สำนักข่าวต่าวประเทศรายงาน เอลซัลวาดอร์ ประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศให้สามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย หลังจากที่ประธานาธิบดี Nayib Bukele ได้ประกาศแผนที่จะแจกจ่ายบิตคอยน์มูลค่า 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ประชาชนผ่านแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ชื่อว่า ‘Chivo’ โดยประธานาธิบดี Nayib ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ชาเอลซัลวาดอร์ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายจากค่าบริการทางการเงินได้รวมกันราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี
ทั้งนี้ รัฐบาลได้เริ่มทำการแจกจ่ายบิตคอยน์ให้แก่ประชาชน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 กันยายน 2021) แต่อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวกลับพบเจอกับอุปสรรคทางเทคนิคตั้งแต่วันแรก เนื่องจากแอปพลิเคชัน Chivo ไม่ปรากฏบน App Store เพื่อให้ประชาชนทำการดาวน์โหลด ขณะที่ประชาชนบางส่วนยังไม่สามารถลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์ หรือเลขบัตรประชาชนได้
ด้านรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ก็เร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานบิตคอยน์ อาทิ ตู้ ATM ที่ประชาชนสามารถกดเงินสดออกมาได้กว่า 200 แห่ง และตู้รับชำระเงินด้วยบิตคอยน์พร้อมเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ประชาชนที่สนใจใช้งาน โดยรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ในปัจจุบันถือบิตคอยน์อยู่ 550 เหรียญ จากการเข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 150 เหรียญ หลังจากที่มูลค่าของบิตคอยน์ ปรับตัวลดลงกว่า 9.9% ภายในระยะเวลาเพียงชั่วยข้ามคืน
ก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้ออกโรงเตือนรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ ถึงความเสี่ยงของการนำบิตคอยน์มาใช้ในระบบการเงินของประเทศ เนื่องจากรัฐบาลจะสูญเสียการควบคุมระบบการเงิน และ จะสร้างช่องโหว่ให้เม็ดเงินไหลออกนอกประเทศโดยปราศจากการตรวจสอบ ขณะที่เจ้าของธุรกิจใน เอลซัลวาดอร์ต่างชื่นชอบนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากเป็นการเพิ่มช่องทางการชำระเงินให้แก่ลูกค้า อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของเอลซัลวาดอร์คือการที่ประชากรมากกว่า 50% ประเทศยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
อ้างอิง:
https://on.wsj.com/2Vmn1DY
https://reut.rs/2X3nhIo
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/news/
