สำนักข่าว BBC รายงานว่า Tesla เตรียมที่จะระงับการใช้งานฟีเจอร์ ‘Rolling Stop’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟังชั่น Full Self-Driving Beta (FSDB) หรือระบบการขับขี่แบบไร้คนขับบนรถยนต์ของ Tesla สืบเนื่องจากที่ฟีเจอร์ “Rolling Stop’” ทำได้เพียงแค่ให้รถชะลอความเร็ว เมื่อเจอสัญญาณจราจรอย่างป้าย “หยุด” เท่านั้น โดยฟีเจอร์ Rolling Stop จะทำงานเมื่อรถยนต์มีความเร็วต่ำกว่า 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม การทำงานของฟีเจอร์ดังกล่าวกลับขัดแย้งต่อกฏหมายจราจรของสหรัฐฯ ที่ระบุว่า ยานพาหนะทุกชนิดจะต้อง “หยุดนิ่ง” เมื่อพบสัญญาณหยุด ส่งผลให้ทาง Tesla ต้องเรียกรถคืน เพื่อทำการอัปเดตซอฟต์แวร์กว่า 54,000 คัน
ข้อมูลจากทางด้าน องค์การความปลอดภัยบนท้องถนนแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ระบุว่า การที่รถไม่หยุดในบริเวณที่มีป้ายหยุด จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน อย่างไรก็ตาม Elon Musk ประธานบริษัท Tesla เปิดเผยผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ฟีเจอร์ Rolling Stop ไม่ได้มีปัญหาต่อความปลอดภัยบนท้องถนน เนื่องจากฟีเจอร์ Rolling Stop จะทำให้ความเร็วของรถยนตร์ลดลง 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงป้ายหยุด และรถยนตร์จะสามารถเคลื่อนผ่านไปได้ เมื่อไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ บนเส้นทางได้อย่างปลอดภัย
ในเดือน มกราคมที่ผ่าน Tesla ได้ประชุมหารือร่วมกันกับ องค์การความปลอดภัยบนท้องถนนแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) โดยตัดสินใจที่จะยกเลิกฟีเจอร์ Rolling Stop เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน อีกทั้งทาง Tesla ได้ประกาศเรียกคืนรถยนตร์ Tesla รุ่น Model S, Model X (ปี 2016 – 2022), Model 3 (ปี 2017- 2022) และ Model Y (ปี 2020 – 2022) จำนวนมากถึง 54,000 คันทั่วสหรัฐฯ โดยการเรียกคืนรถนั้นเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ใช้งาน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Tesla ก็ยังคงยืนยันว่า การทำงานของระบบยังคงไม่มีปัญหาที่ร้ายแรงเนื่องจากความเร็วของรถถูกกำหนดไว้แล้ว และก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ผ่านป้ายจราจร ระบบจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมระหว่างขับขี่อยู่เสมอ อีกทั้งยังพบว่าที่ผ่านมายังไม่พบอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการใช้ระบบ Rolling Stop แต่อย่างใด
อ้างอิง:
https://bbc.in/34b0TkD
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#technology
