สหรัฐฯ เตรียมยกระดับเฝ้าระวัง TikTok แอปฯ สัญชาติจีน หลังเห็นเป็นภัยต่อความมั่นคง

106
1200x630 US TikTok Security Risk

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความนิยมในการเล่นแอปพลิเคชัน TikTok เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ ที่พบจำนวนผู้สมัครใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok มากถึง 30 ล้านคน ขณะที่ประเทศอินเดียก็พบว่ามีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok มากถึง 400 ล้านคน อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าว The Wall Street Journal รายงานว่า ทางการรสหรัฐฯ ได้เห็นถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงจากใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok ที่เป็นแอปพลิเคชันสัญชาติจีน ซึ่งอาจส่งกระทบต่อความมั่นคงภายในสหรัฐฯ ได้

มาตรการในการควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok เคยถูกบังคับใช้มาแล้วในช่วงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีการออกมาตรการควบคุม การเผยแพร่สื่อต่างๆ จากแพลตฟอร์มต่างๆ ของประเทศจีน (อย่าง We Chat) หรือแม้แต่มีคำสั่งห้ามไม่ให้บริษัทหรือบุคคลในสหรัฐฯ เข้าร่วมลงทุนกับทาง ByteDance ที่เป็นบริษัทแม่ และเจ้าของแอปพลิเคชัน TikTok ทว่ามาตรการที่ออกมานั้น ยังไม่มีประสิทธิภาพในการบังคับใช้ทางปฏิบัติที่มากพอ ดังนั้นภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จึงมีการปรับมาตรการต่างๆ ให้มีขอบเขตในการบังคับใช้ที่กว้างมากยิ่งขึ้น

ด้าน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ระบุถึง ความเสี่ยงจากการติดตั้งแอปพลิเคชันต่างประเทศ ที่อาจเข้ามาดึงข้อมูลด้านความมั่นคงภายในของสหรัฐฯ ได้ เนื่องจากการติดตั้งแอปพลิเคชัน TikTok หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ จากต่างประเทศ จำเป็นที่จะต้องให้ผู้ใช้งานกดยินยอมให้บุคคลที่สามสามารถตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวได้ (Third-party Auditing) อีกทั้งความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานยังเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทที่ผลิตแอปพลิเคชัน นั้นๆ อีกด้วย

ด้าน Gina Raimondo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผยในบทสัมภาษณ์ว่า ควรจะต้องมีกฎหรือข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากการใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok เป็นภัยความมั่นคง และกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของประชาชนชาวสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ นอกจากนี้ฝ่ายบริหารภายใต้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ผ่านมาขาดความจริงจัง และไม่สามารถนำมาใช้บังคับใช้ให้เห็นผลได้จริง

ขณะที่สถานทูตจีนในสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ควรที่จะโยงเรื่องการใช้งานในแอปพลิเคชัน TikTok ไปสู่ประเด็นเรื่องภัยความมั่นคงของสหรัฐฯ และทำให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง อีกทั้งการดำเนินการของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจจะต้องสะดุดลง

อย่างไรก็ตาม Patrick Jackson ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี จาก Disconnect Inc. บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้ความเห็นว่า ชาวสหรัฐฯส่วนมาก ไม่ได้มีมุมมองว่า TikTok เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ นอกจากนี้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ ยังมองว่าการใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok เป็นเหมือนการใช้งานบนแอปพลิเคชันอื่นๆ อย่าง Instagram หรือ Snapchat ดังนั้น จึงเป็นที่น่าจับตามองว่า มาตรการที่สหรัฐฯ จะใช้ระงับการเผยแพร่สื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน จะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต


อ้างอิง:
https://on.wsj.com/3rodFoH
https://on.wsj.com/3okBTye

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews

Advertisements
Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่