สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน คณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมเสนอร่างกฎหมายที่จะกำหนดมาตรฐานของพอร์ตชาร์จของโทรศัพท์สมาร์ตโฟน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องที่จะวางขายในประเทศสมาชิกทั้ง 27 ประเทศ ให้เป็นพอร์ต USB-C ทั้งหมด ด้วยจุดประสงค์ในการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อความสะดวกสบายของผู้บริโภค โดยมีการคาดการณ์ว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อ Apple โดยตรงเนื่องจากโทรศัพท์สมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในตลาดได้ปรับเปลี่ยนมาใช้พอร์ตชาร์จแบบ USB-C มาสักระยะหนึ่งแล้ว
ก่อนหน้านี้ในปี 2018 คณะกรรมาธิการยุโรป ได้มีความพยายามที่จะออกมาตรการเพื่อกำหนดพอร์ตชาร์จมาตรฐานมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้กลายเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ โดย ณ ขณะนั้น Apple ออกโรงโต้แย้งว่า การกำหนดพอร์ตชาร์จมาตรฐานให้เป็นพอร์ต USB-C ทั้งหมด จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อีกทั้งจะยังส่งผลให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์ปริมาณมหาศาลจากการที่ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนสายชาร์จอุปกรณ์
โดยจากการสำรวจของคณะกรรมาธิการยุโรป ในปี 2019 พบว่าสายชาร์จที่จัดจำหน่ายอยู่ในประเทศสมาชิกมีสัดส่วนเป็น USB micro-B อยู่ที่ 50%, USB-C อยู่ที่ 29% และสายชาร์จ Lightning อยู่ที่ 21% ขณะที่ในปี 2020 รัฐสภายุโรป ในมีมติเห็นชอบ 582 ต่อ 40 เสียง ให้คณะกรรมาธิการยุโรปออกมาตรการให้ผู้บริโภคในสหภาพยุโรปไม่จำเป็นต้องซื้อที่ชาร์จใหม่พร้อมกับอุปกรณ์ใหม่แต่ละเครื่องอีกต่อไป เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ และผลักดันให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณสำคัญของการผลักดันกฎหมายพอร์ตชาร์จมาตรฐานของสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ หลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปพยายามที่จะผลักดันมาตรการควบคุมพอร์ตชาร์จมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ปัจจุบันคณะกรรมาธิการยุโรปอยู่ในระหว่างการจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าว และเตรียมที่จะเสนอให้รัฐสภายุโรปพิจารณาและลงมติเห็นชอบต่อไปในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
อ้างอิง:
https://yhoo.it/3yZWECp
https://bit.ly/2UsclDn
https://bit.ly/3k6yJee
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/news/
