Glassdoor เว็บไซต์หางาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างพนักงานบริษัทต่างๆ ได้ออกมาเปิดเผยว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา อัตราการพูดถึงสุขภาพจิตของพนักงานในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นกว่า 500% อีกทั้งอัตราการพูดถึงภาวะ Burnout ก็เพิ่มขึ้นกว่า 128% เช่นเดียวกัน โดยพนักงานเริ่มมีการพูดถึงภาวะ Burnout เริ่มครั้งแรกในช่วงเดือนมีนาคม 2020 เมื่อสหราชอาณาจักรประกาศล็อกดาวน์ และพนักงานบริษัทถูกสั่งให้ Work From Home
ข้อมูลจาก Beamery ระบุว่าการ Burnout เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พนักงานในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรกว่า 53% คิดจะลาออก และส่งผลให้เกิด The Great Resignation
นอกจากนี้ Glassdoor ยังพบว่า แม้ว่าพนักงานจะพยายามทำให้ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวสมดุลกัน แต่พนักงานกว่าครึ่งบอกว่า ไม่ว่าพวกเขาจะแบ่งเวลาอย่างไร สุดท้ายแล้วงานก็จะค่อยๆ เข้ามากินเวลาส่วนตัวอยู่ดี และพนักงานกว่า 35% คิดว่าพวกเขาไม่สามารถมี Work-life Balance ที่ดีได้ในตำแหน่งงานที่เขาทำอยู่
นอกจากนี้รายงานของ Glassdoor ยังได้ระบุอีกว่าสิ่งที่พนักงานคาดหวังจากคำว่า Work-life Balance ไม่ใช่แค่การเลิกงานเร็ว หรือการที่บริษัทอนุญาตให้ไม่ต้องเช็คอีเมลหลัง 6 โมงเย็น แต่รวมถึงการที่พนักงานจะสามารถเลือกชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันได้ เลือกช่วงเวลาที่ต้องการทำงานได้ เลือกสถานที่ทำงานได้ รวมไปถึงสามารถสลับเวลาในการทำงานและการทำธุระส่วนตัวในแต่ละวันได้
แม้ว่าความคาดหวังเหล่านี้จะดูเหมือนว่าเป็นภาระของนายจ้างแต่พนักงานกว่า 53% คิดว่า Work-life Balance เป็นสิ่งที่ต้องสร้างร่วมกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
อ้างอิง
https://bit.ly/3aYVyfK
https://bit.ly/3E1IYZL
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/news/
