สี จิ้นผิง ดันนโยบาย ‘ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน’ เพื่อขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำในจีน

725
ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้แถลงถึงนโยบายในการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจและการเงินของพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2021 ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจของจีนยุคใหม่จะให้ความสำคัญไปที่เรื่องของ “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” หรือ Common Prosperity ที่จะผลักดันให้เกิดการกระจายความมั่งคั่งให้กับประชาชนทุกคนในประเทศอย่างเท่าเทียมกัน โดยถือเป็นการส่งสัญญาณสำคัญว่ารัฐบาลจีนจะหันมาเน้นย้ำ และให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างจริงจัง

ทั้งนี้หลักการความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน หรือ Common Prosperity ปรากฏครั้งแรกในสมัยของ ประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตุง แต่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในยุคของประธานาธิบดีเติ้ง เสี่ยวผิง ที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีการนิยามว่าการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคของประธานาธิบดีเติ้ง เสี่ยวผิงจะเปิดโอกาสให้คนบางกลุ่มมีฐานะร่ำรวยขึ้นมาก่อนเพื่อเป็นการเปลี่ยนผ่านสู่ความเจริญรุ่งเรืองรวมกันในอนาคต อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่า หนทางสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในยุคสมัยของสี จิ้นผิง จะอยู่ที่การกระจายรายได้ที่เป็นธรรมมากขึ้น จึงถือเป็นสาเหตุที่ในปี 2021 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เอ่ยถึงคำว่าความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันมากกว่าทุกปีนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง

ทั้งนี้ในถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อวันอังคาร ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการขจัดกลุ่มที่มีรายได้ที่ไม่เป็นธรรม หรือมีรายได้ที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งจะพยายามเข้าควบคุมดูแลกลุ่มที่มีรายได้สูงอย่างสมเหตุสมผล โดยรัฐบาลจะดำเนินการปรับนโยบายภาษี นโยบายประกันสังคม และงบประมาณเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีฐานะดีขึ้นและสามารถเข้าถึงการศึกษาที่ดีได้อย่างทั่วถึง

Advertisements

ในปี 2020 จากรายงานของบริษัท Credit Suisse จีนมีประชากรที่มีทรัพสินย์มากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อยู่ราว 5.28 ล้านคน โดยมีเพียงประชากรของประเทศเพียง 1% เท่านั้นที่ครอบครองทรัพสินย์รวมกันกว่า 30.6% ของประเทศ ในขณะที่จีนมีประชากรที่ถูกจัดเป็นชนชั้นกลางที่มีรายได้ 15,392 ถึง 77,025 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี อยู่ราว 400 ล้านคน และประชากรอีก 600 ล้านคนที่มีรายได้ประมาณ 1,848 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี

Advertisements

อย่างไรก็ตาม ทางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเองก็รับรู้ถึงความซับซ้อนและความยากของการดำเนินนโยบายดังกล่าว และได้เริ่มร้องขอให้รัฐบาลท้องถิ่นในการเร่งดำเนินการเพื่อให้เห็นผลภายในปี 2035 และจะมีการดำเนินโครงการนำร่องในการลดช่องว่างทางรายได้ในพื้นที่จังหวัดเจ้อเจียง ในปี 2025 ที่จะถึงนี้

อ้างอิง:
https://bloom.bg/3j8wrvZ
https://bit.ly/3jeOIbf
https://cnb.cx/3kxcQ8r
https://bit.ly/3y9dj5k

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews

Advertisements