3 สิ่งที่เรามักจะทำพลาด เมื่อตั้ง New Year’s Resolution

263
New Year’s Resolution

“New Year’s Resolution” เป็นสิ่งที่เราสามารถตั้งขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย แต่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้ “สำเร็จได้ยาก” โดยจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย Scranton พบว่า มีคนเพียง 19% ที่สามารถทำตาม New Year’s Resolution ของตัวเองได้เป็นเวลา 2 ปี และมีผู้คนมากถึง 30% ที่ถอดใจตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มกราคม เมื่อผ่านพ้นช่วงปีใหม่มา

จากตัวเลขสถิติข้างต้นทำให้ Amy Morin ในฐานะนักจิตบำบัด นำเสนอข้อผิดพลาด 3 ข้อ ที่เราควรจะหลีกเลี่ยงเมื่อตั้ง New Year’s Resolution เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้

1. อย่าตั้งเป้าหมายที่ไม่สามารถวัดผลได้ (Do not establish non-measurable goals)

ผู้คนส่วนใหญ่มักจะตั้งเป้าหมายว่าในปีหน้า ฉันจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น หรือ ฉันจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามในแง่ของการลงมือทำ เป้าหมายเหล่านี้มักจะไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมันไม่สามารถวัดผลได้ ยกตัวอย่างเช่น การเข้าฟิตเนส หรือ ดื่มน้ำให้มากขึ้นนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราประสบความสำเร็จในการมีสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะเราอาจจะไปสังสรรค์ต่อหลังออกกำลังกายเสร็จก็เป็นได้ 

Advertisements

ดังนั้นการตั้ง New Year’s Resolution ควรจะเป็นเป้าหมายที่สามารถวัดผลได้ เช่น เราจะลดน้ำหนักให้ได้ 20 กิโลกรัม, เราจะนอนวันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย หรือ เราจะวิ่งวันละ 5 กิโลเมตร เพื่อที่เราจะสามารถรับรู้ได้ว่าเราสามารถปฏิบัติตามเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ได้อย่างแท้จริงและชัดเจนมากขึ้น

2. อย่าตั้งเป้าหมายที่เกินจริง (Do not set your sight too high)

การตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อาจทำให้เรารู้สึกฮึกเหิม แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องลงมือทำ อย่างไรก็ตามการตั้งเป้าหมายนั้นจะส่งผลให้คุณรู้สึกอ่อนล้าและท้อแท้ได้ในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการทำตามเป้าหมายระยะสั้นมากกว่า

หากเป้าหมายของเราดูยิ่งใหญ่และเกินจริง เราสามารถตั้งช่วงระยะความคืบหน้าของเป้าหมายเช่น หากเราต้องการจะเก็บเงินให้ได้เดือนละ 30,000 บาท คุณอาจจะเริ่มต้นการออมให้ได้เดือนละ 10,000 บาทหรือมากกว่าไว้ก่อน เพื่อให้เราเกิดแรงจูงใจในการดำเนินการตามเป้าหมายให้ประสบความสำเร็จ

Advertisements

3. ไม่จำเป็นจะต้องเริ่ม New Year’s Resolution ในวันที่ 1 มกราคม เสมอไป ( New Year’s Resolution are not required to begin on January 1)

ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ผู้ที่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองได้สำเร็จล้วนแล้วมักจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้วยสาเหตุนี้เองจึงทำให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในทันทีทันใดเมื่อวันที่ 1 มกราคมมาถึง จึงมักจบลงด้วยความล้มเหลว เนื่องจากผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาไม่พร้อมและกดดันที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง

หากเราต้องการที่จะทำ New Year’s Resolution ให้ประสบความสำเร็จ เราควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราเมื่อเรารู้สึกพร้อมเพื่อลดความรู้สึกกดดัน ดังนั้นการเตรียมการเพื่อเริ่มต้นลงมือทำ New Year’s Resolution ของเราให้เป็นจริงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยอาจจะเป็นตั้งแต่วันนี้ หรือ ช่วงกลางเดือนมกราคม ไม่จำเป็นจะต้องเป็นวันที่ 1 มกราคม เพียงอย่างเดียวเท่านั้น 

อ้างอิง
https://bit.ly/3FFsNTf

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/news/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่