จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลให้สหรัฐอเมริกา และชาติพันธมิตรตะวันตกอีกหลายประเทศได้เริ่มดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียในหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในนั้นคือการที่ สหรัฐฯ ระงับการเข้าถึงทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียมูลค่ากว่า 630,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของรัสเซียเป็นอย่างมาก และทำให้ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าลงในระยะเวลาอันรวดเร็ว
สำนักข่าว CNN รายงานว่าแม้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเปรียบเสมือนอาวุธหนักทางเศรษฐกิจที่ทำให้สหรัฐฯ นั้นกุมความได้เปรียบในการเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ถือว่าเป็นสกุลเงินที่มีความสำคัญอย่างมากในระบบการเงินโลก โดยปัจจุบันพบว่า 60% ของทุนสำรองระหว่างประเทศราว 12.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลกเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ และนั่นถือเป็น ‘สิทธิพิเศษ’ ให้แก่สหรัฐฯ ในการดำเนินธุรกรรมระหว่างประเทศโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินที่รุนแรงของสหรัฐฯ ในการตอบโต้รัสเซียในครั้งนี้ก็เปรียบเสมือนกับดาบสองคม เนื่องจากการคว่ำบาตรในครั้งนี้เปรียบเสมือนกับสัญญาณเตือนถึงประเทศต่างๆ ถึงความเสี่ยงในการถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศในรูปแบบของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ ประเทศต่างๆ ถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศที่หลากหลายขึ้น และหลีกเลี่ยงการถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะอาจจะเกิดขึ้นแบบรัสเซีย
Michael Hatnett นักวางกลยุทธ์ทางการเงินจาก Bank of America ออกมาเปิดเผยว่า การทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลายมาเป็น ‘อาวุธ’ ทางการเมือง จะยิ่งเป็นการด้อยค่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และจะยิ่งทำให้การถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เปลี่ยนไป
ขณะที่รายงานของ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังพบว่า ส่วนแบ่งการถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยพบว่าเงินสำรอง 1 ใน 4 ได้เปลี่ยนไปเป็นอยู่ในรูปแบบของสกุลเงิน หยวน และอีก 3 ใน 4 เปลี่ยนไปเป็นสกุลเงินของประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ
Serkan Arslanalp ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์จาก IMF ให้ความเห็นว่า นี่เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ระบบการเงินโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงขึ้นหลังจากที่ยึดมั่นในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มานานถึง 80 ปี ในขณะที่เงินหยวนเอง ก็มีแนวโน้มที่จะเข้ามามีบทบาทต่อระบบการเงินในโลกมากขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ซาอุดีอาระเบียก็อยู่ในระหว่างการเจรจากับทางการจีนในการใช้เงินสกุลเงินหยวนแทนการใช้สกุลเงินของสหรัฐฯ สำหรับการซื้อขายน้ำมันดิบ
ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน สหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหา และความเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ระบบการเงินโลกยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปในเร็วๆ นี้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงต่อไป ขณะที่ธุรกรรมทั่วโลกกว่า 40% นั้นยังอยู่ในรูปแบบของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (เมื่อเทียบกับ 3% ในรูปแบบสกุลเงินหยวน) ทว่าสัญญาณเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเป็นความท้าทายใหม่ต่อสกุลเงินของสหรัฐฯ และคำถามที่ว่าสหรัฐฯ จะสามารถรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเงิน และภาวะเศรษฐกิจของโลกได้หรือไม่ จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูกันต่อไปในอนาคต
แปลและเรียบเรียงจาก:
https://cnn.it/3K65uE9
https://cnn.it/37c1Dai
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews
