สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ทีมนักวิจัยนานาชาติได้เผยแพร่ผลการศึกษาที่ยืนยันว่าวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้พบผู้มีภาวะซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้น 76 ล้านราย และภาวะวิตกกังวล 53 ล้านรายจาก 204 ประเทศทั่วโลก โดยผู้หญิงและกลุ่มคนรุ่นใหม่ถือเป็นกลุ่มประชากรที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจิตจากสถานการณ์โควิด-19 มากกว่ากลุ่มผู้ชายและผู้สูงอายุ
Dr. Damian Santomauro จากมหาวิทยาลัย Queenland ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมนักวิจัยผู้จัดทำผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า ประชากรที่เป็นผู้หญิงจะได้รับผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจที่เป็นผลพวงมาจากวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากผู้หญิงมักมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลสมาชิกในครัวเรือน อีกทั้งผู้หญิงส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มที่จะมีรายได้และงานที่มั่นคงน้อยกว่าผู้ชาย ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ที่กีดกั้นให้พวกเขาไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ประกอบกับคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะว่างงานหรือสถานะทางเศรษฐกิจที่ด้อยกว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet ฉบับนี้ ทำการรวบรวมและอ้างอิงข้อมูลจากผลการศึกษาที่ศึกษาเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฉบับอื่นๆ อีก 48 ฉบับ ที่ตีพิมพ์ระหว่าง 1 มกราคม 2020 ถึง 29 มกราคม 2021 โดยทีมนักวิจัยพบว่าการกระจุกตัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจมีความสอดคล้องกับผลกระทบในด้านอื่นๆ จากโควิด-19 เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และการเคลื่อนย้ายของผู้คน (Human Mobility)
ข้อมูลจาก ผลการศึกษาพบว่าทั่วโลกมีผู้มีภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้นถึง 28% และผู้มีภาวะวิตกกังวลเพิ่มขึ้นถึง 26% หากเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย กว่า 2 ใน 3 ของสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นกับกลุ่มประชากรที่เป็นผู้หญิง
Dr. Damian Santomauro กล่าวทิ้งท้ายว่า ทีมนักวิจัยของเขาพบว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุดมักจะเป็นพื้นที่ที่ผู้คนได้รับผลกระทบทางจิตใจมากที่สุดเช่นเช่นกัน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรปตะวันตก โดยเขาหวังว่าผลการศึกษาของเขาและทีมจะช่วยให้ประชาคมโลกมีความตื่นตัวเรื่องต่อเรื่องสุขภาวะทางจิตมากยิ่งขึ้น
อ้างอิง
https://bit.ly/3v3oX1z
https://bit.ly/3FHclCu
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/news/
