกิจสายนี้อยู่ ก็ต้องบอกว่าคอมพิวเตอร์วิทัศน์เป็นส่วนสำคัญของระบบยานยนต์อัตโนมัติ ที่สามารถช่วยให้ยานยนต์สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องมีคนขับ ซึ่งเปิดโอกาสใหม่ในการขนส่งและการเดินทางสายไกล
โดยคอมพิวเตอร์วิทัศน์นั้นเป็นเหมือนส่วนของการรับรู้ของรถ พูดง่ายๆ ก็คือนำมาใช้ในส่วนของกล้อง เรดาร์ และเลเซอร์ เพื่อให้รถที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถรับรู้ได้ว่ามีสิ่งใดอยู่ไกลหรือไกลนั่นเอง
5. ค้นพบข้อมูลความรู้ใหม่จากรูปภาพ
คอมพิวเตอร์วิทัศน์สามารถนำเสนอข้อมูลที่มีรูปภาพในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และช่วยในการค้นพบความรู้ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนจากข้อมูลที่มีขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าคอมพิวเตอร์วิทัศน์สามารถวิเคราะห์ภาพและวิดีโอ เพื่อรับรู้และทำนายสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในภาพหรือวิดีโอนั้นได้
แม้แต่บริษัทชื่อดังก็ยังใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์
แม้ว่าหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อคอมพิวเตอร์วิทัศน์มาก่อน แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งนี้ถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรมแล้ว ซึ่งหลายธุรกิจเราต่างก็คุ้นเคยชื่อกันดี ไม่ว่าจะเป็น…
1) AWS (Amazon) : ใช้ชุดข้อมูลจาก Shutterstock ฝึกฝน AI ของตัวเอง เพื่อให้บริการในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สื่อบันเทิง ร้านค้าปลีก แฟชั่น ท่องเที่ยว และอื่นๆ นอกจากนี้ยังใช้แนะนำสินค้าบนเว็บไซต์ เพื่อให้ลูกค้าค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยใช้ข้อมูลจากประวัติการค้นหา การซื้อขาย และการเข้าดู มาเป็นตัวพัฒนาระบบของตนเอง
2) Google : ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์ร่วมกับระบบ Reverse Image Search ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้ค้นพบภาพที่ใกล้เคียงกับที่เรามีอยู่ในมือ เพียงอัปโหลดภาพเข้าไป ภาพที่ใกล้เคียงในโลกออนไลน์ก็จะปรากฏออกมา
3) X (Twitter) : ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์ในการตรวจสอบคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เนื้อหารุนแรง คำพูดแสดงความเกลียดชัง และการล่วงละเมิดทางเพศ
4) Netflix : ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์ในการคำนวณเพื่อปรับความเหมาะสมตามแต่ละบุคคล ตั้งแต่ตัวอย่างภาพวิดีโอ การเล่นอัตโนมัติ รวมถึงหน้าปกคลิปที่เปลี่ยนไปตามแต่ละบัญชี อีกทั้งยังมีระบบแนะนำหนังที่น่าสนใจในแต่ละฤดูกาล ทำให้ผู้ไม่พลาดหนังใหม่ๆ ที่เข้ามา
5) Walmart : ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์ของ Shutterstock กับระบบจ่ายเงินอัตโนมัติแบบไร้พนักงาน ลูกค้าสามารถสแกนและชำระสินค้าโดยไม่ต้องผ่านแคชเชียร์ รวมถึงใช้จัดการระบบหลังบ้าน เติมสินค้า และติดตามลูกค้าว่าเดินไปตรงไหนภายในร้านอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างบริษัทที่นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิทัศน์ของ Shutterstock มาใช้ให้เกิดประโยชน์และสร้างข้อได้เปรียบในอุตสาหกรรมของตนเอง
ทำไมต้องเป็น Shutterstock คอมพิวเตอร์วิทัศน์?
Shutterstock คือผู้ริเริ่มในการพัฒนาคอมพิวเตอร์วิทัศน์ควบคู่ไปกับ AI เพื่อใช้สำหรับองค์กรธุรกิจ ด้วยเนื้อหาคุณภาพสูง มี Metadata ต่อรูปครบถ้วน แม่นยำ และผ่านการตรวจสอบโดยมนุษย์และ AI ควบคู่กัน เพื่อให้เนื้อหาที่ถูกนำมาฝึก AI ต่อไปนั้นถูกต้องและไร้อคติ
รวมถึงมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ปัจจุบันผลงานบนเว็บของ Shutterstock มีรวมกันกว่า 800 ล้านชิ้นงาน และมีชุดข้อมูลภายในผลงานเหล่านั้นรวมกันถึง 8 แสนล้านจุด ทำให้เทคโนโลยีนี้ของ Shutterstock มีจุดเด่นคือ
[ ] มีความแม่นยำสูง สามารถระบุวัตถุและสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ แม้จะถูกบดบังบางส่วนก็ตาม
[ ] ปรับขนาดตามธุรกิจ แม้ว่าข้อมูลจะมีมากมายมหาศาล แต่ระบบนี้สามารถปรับขนาดสัดส่วนได้ตามธุรกิจ ไม่ว่าจะมีขนาดใดก็ตาม
[ ] มีความยืดหยุ่น สามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละแอปพลิเคชันได้ เช่น สามารถเลือกระบุวัตถุ ฉาก หรือเหตุการณ์เฉพาะในแต่ละภาพหรือวิดีโอ หรือจะสร้างคำอธิบายจากภาพและวิดีโอนั้นก็ได้
อีกประเด็นที่ทำให้คอมพิวเตอร์วิทัศน์ของ Shutterstock แตกต่างจากเจ้าอื่นแบบชัดเจนก็คือ ข้อมูลที่ถูกนำมาฝึก AI ได้รับการยินยอมจากเจ้าของผลงาน 100% แถมเจ้าของผลงานยังได้รับส่วนแบ่งชัดเจนจากการนำผลงานมาฝึก AI ด้วย ทำให้ Shutterstock เป็นเจ้าแรกที่ทำแบบถูกต้องตามจริยธรรม ให้ทุกคนที่ใช้งานเกิดความมั่นใจและไร้กังวล
ปลดล็อกขีดจำกัดทุกอุตสาหกรรมไปพร้อมกัน
คอมพิวเตอร์วิทัศน์ คือ เทคโนโลยีขั้นสูงและครอบคลุมการใช้งานในทุกอุตสาหกรรม โดยใช้พลังแห่งการตรวจจับภาพและวิดีโอเป็นตัวขับเคลื่อน หากคุณกำลังมองหาโซลูชันจากคอมพิวเตอร์วิทัศน์ที่แม่นยำ ใช้งานง่าย ปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น และถูกจริยธรรม Shutterstock คือคำตอบ
หากท่านใดสนใจนำไปใช้งานสามารถติดต่อทีมงาน Number 24 x Shutterstock ได้ที่
LINE OA : @Number24
Mission To The Moon x Number 24 x Shutterstock
