การทำงานจากที่บ้านดูเหมือนจะกลายเป็นการทำงานกระแสหลักในปัจจุบันไปแล้วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม คำถามที่ตามมาจากเหล่าพนักงานที่ต้องทำงานจากที่บ้านก็คือ หัวหน้างานของเราจะสามารถเห็นศักยภาพการทำงานของเราได้อย่างไรในเมื่อเราไม่ได้เข้าออฟฟิศ? และจะมีการประเมินเพื่อเลื่อนขั้นในการทำงานอย่างไร?
ด้วยสภาวะการณ์ดังกล่าว การทำงานจากที่บ้านหรือนอกสถานที่บีบบังคับให้บริษัทและนายจ้างมีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการประเมินผลการทำงานของพนักงานเสียใหม่ เนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่ต้องประเมินผลงานผ่านตัวชี้วัดที่ไม่จำเป็นอย่างการเข้า-ออกงานตรงเวลา หรือความขยันขันแข็งในช่วงเวลางาน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี และรูปแบบการประเมินในรูปแบบใหม่ยังจะนำไปสู่การประเมินผลงานพนักงานและการเลื่อนขั้นเป็นไปอย่างยุติธรรมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังส่งผลมีต่อองค์กรอีกด้วย Emilio Castilla อาจารย์จาก MIT Sloan School of Management กล่าวกับ Business Insider ว่า นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่นายจ้างจะทบทวนถึงวิธีการดั้งเดิมที่ใช้ในการประเมินผลงานพนักงาน
โดยการประเมินผลงานพนักงานสามารถแบ่งออกเป็น 2 หมวดหมู่ใหญ่ๆ ได้แก่ การประเมิน Input ที่วัดผลงานที่ก่อให้เกิดความสำเร็จของชิ้นงาน และ Output คือการวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากผลงานชิ้นต่างๆ อย่างไรก็ตามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การประเมินผลงานในรูปแบบดังกล่าวเริ่มไม่ตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบัน โดย พนักงานสามารถแสร้งเป็นขยันทำงานได้ก็ต่อเมื่อถึงช่วงเวลาการประเมินผลงาน ส่งผลให้เกิดระบบอุปถัมถ์ขึ้นภายในองค์กรตามมา
ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แผนกทรัพยากรมนุษย์ของหลายบริษัทเริ่มที่จะเสาะหาวิธีการประเมินผลงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยจะหันมาประเมินผลการทำงานจากเนื้องานที่พนักงานทำ มากกว่าการประเมินผลงานจากศักยภาพการทำงานที่สามารถแกล้งทำได้ โดยการประเมินผลงานจากเนื้องานของพนักงานจะต้องมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ของบริษัท ไม่ใช่เพียงแค่การนับจำนวนงานที่พนักงานสำเร็จเพียงเท่านั้น แต่ยังจะต้องเพ่งพิจารณาถึงผลลัพธ์และคุณภาพของงานอีกด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับการประเมินผลงานในกลุ่มของงานทักษะสูง
ปัจจุบัน Gusto ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการประเมินผลงานของบริษัทหลังจากที่ต้องมีการทำงานจากที่บ้านหรือนอกสถานที่ โดยก่อนหน้านี้บริษัทจะทำการประเมินผลงานผ่านรายงานผลงานของพนักงานทุก 6 เดือน แต่ในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนจากการทำรายงานทุก 6 เดือน เป็นการตั้งคำถามเพื่อประเมินผลงานของพนักงานแทน เช่น ผลิตภัณฑ์ใหม่ของนายเอช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัทหรือไม่? โดยคำถามเหล่านี้จะนำไปสู่การอธิบายแบบปลายเปิดที่จะเปิดเผยถึงผลงานของพนักงานในที่สุด
Eddie Kim CTO ของ Gusto ระบุว่า ในปัจจุบันเราไม่สามารถมองเห็นหรือสังเกตได้ว่าพนักงานนั่งทำงานนานแค่ไหน อย่างไรก็ตามเราสามารถมองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่พนักงานนำมาให้แก่บริษัท
อ้างอิง
https://bit.ly/3pYV5Dk
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/news/
